คสช.ส่อชะลอแท็บเล็ต ปี 57

คสช.ส่อชะลอแท็บเล็ต ปี 57

คสช.ส่อชะลอแท็บเล็ต ปี 57
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลา 14.00 น.วันที่ 27 พ.ค.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกลุ่มงานฝ่ายสังคมและจิตวิทยา ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ทั้ง 7 กระทรวงในกลุ่มนี้ได้นำเสนอโครงการเร่งด่วนและโครงการที่ดำเนินการในปีงบประมาณ 2557 รวมถึงโครงการที่จะต้องเสนอของบฯ ดำเนินการในปี 2558 โดยเป็นเพียงการรายงานให้ทราบ ยังไม่มีการไฟเขียวต่อโครงการใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ในส่วนของโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ1 นักเรียน ที่ยังเหลือการจัดซื้อตามปีงบฯ 56 อีก 1 โซน คือโซน 4 เนื่องจากมีการยกเลิกสัญญาต้องจัดประมูลใหม่นั้น พล.ร.อ.ณรงค์ยังไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับการให้ดำเนินการต่อ แต่ขอดูรายละเอียดก่อน



ปลัดศธ. กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังได้เสนอโยบายสำคัญที่คสช. ต้องเร่งดำเนินการให้ผบ.ทร. ทราบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบฯให้กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นเงิน 3,610 ล้านบาท เพื่อปล่อยให้กับผู้กู้รายใหม่ 204,000 ราย การของบฯ ซ่อมแซมอาคารที่เสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวที่ จ.เชียงราย 298 ล้านบาท และการของบฯ ค่าใช้จ่ายต่อหัวสำหรับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) โดยพล.ร.อ.ณรงค์ ชี้แจงถึงอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงว่าอยู่ในระหว่างจัดทำแนวปฏิบัติอยู่ เบื้องต้นจึงมอบอำนาจให้อนุมัติ หรือเดินหน้าโครงการตามแผนงานปกติ ตลอดจนงานที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น การประกาศใช้หลักสูตรใหม่ ที่ได้รับการเห็นชอบจากบอร์ดแล้ว ส่วนของงานบริหารงบประมาณและงานบริหารบุคคลอาจจะต้องเสนอให้พิจารณาก่อน หรือบางเรื่องอาจต้องเสนอผบ.ทบในฐานะหัวหน้าคณะคสช. พิจารณาด้วย ทั้งนี้พล.ร.อ.ณรงค์ ได้ขอให้แต่ละกระทรวงส่งผู้แทนไปประจำที่สำนักงานซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อประสานงานสำหรับกลุ่มนี้โดยเฉพาะด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับทิศทางโครงการแท็บเล็ตปีการศึกษา2557 นั้น จากการสอบถามแหล่งข่าวระดับสูงศธ. ได้ความว่า ศธ. ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับ พล.ร.อ ณรงค์ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบว่าควรแจกแท็บเล็ตเหมือนเดิม หรือปรับมาจัดเป็นห้องเรียนอัฉริยะ (Smart classroom) ซึ่งจัดการเรียนการสอนระบบไอทีแทน โดย เบื้องต้นผบ.ทร.ค่อนข้างเห็นด้วยกับแนวความคิดห้องเรียนอัฉริยะ ดังนั้นต่อจากนี้ศธ. จะต้องเปรียบเทียบว่าแจกแท็บเล็ตให้เด็กป.1 และม.1 ดีอย่างไร หากปรับมาจัดเป็นห้องเรียนอัจฉริยะดีอย่างไร ที่สำคัญรูปแบบไหนคุ้มค่าและเกิดผลประโยชน์กับเด็กมากที่สุด เพื่อให้บริหารจัดการงบฯที่มีจำกัด มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook