เมืองที่ดีที่สุดสำหรับการปั่นจักรยาน
แม้ว่าการปั่นจักรยานจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ในหลายเมืองใหญ่ ก็ยังขาดสิ่งอำนวยควมสะดวกให้กับเหล่านักปั่นทั้งหลาย ผิดกับเมืองเหล่านี้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่ดีที่สุด สำหรับการปั่นจักรยาน จะมีเมืองใดบ้าง
เทรนด์การปั่นจักรยาน เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยนักปั่นส่วนใหญ่ที่ที่มาหลงใหลในการปั่นอย่างจริงจังให้เหตุผลว่า จักรยานทำให้พวกเขาสุขภาพแข็งแรงขึ้น แถมยังไม่ต้องเสียเวลาให้กับการจราจรที่ติดขัดในยามชั่วโมงเร่งด่วน และที่สำคัญยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
หลายเมืองใหญ่พยายามสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักปั่นทั้งหลาย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนของตน หันมาใช้งานจักรยานกันมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีอีกหลายเมืองที่กลายเป็นต้นแบบของเมืองที่เป็นมิตรกับนักปั่นจักรยานมากที่สุด วันนี้ เราได้รวบรวมมาฝากกัน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองในยุโรปทั้งสิ้น
เริ่มที่ เมืองยูเทรกต์ เมืองทางตอนกลางของประเทศเนเธอร์แลนด์ ขึ้นชื่อว่าเนเธอร์แลนด์หลายคนทราบอยู่แล้วว่า เป็นเมืองที่ประชากรส่วนใหญ่ สัญจรโดยใช้จักรยานเป็นหลัก โดยเฉพาะในกรุงอัมสเตอร์ดัม แต่ที่นี่ การใช้จักรยานเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่สำคัญคือทางการท้องถิ่นของที่นี่ จัดทำเลนจักรยานเอาไว้ให้ ทำให้การปั่นจักรยานไปไหนมาไหนในเมืองมีความปลอดภัย จึงไม่ค่อยเห็นนักปั่นใส่หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ป้องกันแต่อย่างใด
แห่งที่สอง คือที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา ที่แห่งนี้ถือเป็นแห่งแรกๆของอเมริกาเหนือที่เริ่มสร้างเลนจักรยาน เพื่อผู้ใช้จักรยานโดยเฉพาะ โดยการก่อสร้างเริ่มมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 ปัจจุบัน เส้นทางจักรยานได้ครอบคลุมไปรอบตัวเมือง ด้วยความยาวกว่า 640 กิโลเมตรแล้ว ที่สำคัญเมืองมอนทรีออลยังมีระบบ Bixi ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักปั่นทั้งหลาย โดย Bixi เหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนสถานีจักรยานที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง มีทั้งบริการที่จอดจักรยาน และเช่าจักรยานสำหรับนักท่องเที่ยว ปัจจุบัน หลายประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ และฝรั่งเศสได้เริ่มนำระบบนี้ไปใช้เช่นเดียวกัน
กรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีการใช้จักรยานเป็นพาหนะหลัก โดยผลสำรวจพบว่า สถิติการใช้จักรยานของชาวเยอรมันในเบอร์ลินนั้นเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อน โดยการสัญจรไปมาในเบอร์ลินกว่าร้อยละ 13 มีจักรยานเป็นพาหนะหลัก ส่วนในเขตเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง ผู้คนหันมาใช้จักรยานกันถึงร้อยละ 20 เลยทีเดียว
ปิดท้ายกันที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น แน่นอนว่า ชาวญี่ปุ่นในโตเกียวส่วนใหญ่ นิยมใช้บริการรถไฟ มากกว่าการสัญจรบนท้องถนน แต่ในระยะหลัง การสัญจรในกรุงโตเกียวร้อยละ 14 มีจักรยานเป็นพาหนะหลัก โดยชาวญี่ปุ่นที่หันมาใช้จักรยานนั้น ให้เหตุผลว่า จักรยานสะดวกและคล่องตัวมากกว่าสำหรับการเดินทางแบบใกล้ๆ เช่น ไปซูเปอร์มาร์เก็ต หรือจ่ายตลาด ดังกล่าวรถจักรยานเกือบทุกคัน จึงต้องมีตะกร้าขนาดใหญ่ไว้ใส่ของ อีกทั้ง ทางการท้องถิ่นของกรุงโตเกียว ยังอนุญาตให้การปั่นจักรบานบนทางเท้า และทางเดินริมถนน เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักปั่นทั้งหลายอีกด้วย