มติ ทปอ.ให้ 27มหา′ลัย จัดสอบรับตรงกลางร่วมกัน ปี2559 แก้ปัญหาเด็กวิ่งรอกสอบ
นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ในฐานะรักษาการประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมทปอ. ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกทปอ. ทั้ง 27 แห่ง รับตรงกลางร่วมกัน ในปีการศึกษา 2559 โดยใช้ข้อสอบกลาง ซึ่งจะพัฒนาจากข้อสอบ 7 วิชาสามัญ เพิ่มขึ้นอีก 2 วิชา คือ วิชาคณิตศาสตร์ 2 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป รวมเป็น 9 วิชา เพื่อรองรับนักเรียนที่จบสายศิลป์ จากเดิมที่จะเน้นเฉพาะสายวิทยาศาสตร์ หลังจากนี้คณะ/สาขา ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะต้องไปกำหนดสัดส่วนและองค์ประกอบที่จะใช้ในการคัดเลือก และประกาศให้นักเรียนทราบ ทั้งนี้นักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา สามารถเลือกสอบได้เฉพาะวิชาที่ต้องใช้ในการยื่นเข้าเรียนต่อในคณะ/สาขาที่ต้องการเท่านั้น
นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการรับตรงกลางร่วมกันครั้งนี้ ไม่ได้ใช้เฉพาะคะแนนข้อสอบกลาง 9 วิชา แต่มหาวิทยาลัย ยังสามารถ ใช้คะแนนการทดสอบความถนัดทั่วไป หรือGAT และคะแนนการทดสอบความถนัดทางวิชาวิชีพ/ วิชาการ หรือ PAT และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือ โอเน็ต มาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อได้เช่นเดิม เนื่องจากที่ผ่านมา ทปอ. ได้ขยับเวลาการทดสอบต่าง ๆ ให้ใกล้กัน โดยกัน สอบGAT/PAT ครั้งที่ 1 จะสอบในช่วงเดือนพฤศจิกายน และการจัดสอบกลางจะเดือนมกราคม และการสอบGAT/PAT ก็จะสอบเดือนมีนาคม ซึ่งนักเรียนสามรถนำคะแนนทั้งหมดไปใช้ได้ทั้งการรับตรงผ่านระบบเคลียริ่งเฮาท์ ของสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) ซึ่งเด็กจะต้องเลือกว่าจะเรียนในคณะที่สอบรับตรงได้หรือไม่ หากไม่ก็จะต้องสละสิทธิ์ ไม่ให้เกิดปัญหาไปกันที่คนอื่น จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ต่อไป ส่วนระบบโควตา และโครงการพิเศษต่าง ๆ ผู้มีความสามารถทางด้านกีฬา ดนตรี ยังคงมีอยู่
"เชื่อว่าระบบนี้จะทำให้การรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์ขึ้น และนักเรียนไม่ต้องวิ่งรอกสอบ ในทุกมหาวิทยาลัยอีกต่อไป ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากลงได้ เพราะต่อไป นักเรียนจะสอบเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำคะแนนไปยื่นเข้าศึกษาต่อไปทั้งระบบการรับตรงและแอดมิสชั่นส์"นายประดิษฐ์ กล่าว
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมศว กล่าวว่า มศว จะนำร่องรับตรงกลางร่วมกัน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 โดยเมื่อเด็กสอบผ่านข้อเขียนมาแล้ว ในขั้นตอนการสอบสัมภาษณ์ มศว จะมีข้อสอบย่อย เพื่อใช้ทดสอบความสมารถในกาปฏิบัติของเด็ก ไม่ใช่มานั่งสัมภาษณ์อย่างเดียว เพื่อให้รู้ว่าเด็กมีความสามารถที่จะเรียนต่อในสาขาที่เลือกเรียนจริงๆ เช่น การวาดภาพ การแสดง เป็นต้น ซึ่งคะแนนทั้งหมด เด็กสามารถยื่นได้หลายที่