มิว นิษฐา จิรยั่งยืน เก่งภาษาอังกฤษ ไม่ยากอย่างที่คิด
ฉบับนี้เรามาพบกับนักแสดงสาวหน้าหวาน ดาวรุ่งรุ่นใหม่ในสังกัดช่อง 3 ซึ่งแฟนๆ คอละครคงรู้จักเธอเป็นอย่างดี นั่นคือ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน ที่ได้แจ้งเกิดเรื่องแรกในละครเรื่อง "คุณชายปวรรุจ" หนึ่งในซีรีย์สุดฮอต "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" และบทบาทล่าสุดที่เพิ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ชมไปคือละคร "ทรายสีเพลิง" ในบทของลูกศร หญิงสาวแสนดีที่ถูกพี่สาวต่างมารดาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น จนเรียกคะแนนความสงสารจากผู้ชมไปได้อย่างท่วมท้นไม่เพียงแค่มีฝีไม้ลายมือในการแสดงที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น
น้องมิวยังถือเป็นตัวอย่างที่ดีอีกด้วย เพราะแม้จะต้องทำงานไปด้วย แต่น้องมิวก็ไม่เคยทิ้งการเรียน สามารถจัดสรรเวลาเรียนและทำงานได้อย่างลงตัวจนสามารถคว้าปริญญามาครองเมื่อปลายปีที่แล้ว น้องมิวจะมีเคล็ดลับการฝึกภาษาอังกฤษอย่างไรบ้าง ต้องลองติดตามกันดูนะคะ
แนะนำตัวเองสักหน่อย
"สวัสดีค่ะ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน เรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบแฟชั่นจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒค่ะ ก่อนหน้านี้มิวเรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์สายคณิต-อังกฤษค่ะ"
อยากให้มิวเล่าถึงความประทับใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษในสมัยเรียนให้เพื่อนๆ ฟัง
"ตอนที่เรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ สิ่งที่มิวประทับใจคือ ครูจะสอนเรื่องคำที่คนไทยมักจะอ่านออกเสียงผิด บางครั้งครูจะจัดกิจกรรมด้วยนะคะ โดยกำหนดหัวข้อมาให้ จากนั้นก็ให้นักเรียนเขียนรายงานแล้วออกมาพูดหน้าห้อง เพราะที่โรงเรียนนี้จะค่อนข้างเน้นการเรียนภาษาอังกฤษมาก จะมีทั้งฝรั่งและครูไทยมาสอนภาษาอังกฤษ"
หลังจากจบมัธยม ทำไมมิวจึงเลือกเรียนต่อสาขาการออกแบบแฟชั่น
"มิวชอบแฟชั่นค่ะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เรียนสายคณิต-อังกฤษมานะ ซึ่งไม่ค่อยตรงกับสาขาที่เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยเท่าไร จุดเริ่มต้นคือมิวเคยลองเรียนวิชาวาดเขียนเพื่อฆ่าเวลาก่อน แต่เรียนไปเรียนมา มิวก็เริ่มชอบวิชานี้แบบจริงๆ จังๆ จากนั้นก็เลยได้ไปเรียนสีน้ำ เรียนสเก็ตช์ภาพ เรียนจัดองค์ประกอบศิลป์ แล้วยิ่งได้มาลองเรียน Fashion Design เกี่ยวกับการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้า มิวก็ยิ่งชอบและสนใจพวกแฟชั่นต่างๆ และหากมีเวลาว่างก็จะไปดูแฟชั่นโชว์ด้วย ก็เลยคิดว่าตัวเองน่าจะลองเลือกเรียนในสาขานี้และสอบตรงเข้ามาเรียนค่ะ"
สิ่งที่ทำให้น้องมิวรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่สุดในเรื่องของการเรียนคืออะไรคะ
"สิง่ ที่มิวภมู ใิ จมากทีส่ ดุ คือ ตอนทำ โครงงานตัวจบค่ะ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเปิดเทอมพอดี มิวต้องทำโครงงานตัวจบและต้องเริ่มถ่ายละครเรื่องแรก คือเรื่องคุณชายปวรรุจ มิวได้ทุ่มเทไปกับการถ่ายละคร พอกลับมาเรียนก็เลยช้ากว่าคนอื่นๆ เลยต้องพยายามแบ่งเวลาดีๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มิวรู้สึกเหนื่อยมาก อยากจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลยแต่พอผ่านมาได้ก็เลยทำให้รู้สึกว่าภาคภูมิใจมากที่เราสามารถผ่านจุดๆ นั้นมาได้ค่ะ"
รู้สึกยังไงกับภาษาอังกฤษ
"มิวรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริงๆ ถึงแม้เราจะอยู่เมืองไทย แต่ยังไงเราก็ยังต้องเกี่ยวกับกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันแน่นอนค่ะ อย่างเช่นตอนมิวไปเรียน ต้องสนทนากับครูฝรั่ง ดูหนังหรือฟังเพลงฝรั่งค่ะ"
สิ่งที่คิดว่ายากที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษ
"มิวคิดว่าเป็นเรื่อง Tense ค่ะ รู้สึกยากตรงที่ภาษาไทยของเราไม่มีการใช้ Tense กำกับเหมือนกับภาษาอังกฤษซึ่งภาษาอังกฤษจะระบุว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์นั้นนะ และจะต้องใช้ Tense แบบนี้ทำให้มิวรู้สึกงงๆ บ้างเหมือนกัน เลยต้องพยายามจำแกรมมาร์ให้แม่นๆ ไว้"
ประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษที่จำได้ไม่รู้ลืม
"ตอนประมาณ ม.ต้น มิวไปเรียนภาษาอังกฤษคอร์สสั้นๆ กับเพื่อนๆ ที่ประเทศนิวซีแลนด์ประมาณ 1 เดือน มิวได้ไปอยู่กับ Host Family ค่ะ รู้สึกสนุกมาก ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ต้องไปเรียนต่างประเทศเองโดยที่พ่อกับแม่ไม่ได้ไปด้วย ทำให้เราต้องฝึกทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง ต้องแบ่งเวลาดีๆ ว่าจะไปเรียนหรือทำกิจกรรมอะไรบ้าง และเราได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารทุกๆ วันเลยค่ะ"
"ตอนแรกๆ ที่ไปอยู่บ้านโฮสต์ มิวแทบจะฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่องเลยค่ะ เพราะคนนิวซีแลนด์จะพูดเสียงตัว E ชัดมาก เช่น คำว่า go to bed.เขาก็จะพูดว่า "โก ทู บีด" เลยทำให้เราไม่เข้าใจเลยลองเดาดูว่าเขาจะชวนเราไปเที่ยว beach (บีช) ที่หมายถึงทะเลหรือเปล่า ทั้งๆ ที่จริงแล้ว เขาจะถามเราว่า เราจะเข้านอนแล้วหรือยัง (หัวเราะ) แต่พอมิวอยู่ไปได้สักพักก็เริ่มชินแล้วค่ะ ก็ใช้วิธีสังเกตเอาบ้าง หรือไม่ก็ถามเขาไปเลยว่า เขาต้องการสื่อความหมายว่ายังไง"
แรงบันดาลใจในการเรียนภาษาอังกฤษ
"เวลาที่เห็นฝรั่งพูดภาษาอังกฤษแล้วดูเขาพูดคล่อง สำเนียงเป๊ะ ทำให้มิวรู้สึกว่าอยากจะพูดภาษาอังกฤษได้แบบนั้นบ้าง เพราะเวลาที่เราไปต่างประเทศ ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่คนเกือบทั่วโลกพูดและสื่อสารกันได้ มิวเลยคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราควรฝึกภาษากันนะ"
มีวิธีฝึกภาษาอังกฤษอย่างไรบ้างคะ
"มิวเริ่มฝึกภาษาอังกฤษตั้งแต่สมัยประถมเลยค่ะ เคยไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมกับครูฝรั่งที่เป็นเจ้าของภาษา ทำให้ช่วยเรื่องสำเนียงได้มาก พอโตขึ้นมาก็เน้นการฝึกด้วยตนเอง เช่น ดูหนังฝรั่ง ฟังสำเนียงของเจ้าของภาษาไปด้วย แล้วเปิดซับไตเติ้ลไปด้วยเพื่อจะได้ดูว่าประโยคต่างๆ ที่เขาพูดแปลว่าอะไร"
คติประจำใจภาษาอังกฤษ
"มิวมีคำคมนึงที่คุณแม่ได้สอนมาตั้งแต่เด็กๆและมิวก็จำไว้ใช้ตลอด คือ Never burn a bridge.Never build the wall. มีความหมายดีๆ ว่า "จงอย่าทำลายสะพานที่เปรียบเสมือนกับมิตรภาพ จงอย่าสร้างกำแพงหรือปิดกั้นตัวเอง" ค่ะ"
กำลังใจจากน้องมิวถึงแฟนๆ ชาว I Get English
"มิวอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาฝึกภาษาอังกฤษกันเยอะๆ ค่ะ มิวคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่จำเป็นมากที่สุดรองลงมาจากภาษาไทยของเรา เวลาที่เรามีโอกาสได้ไปทำงานหรือไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ เราจะได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด ลองมาฝึกกันดูนะคะ"
ตอนนี้น้องมิวมีผลงานอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามบ้างไหม
"มิวขอฝากละครเรื่อง "ตามรักคืนใจ" และละครเรื่อง "สิงห์" จากซีรีย์ "เลือดมังกร" ด้วยนะคะ"
ได้คำแนะนำและกำลังใจจากน้องมิวไปแล้วก็อยากให้แฟนๆ ให้ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ แค่เพียงเราฝึกพูดภาษาอังกฤษบ่อยๆ หากมีเวลาว่างก็ลองหาหนังฝรั่งดีๆ สักเรื่องหนึ่งมาเปิดดู หรือฟังเพลงภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยให้เราคุ้นกับภาษาอังกฤษได้มากยิ่งขึ้นเพื่อ
คอลัมน์ Interview
โดย I Get English Magazine