มะเขือเทศ"ไฮเทค" โตได้ทั้งคืนทั้งวัน

เกษตรกรรมยุคใหม่พยายามหาทางทลายข้อจำกัดของการเพาะปลูกตามธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอาศัยทฤษฎีที่ว่ายิ่งพืชได้แสงมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้พืชมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรรมในเรือนกระจก หรือในอาคารปิดที่ให้แสงได้ตลอดเวลาหรือนานถึง 18 ชั่วโมง จึงมีมากขึ้น แต่ใช่ว่าพืชทุกอย่างจะปลูกในสภาพเช่นนั้นได้ ผักกาดหอมได้ผลดีในการเพาะปลูกเช่นนี้ พืชจำพวกพริกไทยก็ให้แสงเพิ่มได้ตลอดเช่นเดียวกัน แต่มะเขือเทศ พืชอาหารอันดับ 8 ของโลกไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าได้รับแสงมากๆ หรือนานเกินกว่า 18 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะเกิดจุดเหลืองตามใบ แล้วต้นก็จะเหลืองกรอบตายในที่สุด

ทีมนักวิจัยจากเนเธอร์แลนด์ นำโดยอารอน วาเลซ-รามิเรซ จากห้องปฏิบัติการกายภาพพืชของมหาวิทยาลัยวาจนิงเกน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้เวลานานปีพิจารณาเปรียบเทียบเชิงพันธุกรรมระหว่างมะเขือเทศที่เพาะปลูกตามบ้านกับพันธุ์มะเขือเทศป่า ที่สามารถทนแสงแดดได้นานมากๆ ได้ ในที่สุดก็ค้นพบยีนตัวหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุดังกล่าว เรียกว่า "ซีเอบี 13" ที่มีผลต่อความสามารถในการสังเคราะห์แสงและการย่อยคาร์โบไฮเดรต ของต้นมะเขือเทศ แต่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับผลของต้นมะเขือเทศดังกล่าว

เมื่อนำยีนจากมะเขือเทศป่าดังกล่าวมาใส่ให้กับต้นมะเขือเทศบ้าน ทีมวิจัยพัฒนาจนทำให้มันรับแสงได้ตลอดเวลาทั้ง 24 ชั่วโมง ผลก็คือต้นมะเขือเทศที่ผ่านการพัฒนาแล้วสามารถโตได้ทั้งวันทั้งคืน สามารถให้ผลผลิตคือผลมะเขือเทศได้มากขึ้นกว่า มะเขือเทศที่ปลูกในเรือนกระจกและรับแสงอยู่นาน 18 ชั่วโมงต่อวันได้ระหว่าง 20-26 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม วาเลซ-รามิเรซยอมรับว่ายังจำเป็นต้องมีการทดสอบอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่พันธุ์มะเขือเทศใหม่นี้จะออกสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ต่อไป