มิว - ลักษณ์นารา สาวน้อยวัยใส กับการเรียนภาษาอังกฤษที่สนุกและมีความสุข

มิว - ลักษณ์นารา สาวน้อยวัยใส กับการเรียนภาษาอังกฤษที่สนุกและมีความสุข

มิว - ลักษณ์นารา สาวน้อยวัยใส กับการเรียนภาษาอังกฤษที่สนุกและมีความสุข
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอลัมน์ Interview
โดย I Get English Magazine

มิว - ลักษณ์นารา เปี้ยทา I love English สาวน้อยวัยใส กับการเรียนภาษาอังกฤษที่สนุกและมีความสุข

ฉบับนี้ I Get English พาคุณผู้อ่านมาพูดคุยกับนางเอกวัยใสจากวิก 3 น้องมิว-ลักษณ์นารา เปี้ยทา สาวน้อยตากลมโตที่หลายคนจดจำเธอได้เป็นอย่างดีจากบทบาทนางเงือกแสนสวยในละครเรื่อง "รักนี้หัวใจมีครีบ" และละครเรื่อง "สาปพระเพ็ง" ที่เพิ่งอำลาจอไปได้ไม่นานในเวลาทำงาน มิวอาจจะดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกันเพราะต้องปรับบุคลิกให้เข้ากับบทบาทที่ได้รับ แต่เมื่อถึงเวลาเรียน มิวก็เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความสุขและสนุกกับการเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนภาษา ฉบับนี้เราจะมาพูดคุยกับเธอถึงเรื่องสนุกๆ ในโรงเรียน สิ่งที่มิวอยากทำในอนาคต รวมทั้งทัศนคติเกี่ยวกับภาษาอังกฤษของสาวน้อยคนนี้

ตอนนี้น้องมิวกำลังเรียนอยู่ชั้นไหนคะ
"มิวเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เรียนศิลป์-ภาษาญี่ปุ่นค่ะ มิวเป็นคนไม่ชอบคณิตศาสตร์ แต่ชอบภาษา ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษ ก็เลยรู้สึกว่าศิลป์-ญี่ปุ่น นี่แหละน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะกับมิวที่สุด"

อยู่ที่โรงเรียน มิวได้ทำกิจกรรมสนุกๆเกี่ยวกับภาษาอะไรบ้าง เล่าให้เพื่อนๆ ฟังหน่อยค่ะ
"ที่โรงเรียนให้ความสำคัญกับทุกเทศกาลทั้งที่เป็นของสากลและของไทย นำมาประยุกต์ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์กับเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลHalloween ก็มีการแต่งตัวเป็นภูตผีต่างๆ ค่ะ มีการเล่นเกมภาษาอังกฤษ เช่น เกมครอสเวิร์ด เกมคำศัพท์วันคริสต์มาสจะมีประกวดร้องเพลงภาษาอังกฤษต่างๆทุกวันจันทร์จะเป็น English Speaking Day ที่ทุกคนจะต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษทั้งวัน ห้ามพูดภาษาไทยเลย เป็นอะไรที่ตื่นเต้นค่ะเพราะว่าเราได้พูดภาษาอังกฤษทั้งวัน แต่สำหรับน้องๆ ที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษเท่าไร บางทีก็มีพูดภาษาไทยบ้าง อังกฤษบ้างเหมือนกันค่ะ"

บรรยากาศของ English Speaking Day ที่โรงเรียนเป็นอย่างไร
"ก้าวเท้าเข้าไปโรงเรียนปุ๊บทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษเลยค่ะ ถ้าเจอคุณครูเราจะไม่พูดว่า "สวัสดีค่ะ" ต้อง Say hello พูดอังกฤษกันตั้งแต่เคารพธงชาติจนถึงตอนเย็นค่ะ คุณครูสอนเป็นภาษาไทยได้นะคะ แต่เราต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษ บางทีอาจจจะยากไปนิดสำหรับน้องๆ ที่เด็กกว่าเรา มิวกับเพื่อนๆ คิดว่าสนุกดีค่ะ เด็กสายศิลป์ชอบภาษาอยู่แล้ว ภาษาอังกฤษก็ค่อนข้างจะได้บ้าง ก็พูดสนุกสนานกันไป
ส่วนตัวน้องมิวเองชอบภาษาอังกฤษไหมคะ "ชอบค่ะ ชอบมาก... เป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษมากๆ (เน้นเสียง) แต่ว่าก็ไม่ค่อยเก่งมากค่ะ"

ชอบภาษาอังกฤษวิชาไหนมากที่สุด

"ตอนนี้มิวเรียนภาษาอังกฤษทั้งหมด 4 ตัวค่ะมี Grammar, Reading, Speaking แล้วก็ Writingกับ Reading ผสมกัน มิวชอบ Reading มากที่สุดเพราะมิวชอบอ่าน ส่วนใหญ่ reading จะให้อ่านหนังสือแล้วก็แปล ซึ่งก็ต้องหาคำศัพท์ มิวเป็นคนที่ชอบหาคำศัพท์อยู่แล้วเพราะต้องใช้ทุกวันก็เลยชอบหาใหญ่เลย สนุกดี บางทีก็แข่งกับเพื่อน ใครหาเสร็จก่อนคนนั้นก็ชนะ จริงๆ มันเป็นเกมที่คุณครูกำหนดขึ้นมา แบ่งเด็กเป็นกลุ่มๆ ถ้ากลุ่มไหนเสร็จก่อนจะได้คะแนนเก็บ แล้วเด็กทุกคนก็อยากได้คะแนนเก็บค่ะ ทุกคนก็มาดูกันว่ากลุ่มนี้ กลุ่มนั้นได้คำว่าอะไรบ้าง ก็ไปดูของเพื่อน (หัวเราะ) แล้วก็กลับมาเขียนของกลุ่มตัวเอง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เสร็จก่อน"

ถ้ามีเวลาว่าง มิวหาความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมให้ตัวเองยังไงบ้าง
"ส่วนใหญ่ก็จะอ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษค่ะถ้าคำไหนที่ไม่รู้หรือว่าไม่แน่ใจ ก็จะเปิดดิคชันนารีดูว่าแปลว่าอะไร เพราะว่าบางทีคำในภาษาอังกฤษมันมีความหมายเหมือนกัน แต่เป็นคำละคำกัน มีเยอะมากเลยค่ะพวก synonym ในภาษาอังกฤษ เราก็เลยต้องอ่านเยอะๆ หาคำศัพท์เยอะๆ มิวเป็นคนที่เวลาเจอฝรั่งหรือเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือจะนึกคำศัพท์ไม่ค่อยออก จะตื่นเต้น มือเย็นไปหมด เลยต้องพยายามหาคำศัพท์และพูดบ่อยๆ"

ใกล้จะจบมัธยมแล้ว มิวอยากเรียนต่อสาขาอะไรในมหาวิทยาลัยคะ
"ที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าอยากเข้าให้ได้มากที่สุดคือคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ อินเตอร์ค่ะ ถ้าไม่ติดจริงๆ ก็คงจะเรียนทางด้านภาษาที่มหาวิทยาลัยอื่น"

มีแรงบันดาลใจ หรือ idol ทางการเรียนไหม

"มิวมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งที่เขาจบอักษรศาสตร์จุฬาฯ พี่เขาเท่มาก เป็นไอดอลของหนูมาตั้งแต่เด็กๆ พี่เขาน่ารัก เป็นผู้หญิงที่เก่ง แล้วก็เป็นเหมือนดิคชันนารีเคลื่อนที่เลย ถามคำศัพท์อะไรก็รู้หมด และสามารถหาsynonym มาต่อกันได้เยอะมากเลย หนูก็เลยคิดว่าอยากเป็นแบบพี่เขาให้ได้ในสักวันค่ะ"

ตอนนี้เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไรบ้าง

"ก็มีลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษค่ะ พวก conversation และพวกแกรมมาร์นิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะเน้นพูดคุยมากกว่า"

อาชีพในฝันของมิว

"อาชีพในฝันเหรอคะ โห... มีหลายอาชีพมากๆ เลย ตอนเด็กๆ มิวอยากเป็นแอร์โฮสเตสแต่ตอนนี้มาทำงานในวงการแล้วก็เปลี่ยนไปเป็นล่ามหรือไม่ก็ไกด์ค่ะ"

มิวเป็นคนตั้งใจเรียนไหม

"ตั้งใจเรียนค่ะ บางทีซีเรียส แต่บางทีก็ชิลแล้วแต่อารมณ์ มิวเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปโรงเรียนเพราะต้องมาถ่ายละคร ต้องทำงาน มีเวลาเรียนค่อนข้างน้อย แต่ช่วงนี้มิวขยันเป็นพิเศษเพราะต้องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย และต้องมองหามหาวิทยาลัยอื่นๆ สำรองไว้ด้วยเผื่อไม่ติด ช่วงนี้จึงต้องตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นของเราให้ดีๆ หรือวิชาสังคมอะไรอย่างนี้ก็ต้องตั้งใจด้วย เวลาสอบจะได้เอาคะแนนไปยื่นได้ไม่มีปัญหาค่ะ"

ในฐานะที่มิวเป็นเยาวชนคนหนึ่งมองว่าภาษาอังกฤษสำคัญกับเยาวชนยังไง

"มิวว่าสำคัญมากเลยนะคะ สำคัญมานานแล้ว ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เอาไว้ใช้สื่อสารได้ทั่วไป แล้วยิ่งในปี พ.ศ. 2558 ก็จะเปิดอาเซียนด้วย เรายิ่งต้องพัฒนาบุคลากรในประเทศเรา ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ มิวมองว่ามันสำคัญมากเราควรให้ความสำคัญกับมัน เพราะภาษาอังกฤษเราใช้คุยกับใครก็ได้ทั่วโลก ค่อนข้างครอบคลุม"

ถ้าเกิดว่าเพื่อนไม่เก่งภาษาอังกฤษ มิวจะมีวิธีช่วยเพื่อนได้ยังไงบ้าง

"คงยังช่วยติวมากๆ ไม่ได้เพราะหนูก็ยังเอาตัวเองไม่รอด (ยิ้ม) ก็อาจจะให้เขาหาอะไรที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมาฝึกฝน ตรงไหนไม่เข้าใจก็ให้เพื่อนถาม จะค่อยๆ สอนจนกว่าเพื่อนจะเข้าใจ มิวมีประสบการณ์มาว่าเรียนภาษาอังกฤษต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าไปเร่งรีบ ยัดๆ ความรู้เข้าไป มันจะน็อคสมองจะไม่รับอะไรเลย"

ถ้าเพื่อนไม่ชอบภาษาอังกฤษเลยล่ะ

"ไม่ค่อยมีนะคะ ส่วนใหญ่จะเห็นว่ามันยากมากกว่า อย่างพวกแกรมมาร์อะไรอย่างนี้ที่เราต้องเรียนกันเยอะในช่วงมัธยม เขาก็เลยจะค่อนข้างเบื่อเรียนอีกแล้วเหรอ ไม่เอานะ ไม่เรียน เบื่อๆ แต่ถึงเวลาเรียนก็โอเค ต้องเรียนก็คือต้องเรียน"

ถ้าพูดถึงแกรมมาร์ มิวนึกถึงอะไร

"นึกถึง Present Simple ค่ะ (หัวเราะ) มิวจะนึกถึงพวก Tense ต่างๆ ที่เราต้องมานั่งท่อง Subject + Verb + Object อะไรพวกนี้ เพราะเด็กไทยจะได้เรียนแกรมมาร์เยอะเลย บางที Teacher ที่เป็นครูเจ้าของภาษามาเจอ เขาก็จะบอกว่าทำไมพวกยูเรียนกันเยอะขนาดนี้ บางทีเด็กไทยแม่นแกรมมาร์กว่าเด็กเมืองนอกจริงๆ อีก เพราะเราโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึง ม.6 เราก็เรียนแกรมมาร์ๆๆ ทำให้พอพูดถึงแกรมมาร์ก็จะนึกถึงคำว่า Present Simpleเพราะเป็น Tense แรกที่ได้เรียนและใช้มาถึงปัจจุบันแล้วเราก็จะพูดกับฝรั่งด้วย Present Simple ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น อดีต ปัจจุบัน หรือว่าอนาคต"

บรรยากาศการเรียนภาษาอังกฤษแบบที่มิวและเพื่อนชอบเป็นยังไง

"ทุกคนพยายามพูดภาษาอังกฤษ ไม่พูดภาษาไทยค่ะ หนูรู้สึกว่าถ้าพูดภาษาไทยมันไม่ได้ประโยชน์มากเท่าไร แต่ถ้าเราพูดภาษาอังกฤษ ถึงเราพูดผิดแต่ได้เราพยายามแล้ว เขาไม่ว่าเราหรอก เขาอาจจะขำเรา แต่สุดท้ายเขาจะมาสอนเราว่ารูปประโยคเป็นแบบนี้นะ ยูควรเรียงประโยคแบบนี้ และเราจะเข้าใจด้วยว่าถ้าแบบนี้เพื่อนพูดแบบนี้คือผิดนะ เราจะได้ไม่พูดตาม เป็นสิ่งที่ดีและทำให้เราได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษเร็วขึ้นด้วย"

ให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่กำลังเบื่อกับการเรียนภาษาอังกฤษ

"ขอให้อย่าเพิ่งเบื่อนะ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เราต้องใช้ ขอให้พยายามและสู้ๆ ต่อไปค่ะ ถ้าเรารู้สึกเบื่อเราก็พักไปก่อนก็ได้ พักไปอ่านอย่างอื่นให้เรารู้สึกสบายใจและรีแลกซ์ก่อนค่อยกลับมาอ่านอีกที ค่อยๆ ทำความเข้าใจกับมัน มิวเชื่อว่าทุกคนต้องทำได้ค่ะ เพราะมิวก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน ยังไงทุกคนก็สู้ๆ นะคะ"


เรียกได้ว่าเป็นน้องมิวเป็นเยาวชนที่มาพร้อมกับความสดใสและความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เราเชื่อว่าน้องจะต้องประสบความสำเร็จในด้านการเรียนอย่างแน่นอน I Get Englishขอเป็นกำลังใจให้น้องมิวและเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกคนค่ะสำหรับใครที่รอละครเรื่องต่อไปของน้องมิว สาวน้อยกระซิบมาว่าแฟนนางเงือกอดใจรออีกหน่อย ตอนนี้กำลังถ่ายทำ"รักนี้หัวใจมีครีบภาค 2 หรือ ครีบนี้หัวใจมีเธอ" อยู่ อีกไม่นานได้ชมกันแน่นอนค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook