ศาสตร์และศิลป์ของ "การเจียวไข่"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ เครื่องแนม
การเจียวไข่เป็นเรื่องของศิลปะ
บางคนว่า แค่...ใส่ความตั้งใจเข้าไป และแสนสำคัญคือ จริงใจกับไข่...
ทว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิทยาศาสตร์ช่วยให้การทอดไข่ "ฟู" ได้ดังใจเช่นกัน
ลองไปฟังกระบวนการที่วิศวกรบางกลุ่มคิดค้นหลักการทอดไข่ให้ฟู ด้วยวิธีดังต่อไปนี้...
1.เติมน้ำลงไปในอัตราส่วน น้ำ 12.865 ซีซี ต่อไข่ไก่มวล 2.86792 กรัม หรือประมาณ 2.653 ฟอง
2.หลังจากการตีไข่ด้วยเครื่องปั่นที่ความเร็ว 1200 รอบต่อวินาที เป็นเวลา 1 นาที หรือถ้าตีด้วยส้อมก็จะใช้ความเร็ว 2608.50 ทีต่อชั่วโมง เพื่อให้อะตอมของน้ำแทรกเข้าไปในอนูของไข่อย่างเต็มที่ จากนั้นรีบเทส่วนผสมลงไปในน้ำมันที่กำลังเดือดปุดๆ ณ อุณหภูมิประมาณ 1250.75 องศาฟาเรนไฮต์
3.ที่อุณหภูมิขนาดนั้น จะทำให้อะตอมของน้ำทำปฏิกิริยาคาโรแดนโนโทรฟี่ไดแอ็คโครโรซีนิกส์กับน้ำมัน ทำให้อะตอมของน้ำเกิดการระเหยอย่างฉับพลันหรือที่เรียกกันว่า แอนฟี่ไออ้อน ไตรแซ็คนีเฟียส ทันทีที่มีอะตอมของน้ำระเหย จะดันอะตอมของไข่ไปรอบๆ ตัวมัน ผลก็คือ เกิดการพองเป็นเม็ดๆ ไปทั่วไข่
4.การพองดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเยี่ยงปฏิกิริยานิวเคลียร์ ทำให้ไข่ฟูฟ่องเต็มกระทะ น่ากินยิ่งนัก
5.ผลการทดลองสำเร็จไปด้วยดี แต่...เกิดผลข้างเคียงจากการผสมน้ำลงไปในไข่นั่นคือ เกิดแก๊สอโลม่าซานโฟนิออสโพรฟิเนคีติ ซึ่งค่อนข้างมีกลิ่นหืนน้อย ทางวิศวกรจึงได้เติมน้ำมะนาวลงไป 5.006 ซีซี หรือ 1/6 ผล
6.ผลปรากฏว่า ไข่เจียวมีกลิ่นหอมน่าทานเป็นยิ่งนัก จึงได้มีการเผยแพร่เคล็ดลับนี้ตามสถานีข่าวและเว็บไซต์ชั้นนำของโลก จนเป็นที่กล่าวขวัญมาจวบจนทุกวันนี้
ป.ล. จะให้ง่ายกว่านั้น สูตรการเจียวไข่ให้ฟูจากเคล็ดลับมือแม่ ...บีบมะนาวใส่สักเล็กน้อย ทอดในน้ำมันร้อนๆ (ใส่น้ำมันเยอะๆ จะให้ดีควรใช้กระทะก้นลึก) เท่านี้ก็ได้ไข่เจียวฟูหอมกรุ่นแล้ว
ที่มา นสพ.มติชน