แนะเลี่ยงกิน"ข้าวโพด"ชนมื้อข้าว หวั่นร่างกายรับแป้งเกินจำเป็น

แนะเลี่ยงกิน"ข้าวโพด"ชนมื้อข้าว หวั่นร่างกายรับแป้งเกินจำเป็น

แนะเลี่ยงกิน"ข้าวโพด"ชนมื้อข้าว หวั่นร่างกายรับแป้งเกินจำเป็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ข้าวโพดฝักจัดเป็นอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากจะให้พลังงานแล้วยังมีใยอาหาร วิตามินเอที่มีมากเป็นพิเศษ เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุชนิดต่างๆ อีกหลายชนิด

อีกทั้งสีของข้าวโพดแต่ละสีก็จะมีสารอาหารและสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารอาหารแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายต่างกันด้วยข้าวโพดสีเหลืองจะมีวิตามินเอสูงเบต้าแคโรทีนคาร์โบไฮเดรตข้าวโพดสีม่วง จะมีแอนโทไซยานินสูง คาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และการเลือกข้าวโพดสุกที่ต้ม นึ่ง ปิ้ง ควรเลือกข้าวโพดที่มีเมล็ดแต่งตึงไม่ลีบแบน เมล็ดไม่แก่เกินไป โดยสังเกตจากสีของเมล็ดข้าวโพด หากเมล็ดข้าวโพดที่แก่มีสีเหลืองเข้ม เมล็ดจะแข็ง และเปลือกหุ้มเมล็ดข้าวโพดจะแข็งอีกด้วย

ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ข้าวโพดฝัก สามารถกินแลกเปลี่ยนกับอาหารชนิดอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันคือ ข้าวสวย ข้าวเหนียว ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยว กลอยและแป้งชนิดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งหลักการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยคือ ให้กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับแป้งเป็นบางมื้อ

ถ้าหากมื้อไหนกินข้าวโพดแล้ว ควรลดข้าว-แป้ง ลงด้วย เพราะข้าวโพดครึ่งฝัก หรือประมาณทัพพีครึ่ง เท่ากับข้าวสวย 1 ทัพพี เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรต และพลังงานมากเกินความจำเป็น ควรซื้อข้าวโพดในปริมาณที่เพียงพอจะประกอบอาหารในแต่ละครั้งเท่านั้น

หากใช้ไม่หมดก็ควรนำไปนึ่งหรือต้มให้สุกนาน 10 นาที แล้วทิ้งให้เย็น ฝานเอาแต่เมล็ด เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าช่องแช่แข็ง ไม่ควรเก็บข้าวโพดดิบที่ซื้อมาไว้ในตู้เย็นนานเกินไป เพราะเมล็ดข้าวโพดจะลีบแบนเพราะสูญเสียน้ำ และการกินข้าวโพดฝักสด ควรกินในรูปแบบอาหารว่างระหว่างมื้อ โดยผ่านกระบวนการทำให้สุกด้วยการต้ม นึ่ง หรือปิ้งให้สุก ซึ่งข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ จะมีคุณภาพและรสชาติหวานกว่าข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวแล้วเก็บไว้นานจะจืด และเหนียวขึ้น

"การกินอาหารในแต่ละมื้อหรือในแต่ละวัน ควรเลือกกินอาหารให้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันการได้รับสารพิษที่อาจจะเกิดโทษกับร่างกายได้อีกทางหนึ่ง และควรกินในปริมาณที่พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายซึ่งจะประเมินได้จากน้ำหนักตัวต้องไม่มากเกิน รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพดี"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook