กางนโยบาย ศธ.ยุค "ณรงค์" ความหวังใหม่ "ครู-นักเรียน" ?!?

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คอลัมน์ ชีพจรครู

สัปดาห์นี้มีข่าวสารดีๆ มาแจ้งเพื่อนครูเช่นเคย ว่าด้วยเรื่องนโยบายด้านการศึกษาของรัฐมนตรีใหม่ถอดด้ามอย่าง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา (ศธ.) เพื่อให้เพื่อนครูได้เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกับการปฏิรูปการศึกษาภาย ใต้การนำของ พล.ร.อ.ณรงค์ ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้

โดยนโยบาย ด้านการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.นโยบายทั่วไป ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องใช้เวลาดำเนินการ คือ การพัฒนาและการปฏิรูปการศึกษาตามแนวทางของสภาปฏิรูปแห่งชาติ การสร้างโอกาสทางการศึกษาในสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม พร้อมน้อมนำแนวทางการพัฒนาระบบการจัดการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ การพัฒนาระบบการจัดการศึกษาและการพัฒนาหลักสูตรทางการศึกษา การส่งเสริมและยกสถานะของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะการส่งเสริมให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงในสังคม และการบริหารและการปฏิบัติราชการกระทรวงในทุกระดับ ซึ่งให้ความสำคัญกับการบูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานในกระทรวงเป็นไป ในทิศทางเดียวกัน

กลุ่มที่ 2 นโยบายเฉพาะ สามารถดำเนินการให้เห็นผลได้ภายใน 1 ปี คือ การพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและ พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันและสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2558 ของ ศธ.และการดำเนินการตามแผนการศึกษาแห่งชาติและการปฏิรูปการศึกษา

ส่วนกลุ่มที่ 3 นโยบายที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 10 ข้อ คือ สำรวจให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูสถานศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย การแก้ปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของเด็กอาชีวศึกษาอย่างเป็นระบบ เร่งสร้างค่านิยม และปรับภาพลักษณ์อาชีวศึกษา ทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอน ทบทวนเงินอุดหนุนรายหัว เร่งขยายบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมในระบบการศึกษา ปรับระบบการบรรจุ และทบทวนมาตรฐานวิชาชีพครูให้เอื้อต่อการเพิ่มโอกาสให้มีบุคลากรที่เหมาะสม เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น เร่งทบทวนมาตรการจัดกิจกรรมรับน้อง ทบทวนมาตรการความปลอดภัยสำหรับสถานศึกษา ทั้งกิจกรรมทัศนศึกษา และมาตรการความปลอดภัยในการขนส่งนักเรียน นักศึกษา

แม้ภาพรวมจะไม่ค่อยแตกต่างจากนโยบายหลักๆ ที่ ศธ.ดำเนินการอยู่นัก แต่อย่างน้อยเราก็คาดหวังได้ว่าการบริหารงานภายใต้ยุคทหาร (เรือ) จะรวดเร็วฉับไวและเฉียบขาด จากนี้ต้องลุ้นว่าการศึกษาไทยจะพลิกโฉมจากเดิมไปมากน้อยแค่ไหน และจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งต้องฝากความหวังไว้ที่เสมา 1 อย่าง พล.ร.อ.ณรงค์

ขอให้เร่งเดินเครื่องทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เพื่อจะได้คืนความสุขให้กับครู นักเรียน คนในวงการศึกษา ตลอดจนสังคมอย่างแท้จริง