10 สุดยอดเคล็ดลับ ทำไงให้เก่งภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาที่ฟังยาก เนื่องจากภาษาอังกฤษจะมีการเชื่อมเสียงระหว่างพยางค์ และมีการกร่อนเสียงในคำที่ไม่มีความสำคัญในประโยค ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พูดจะพูดเร็วมากถึงมากที่สุด
โดยเฉพาะอเมริกันที่พูดราวกับว่าจะทำยังไงก็ได้ให้จบประโยคเร็วที่สุด วันนี้เราจึงมีเคล็ดการฝึกฝนให้น้องๆ ได้ลองนำไปใช้ เชื่อว่า หลายคนถ้าปฎิบัติตามนี้ละก็ จะใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่แพ้เจ้าของภาษาเลย…10 สุดยอดเคล็ดลับ ทำไงให้เก่งภาษาอังกฤษ
10 สุดยอดเคล็ดลับ ทำไงให้เก่งภาษาอังกฤษ
1. เริ่มจากการฟังอะไรที่ง่ายๆ จะได้มีกำลังใจไม่ท้อตั้งแต่แรก ทั้งนี้รวมทั้งที่เป็น slow speed เพราะในระยะแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับที่เป็น normal speed ซึ่งการฝึกฟังช้าๆ จะทำไรเราชินกับสำเนียง และสำนวนพูด’
2. ฟังเรื่องที่เราถูกใจ เพราะจะนำไปสู่ความสุขใจ ใส่ใจ และเข้าใจ มากกว่าฟังเรื่องที่เราไม่ค่อยสนใจหรือต้องทนฟัง
3. ให้ฝึกฟังเรื่องที่จบภายในเวลาสั้นๆ ในระยะเริ่มต้น ถ้าฝึกฟังเรื่องที่ยาวเกินไปจะทำให้สมองล้ารับไม่ไหว
4. ฟังพร้อมอ่าน หรืออ่านก่อนฟัง หรือฟังแล้วอ่าน จะฝึกแบบไหนก็ตามถนัด การอ่านจะช่วยผ่อนแรงในการสร้างความเข้าใจเรื่องที่ฟัง
5. ฟังพร้อมดูวีดิโอ การที่สามารถรับสารผ่าน 2 ประสาท คือ ทางหูและทางตา จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น ยิ่งถ้ามี subtitle ให้อ่านพร้อมกับชมภาพวีดิโอที่เคลื่อนไหว ยิ่งช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้นไปอีก
6. ฝึกฟังน้อยๆ แต่ฟังบ่อยๆ ดีกว่าฝึกฟังนานๆ แต่ไม่บ่อย เพราะฉะนั้นการฝึกฟังวันละ 15 นาทีแต่ฟังทุกวันใน 1 สัปดาห์ ย่อมดีกว่าในสัปดาห์หนึ่งฟังนานถึง 2 ชั่วโมง แต่ฟังครั้งเดียว
7. ลองฟังโดยใช้หูฟัง จะได้ยินสำเนียงชัดขึ้น ช่วยให้ง่ายในการฝึกออกเสียงตาม แต่อย่าเปิดเสียงดังเกินไปนะครับ ฟังนาน ๆ เดี๋ยวจะหูตึง
8. ฝึกฟังพร้อมพูดตาม การฝึกพูดตามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า เราฟังได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราฟังได้ถูกต้องเราก็น่าจะพูดได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ การฟังโดยมีภาระที่จะต้องพูดให้ได้ตามที่ฟังจะทำให้เราใส่ใจในการฟังมากขึ้น ไม่ใช่ฟังสักแต่ว่าฟัง
9. ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราจะอุทิศเวลาวันละ 20 – 30 นาทีเพื่อการฝึกฟังภาษาอังกฤษ ก็ต้องให้ทั้ง 1 ใจไปพร้อมกับ 2 หู ถ้าให้แต่หูไม่ให้ใจฝึกฟังเท่าไร ๆ ก็มักไม่ค่อยได้ผล
10. ฟังด้วยความสุข ถึงยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ไม่ได้แปลว่าฟังไม่ได้เรื่อง แม้ในระยะแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าท้อ แต่เรียนภาษาอังกฤษไม่มีทางลัด คนที่เอาแต่มองหาทางลัดและไม่ค่อยตั้งใจเดินไปตามทางตรงที่มีให้เดิน จะเดินไปถึงปลายทางได้ช้ากว่าคนที่ตั้งใจเดินไปตรงๆเสียอีก
ลองทำกันดูนะคะ ฝึกฝนเอาไว้บ่อยๆ ไม่เสียหาย ถ้าใครได้ผลดียังไง หรือมีวิธีอื่นๆ อยากแนะนำ ก็สามารมาแชร์กันได้นะคะ ยินดี ๆ จ้า^^
ข้อมูล:mmeschool.com, wegointer.com