สั่งปิด′อุเทน-ปทุมวัน′ชั่วคราว หลังวิวาทกันอีกที่อนุสาวรีย์ฯ เล็งใช้เครื่องแบบเหมือนกัน
วันที่ 16 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายสืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และนายปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พร้อมด้วยผู้บริหารจากทั้ง 2 สถาบัน ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานมายังสกอ. ถึงการทะเลาะวิวาทของทั้งสองสถาบัน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม
โดยนักศึกษาจากสถาบันฯปทุมวัน 1 คน ได้ขึ้นรถประจำทางสาย 29 จากหมอชิต เมื่อมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีนักศึกษาจากอุเทนถวาย ขึ้นมาบนรถ 3 คน จากนั้นก็มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เนื่องจากนักศึกษาทั้งสองฝ่ายยังให้การไม่ตรงกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รับทราบ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการศธ. ก็ได้สั่งการให้ดำเนินการตามนโยบายที่ได้ตกลงไว้
"ดังนั้นผมจึงได้เชิญผู้บริหารทั้งสองสถาบันมารับทราบข้อมูล โดยขอให้มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง ปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชาที่นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท สำหรับสถาบันฯปทุมวัน ให้ปิดสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1-4 เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งมีนักศึกษาได้รับผลกระทบ 70 คน ส่วนอุเทนถวาย ให้ปิดสาขาวิศวกรรมโยธา และ สาขาการจัดการโลจิสติค ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1-4 เป็นเวลา 9 วัน มีนักศึกษาได้รับผลกระทบจำนวน 300 เพื่อให้เด็กหลาบจำและไม่ให้มาซ่องสุมรวมตัวกันพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนนำไปสู่การแก้แค้น ส่วนจะเริ่มปิดตั้งแต่วันใดนั้นเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยที่จะต้องไปดูแล อย่างไรก็ตามจำนวนวันที่สั่งปิดนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ต่อไปถ้าสถาบันใดรวมตัวกันก่อมากมากเท่าไหร่ ก็จะถูกปิดนานขึ้นเท่านั้น ยิ่งถ้าไม่รู้ว่าเด็กที่ก่อเหตุเรียนอยู่สาขาใด ก็ต้องสั่งปิดทั้งสถาบัน แต่ถ้าถึงขั้นเสียชีวิตก็ต้องปิดอย่างน้อย 1 ภาคเรียนถึง 1 ปีการศึกษา หากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้นักศึกษาเดือดร้อนมากขึ้นไปอีก โดยสาเหตุที่เลือกใช้มาตรการปิดเฉพาะสาขาที่ก่อเหตุแทนการสั่งปิดทั้งสถาบัน เพราะต้องเห็นใจนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน และนี่เป็นมาตรการที่เบาที่สุดแล้ว ดังนั้นถ้านักศึกษาไม่ต้องการให้มีการปิดการเรียนการสอน แต่ละสาขาก็ต้องช่วยดูแลกันเอง ไม่ให้เกิดการยกพวกตีกันอีก "
เลขาธิการกกอ.กล่าวต่อว่า มาตรการสั่งปิดตามจำนวนเด็กที่ก่อเหตุเป็นมาตรการขั้นต้น ส่วนมาตรการระยะยาวนั้นได้มีการหารือไประดับหนึ่งแล้ว โดยขอดูรูปแบบการแก้ปัญหาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งจะให้เด็กมาทำกิจกรรมร่วมกัน ในปีการศึกษาหน้า แต่ระดับอุศึกษาที่มีปัญหา มีแค่อุเทนถวาย กับสถาบันฯปทุมวัน ดังนั้นในปีการศึกษาหน้าจะให้มีการปฐมนิเทศร่วมกัน และมีแนวคิดที่จะให้ทั้งสองสถาบันแต่งเครื่องแบบนักศึกษาเหมือนกัน ทั้งเข็มสัญลักษณ์ และเข็มขัด แต่ก็ต้องไปพิจารณาข้อดีข้อเสีย เพราะอาจจะกระทบกับสิทธิเสรีภาพ