เคล็ดลับฝึกภาษาอังกฤษของ มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

ฉบับนี้เรามาพบกับสาวสวยที่คอละครคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี น้องมิ้นต์ - ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง นางเอกสังกัดช่อง 3 น้องมิ้นต์เริ่มทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ เริ่มจากงานถ่ายโฆษณาและภาพนิ่ง จนได้มาเล่นละครเรื่องแรก คือ เรื่อง "น่ารัก" และโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงจนกระทั่งตอนนี้มิ้นต์อายุ 21 ปีแล้ว เธอเติบโตขึ้นพร้อมกับความสามารถทางการแสดงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนเรื่องการเรียนสาวมิ้นต์ก็ไม่เคยทิ้ง เราจะมาพูดคุยกับเธอเกี่ยวกับการเรียนที่ต้องจัดสรรให้ลงตัวกับตารางงานที่แน่นเอี้ยด แถมยังต้องเร่งพัฒนาภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้นเพื่อการเรียนในมหาวิทยาลัยมิ้นต์มีเคล็ดลับอะไรมาฝากเราบ้าง มาติดตามอ่านกันค่ะ

ตอนนี้น้องมิ้นต์เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วคะ
"ตอนนี้มิ้นต์เรียนที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด สาขาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (IBM) ที่แสตมฟอรด์ จะมีการเรียนแบบ bilingual และนานาชาติแต่ภาษาไทยก็ยังมีนะคะ เรียนที่นี่มิ้นต์ต้องปรับตัวเยอะมาก เพราะมิ้นต์เป็นเด็กนักเรียนที่เคยเรียนโรงเรียนไทยมา ก่อนหน้านี้มิ้นต์เรียนที่โรงเรียนสาธิตมศว.ประสานมิตร สาย ศิลป์-คำนวณค่ะ แต่ที่มหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอินเตอร์หรือเป็นฝรั่งกันหมด"

ต้องปรับตัวยังไงบ้างคะ
"มิ้นต์ต้องพยายามตั้งใจเรียนมากๆ เลยค่ะเพราะว่าเราเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งภาษา นอกจากนี้ก็อาศัยการดูหนังหรืออ่านหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะๆ หรือไม่ก็ใช้ application ในโทรศัพท์ ช่วยได้เยอะนะ เวลาเราติดคำศัพท์คำไหน ก็เปิดดิกชันนารีในโทรศัพท์ได้เลย แล้วก็ท่องคำศัพท์เยอะๆ แต่มิ้นต์ค่อนข้างลืมง่าย เพราะต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในวันหนึ่ง มิ้นต์เลยทำการ์ดคำศัพท์ติดตัวไว้ เริ่มทำตอนสมัยเรียนมัธยมช่วงก่อนสอบเอ็นทรานซ์ก็จะเขียนคำศัพท์ไว้ด้านหน้าส่วนด้านหลังเป็นคำแปล มันเป็นวิธีที่ง่ายมากค่ะ ไม่ต้องพกดิกเล่มหนาๆ ให้ยุ่งยากด้วย เป็นเทคนิคหนึ่งที่มิ้นต์เห็นเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเคยทำกัน เพราะตอนเรียนที่สาธิตฯ ทุกคนจะเคร่งเครียดกับการสอบเอ็นท์ฯ มาก"

ตอนที่เรายังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง เพื่อนๆ ช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
"เวลาพูดภาษาอังกฤษก็จะมีเพื่อนฝรั่งช่วยสอนเราบ้าง เช่น คำว่า "ระวัง หรือ Be careful"เค้าก็จะคอยบอกเราว่าควรเน้นคำยังไง พูดแบบไหน เค้าก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรนะคะมันก็เหมือนกับฝรั่งที่อยากพูดภาษาไทย เขามาขอความช่วยเหลือจากเราที่เป็นคนไทยเรื่องการออกเสียงบ้าง เรื่องการเรียงประโยคคำพูดบ้างเราก็เต็มใจที่จะช่วยเขา"

ก่อนหน้านี้ I Get English เคยสัมภาษณ์น้องมาร์กี้ (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) มาร์กี้บอกว่ามิ้นต์พัฒนาภาษาอังกฤษจนเก่งขึ้นมาก
"ช่วงที่เล่นละครกับพี่มาร์กี้ มิ้นต์เรียนอยู่ม.1 หรือ ม.2 พอมีอะไรที่เราไม่เข้าใจ ก็จะชอบถามพี่มาร์กี้กับพี่อเล็กซ์
(อเล็กซ์ เรนเดลล์) พี่ๆ เค้าก็จะช่วยเราเรื่องภาษาได้ สมัยก่อนแค่คำว่า "reserve" ที่แปลว่า "จอง" ก็ยังไม่เข้าใจเลยค่ะสมัยเด็กมิ้นต์เคยไปเที่ยวกับพวกพี่มาร์กี้ เราเป็นเด็กที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาที่เราไม่ถนัดเวลาเราไปร้านอาหาร แลว้ เห็นคำว่า "Reserved" ก็จะหันไปถามพี่มาร์กี้ว่าโต๊ะเต็มเหรอ พี่มาร์กี้ก็จะถามมิ้นต์ว่า มิ้นต์ไม่รู้จักคำว่า "Reserved" เหรอ ตอนนั้นมิ้นต์รู้สึกว่าหน้าแตกจัง แต่หลังจากนั้นมิ้นต์ก็จำคำคำนี้ได้ไม่ลืมเลย"

มาร์กี้กับอเล็กซ์ช่วยสอนภาษาอังกฤษมิ้นต์ยังไงบ้าง
"ถ้ามีคำภาษาอังกฤษคำไหนที่ไม่เข้าใจก็จะถามพี่ๆ เค้า แล้วพี่ๆ ก็จะช่วยอธิบายให้เข้าใจบางครั้งก็เล่าเรื่องตลกให้ฟังค่ะ"

มิ้นต์เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย มีวิธีแบ่งเวลายังไงบ้างคะ
"ถ้าวันไหนมิ้นต์ไม่ได้เข้าเรียน ก็จะให้เพื่อนช่วยจดเล็คเชอร์ให้ เรามีเพื่อนดี พวกเค้าก็จะคอยบอกเกี่ยวกับเรื่องงานตลอดค่ะ และดีหน่อยที่เรียนมหาวิทยาลัยตอนนี้สามารถส่งงานผ่านระบบ E-Learning ได้แล้ว มันจะเป็นโปรแกรมอย่างหนึ่งที่เราสามารถใช้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ช่วงที่ต้องส่งงาน อาจารย์จะสามารถระบุไว้ในโปรแกรมว่านักศึกษาจะหมดเขตส่งงานเมื่อไร และกำหนดส่งงานอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับมิ้นต์มากเลยค่ะ"

มิ้นต์ชอบภาษาอังกฤษไหม
"มิ้นต์ชอบมากเลยค่ะ มิ้นต์รู้สึกว่าเวลาที่ไปต่างประเทศ แล้วเราพูดภาษาอังกฤษได้ มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่ 2 ที่เราควรเรียนรู้เพิ่มเติมจากภาษาไทยค่ะ"

คำภาษาอังกฤษที่ชอบพูดติดปากคือคำว่าอะไร
"ก็คงเป็นคำว่า Really? ค่ะ เวลาคุยกับเพื่อนก็จะชอบพูดแบบว่า "Really? จริงเหรอ" ตอนที่เพื่อน มาเล่าเรื่องให้ฟังค่ะ"

ถ้าให้นิยามความเป็นตัวเองด้วยคำศัพท์ หรือสำนวนสักคำ มิ้นต์คิดว่าน่าจะเป็นคำว่าอะไรคะ
"ก็คงเป็นคำว่า "Fun หรือ Happy" ค่ะ เพราะมิ้นต์เป็นคนที่รักสนุก ชอบปาร์ตี้ ชอบความสนุกสนานค่ะ"

เคล็ดลับเก่งภาษาอังกฤษของมิ้นต์คืออะไรคะ
"ทุกวันนี้ภาษาอังกฤษถือว่าสำคัญอย่างหนึ่งเลย ซึ่งจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายนะคะ มันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าอยากเรียนรู้แค่ไหนสมัยก่อนมิ้นต์เป็นเด็กที่กลัวการพูดภาษาอังกฤษมาก เพราะเราไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ พอโตมาเราได้มาเรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์ ก็ได้เจอเพื่อนมากมายที่ใช้ภาษาอังกฤษเก่งๆ ปกติแล้วเด็กไทยไม่น้อยไม่ค่อยกล้าพูดภาษาอังกฤษมิ้นต์อยากแนะนำค่ะว่า พูดไปเถอะค่ะ พูดผิดพูดถูกไม่เป็นไร พยายามกล้าแสดงออกให้มากขึ้นก็จะทำให้เราได้ภาษา ไม่ต้องกลัวว่าจะหน้าแตกนะคะ เพราะการหน้าแตกทำให้เรารู้ว่าเราพูดคำคำนี้หรือประโยคนี้ผิดนะ หลังจากนั้นเราจะไม่พูดผิดอีกเลย

"นอกจากนี้มิ้นต์อยากให้ท่องคำศัพท์วันละ 5 คำ อย่างที่มิ้นต์เองก็ทำการ์ดคำศัพท์ใช้เองเหมือนกันค่ะ เช่น เขียนด้านหน้าว่า "Dog" ส่วนข้างหลังก็เขียนคำว่า "หมา" แล้วก็ทำไปเรื่อยๆ ให้พกติดตัวไว้ปึกนึง ก็จะทำให้เราเก่งคำศัพท์มากยิ่งขึ้น เมื่อเรารู้คำศัพท์มาก เราก็จะสามารถหยิบคำศัพท์เหล่านี้ไปสร้างเป็นประโยคต่อไป

"อีกวิธีคือมิ้นต์ใช้วิธีฝึกด้วยการดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษค่ะ มันเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีนะ มิ้นต์แนะนำให้เลือกเรื่องที่เราสนใจ เพราะเวลาที่เราดูหนังแล้วมีคำแปลที่อยู่ข้างล่างให้ มันจะทำให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ไปด้วยค่ะ"
ไอเดียการ์ดคำศัพท์ของน้องมิ้นต์น่าสนใจมากทีเดียว เพื่อนๆ ลองนำไปทำกันดูนะคะ ส่วนใครคิดถึงผลงานของ

น้องมิ้นต์ รอติดตามได้ในละครรักอบอุ่นเรื่อง "แก้วตาหวานใจ" ทางช่อง 3 อีกไม่นานนี้ค่ะ