"โฟรเซน" มาแรง เบียด "บาร์บี้" ตกชั้นตุ๊กตายอดนิยม

"โฟรเซน" มาแรง เบียด "บาร์บี้" ตกชั้นตุ๊กตายอดนิยม

"โฟรเซน" มาแรง เบียด "บาร์บี้" ตกชั้นตุ๊กตายอดนิยม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ในที่สุดสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเล่น ของสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ก็กลายเป็นจริง เมื่อผลสำรวจของพันธมิตรค้าปลีกแห่งสหรัฐ เกี่ยวกับ "ของขวัญที่จะซื้อในช่วงคริสต์มาส" ระบุว่า พ่อแม่ผู้ปกครองชาวอเมริกันกว่า 20% ตั้งใจจะซื้อของเล่นที่เกี่ยวกับหนังแอนิเมชั่น เรื่องโฟรเซน (Frozen) เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ให้ลูกสาวของพวกเขา ในขณะที่มีผู้วางแผนจะซื้อบาร์บี้เพียง 17% นับได้ว่า บาร์บี้ตกจากบัลลังก์ของขวัญเด็กผู้หญิงยอดนิยมนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่มีการทำโพลสำรวจมา

นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ช้ำใจของบริษัท "แมทเทล" (Mattel) ผู้ผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ หลังจากตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสัดส่วนร่างกายที่ไม่สมจริงของตุ๊กตาบาร์บี้ รวมถึงยอดขายรวมทั่วโลกในไตรมาส 3 ที่ลดลง 21% แม้ขณะนี้ แมทเทลจะยังถือลิขสิทธิ์ของเล่นไลน์โฟรเซนอยู่ แต่จะต้องโอนให้แก่บริษัทแฮสโบร (Hasbro) คู่แข่งในปี 2016

แพม กูดเฟลโลว์ ผู้บริหารจากบริษัท Prosper Insights & Analytics ผู้รับผิดชอบโพลชิ้นนี้กล่าวว่า หากคิดถึงความนิยมของภาพยนตร์ และชุดที่ขายเมื่อช่วงฮัลโลวีนแล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักที่ของเล่นแบรนด์ Frozen จากดิสนีย์ จะสามารถชิงบัลลังก์ของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิงอันดับ 1 ที่บาร์บี้ครองมามากกว่า 10 ปีได้

ทั้งนี้ นอกจากเรื่องของขวัญแล้ว บาร์บี้กำลังเผชิญกับคู่แข่งใหม่ที่ตั้งใจมาชนกันโดยตรงอย่างตุ๊กตา "แลมมิลี" (Lammily) ซึ่งมาจากโปรเจ็กต์ระดมทุนของ "นิโคเล แลมป์" กราฟฟิกดีไซเนอร์และนักวิจัย วัย 26 ปี ที่มีจุดขายตรงข้ามกับบาร์บี้อย่างสิ้นเชิง โดยในขณะที่บาร์บี้ขายความสวยสมบูรณ์แบบ แต่แลมมิลีกลับขายความสวยสมจริงของเด็กสาวอายุ 19 ปี ด้วยการให้เด็กๆ สามารถเพิ่มความไม่สมบูรณ์แบบ เช่น สิว กระ รอยผิวแตกลาย หรือแม้แต่รอยแผลเป็นลงในตุ๊กตาได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในวงกว้าง จนโครงการระดมทุนได้ถึง 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ใน 1 เดือน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook