แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข กับ 7 เรื่องเกี่ยวกับ The Voice
by toon .
กลายเป็นเรื่องดราม่าร้อนขึ้นมาอีกหลังจากรายการ The Voice จบรอบการแข่งขันแบบ Knock Out ไปเมื่อมี ผู้แข่งขันรายหนึ่งออกมาระบายผ่านโซเชียลมีเดียของตนเองว่าไม่ได้ร้องเพลงที่ตนเองถนัด ซึ่งทำให้แฟนคลับวิจารณ์ทีมงานรายการอย่างหนัก แน่นอนว่าคนที่โดนเต็มๆคือ โค้ช ‘แสตมป์' ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักร้องหนุ่มจาก Love is ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จะว่าไปแล้วเขาถูกวิจารณ์มาตั้งแต่วันแรกที่รายการ The Vocie ออกอากาศด้วยซ้ำ แต่เขามีวิธีจัดการและรับมือกับเสียงวิจารณ์เหล่านั้นและนี่คือ 7 เรื่องราวของ The Voice ที่ 247 ได้พูดคุยกับแสตมป์
แสตมป์ในฐานะหนึ่งในโค้ชรายการ The Voice
แสตมป์ : ตอนเริ่มทำThe Voiceผมโดนหนักมากว่าไอ้นี่เป็นใคร ถึงกล้ามานั่งตรงที่เดียวกับ Adam Levine วง Maroon 5 โค้ช The Voice US ผมเป็นใคร ถึงมานั่งตัดสินอยู่ในระดับเดียวกับอีก 3 คนที่ถือว่าเป็นระดับเทพของวงการเพลง
คุณเครียดไหมที่ถูกวิจารณ์แบบนั้นใน The Voice
แสตมป์ : เครียดสิ มากด้วย แต่ในท้ายที่สุดผมก็เปลี่ยนความเครียดนั้นให้เป็นความพยายาม โดยพยายามที่จะทำดีให้ดู
คุณมีเกณฑ์ส่วนตัวไหมในการกด ‘I want You'
แสตมป์ : ทุกคนที่กดผมชอบหมด เพราะคิดว่าการร้องเพลงไม่สามารถวัดออกมาเป็นพลังได้ว่าคนนั้นพลังเยอะกว่าคนนี้ แต่อยู่ที่รสนิยม และเขาก็ออกแบบมาแล้วว่าโค้ชทั้ง 4 คนมีบุคลิกไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นเขาน่าให้ความสำคัญกับรสนิยมพอสมควร ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามสไตล์เพลงของแต่ละคน ผมเลยเอาหัวใจนำในการเลือกเลย อย่างบางคนร้องเก่งมากชนิดที่ร้องที่ไหนชนะที่นั่น แตะทุกโน้ต เสียงโคตรหนา แต่ไม่ทำให้ผมรู้สึกได้ผมก็ไม่กด ขณะเดียวกันเจอคนที่ร้องแบบกระเสาะกระแสะแต่มันโดนใจ โดนความรู้สึก ผมก็กด มันวัดไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเลือกที่ชอบอย่างเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความผมชอบของห่วยนะ (หัวเราะ)
แสดงว่าคุณไม่ได้ชอบอะไรที่มันสมบูรณ์แบบมาก
แสตมป์ :ใช่แล้ว ผมคิดว่าถ้าสมบูรณ์แบบมากเกินไปก็ยากที่จะปรับเปลี่ยนในรายละเอียดบางอย่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เข้าแข่งขันรอบ Blind Audition จำนวน 140 คน ทีมงานเขาก็คัดมาแล้วว่าร้องดี มีคุณภาพ ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะดีกว่าใครเท่านั้นเอง
คุณมีวิธีการอย่างไร ที่จะทำให้คนที่อยู่ทีมคุณชนะการแข่งขันครั้งนี้
แสตมป์ : ง่ายที่สุดคือการทำหน้าที่เหมือนโค้ชบาสเกตบอล ที่จะทำทุกอย่างให้ผู้เล่นสามารถชู้ตลงห่วงให้ได้ เราต้องบอกเขาให้ได้ว่า คุณจะต้องยืนตำแหน่งไหน เลี้ยงบอลอย่างไร ถึงจะชู้ตลงในหัวใจคนดูได้ ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการเลือกของเรา เลือกเพลง เลือกสไตล์ให้เขา เขามีดีตรงนี้ เราจะทำอย่างไรให้ความดีของเขาชนะใจคนดู มันเป็นวิธีการมองคนให้เป็น ใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นเท่านั้น ดึงพลังแฝงของแต่ละคนออกมาให้มากที่สุด
การเป็นโค้ชในรายการนี้ ทำให้คุณพบเห็นอะไรในวงการเพลงไทย
แสตมป์ : ผมพบว่ามีคนจำนวนมากชื่นชอบรายการนี้ แสดงว่าคนชอบฟังเพลงเพราะนี่ ไม่ได้ชอบดราม่าอย่างที่เคยเข้าใจ ผมเจอความหวังที่ว่า ถ้าเราทำเพลงที่ดีแล้วพยายามรักษามาตรฐานที่ดี ก็จะมีคนฟังเอง เพราะที่สุดแล้วเหตุผลไร้สาระต่างๆ นานาก็ไม่สามารถทำลายความตั้งใจจริงได้ จะอ้วน ผอม เตี้ย หรือตัวดำ หากร้องเพลงด้วยความจริงใจสุดท้ายต้องมีคนรัก และเมื่อเขารักเพราะคุณร้องเพลงได้ดี การตัดสินมันก็เป็นเรื่องของดนตรีเป็นหลัก
อย่างรายการ The Voice เป็นการสร้างฮีโร่สำเร็จรูปแบบหนึ่งหรือไม่
แสตมป์ :ไม่เชิงนะ เพราะฮีโร่จริงๆ ของรายการคือเรื่องของดนตรี ผมว่าในที่สุดเมื่อคนดูจบแล้วเขาจะรักดนตรีมากขึ้น ผมปลื้มใจทุกครั้งที่มีการแชร์คลิปรายการแล้วมีคนมาคอมเมนต์ว่าคนนี้ร้องเพราะ ดนตรีละเอียดอ่อนมาก ทำให้ผมรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่คนจะหันกลับมาตั้งใจฟังเพลงกันจริงจัง แล้วเมื่อมาตรฐานเหล่านี้เกิดขึ้น ผมเชื่อว่ามาตรฐานของเพลงที่ออกจากค่ายเพลงต่างๆ หลังจากนี้ก็จะได้รับการพัฒนาโดยอัตโนมัติ รวมถึงการประกวดร้องเพลงในเวทีต่างๆ ก็จะมีมาตรฐานที่สูงขึ้น พัฒนาจากการร้องเพลงเพราะไปสู่การร้องเพลงที่เพราะแล้วมีตัวตน มีจิตวิญญาณของคนร้องต่อไป นี่เป็นคุณูปการของรายการนี้ต่อวงการเพลงไทย
Credit: ส่วนหนึ่งของเรื่อง แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข THE REAL VOICE จากนิตยสาร 247#120 Vol.6
Text : บุญเอก อรุณเลิศสันติ
Photo : กฤตพล วิทย์ว่องไว
ติดตามคอลัมน์อื่นๆ เพิ่มเติม ดาวน์โหลดนิตยสารในเครือจีเอ็มได้แล้วที่