พฤติกรรมประหลาดที่นักเรียนต้องเคยทำโดยไม่รู้ตัว
พฤติกรรมประหลาดที่นักเรียนต้องเคยทำ ซึ่งมีผลทางวิทยาศาสตร์อธิบายด้วย ซึ่งหลายคนคงจะมีพฤติกรรมแปลกๆ นี้ บางครั้งตัวเราเองก็ยังไม่ทันได้ตระหนักจนกว่าจะหยุดมองและหยุดคิด ซึ่งก็นำไปสู่คำถามที่ว่าทำไมเราถึงมีพฤติกรรมแบบนั้น อันที่จริงแล้วพฤติกรรมเหล่านี้อธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เช่น
1.เมื่อครูถาม/หรือใครถามว่าเธอรู้รึเปล่า เรามักจะตอบไปแบบไม่ทันคิดว่า อ๋อรู้สิครับ/ค่ะ ทั้งๆ ที่ความจริงแค่ได้ยินมาผ่านๆ ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากมาย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะวิทยาศาสตร์มีคำอธิบายการที่เราตอบว่ารู้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ สาเหตุมาจากธรรมชาติของคนเราที่ไม่รู้แน่ชัดหรอกว่าตัวเองรู้อะไรบ้าง และเมื่อมีใครซักคนถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่าเรารู้หรือไม่ สมองเราก็เริ่มกระบวนการอนุมาน สันนิษฐาน และค้นหาคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกถาม ในระหว่างกระบวนการประมวลผลเหล่านี้ เราจึงตอบไปโดยไม่ทันคิดว่าเรารู้ เพราะสมองยังประมวลผลไม่เสร็จจึงยังไม่อยากให้บทสนทนาจบลงนั่นเอง
2.ชอบดูหนังเศร้า
ทำไมเราถึงชอบดูหนังเศร้า เพราะชีวิตจริงก็มีเรื่องน่าเศร้ามากพออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หลายคนอาจถามคำถามนี้กับตัวเองหรือคนใกล้ตัว เพราะแทนที่เวลาพักผ่อนจะดูหนังอะไรที่มันตลกๆ ผ่อนคลาย กลับเลือกดูหนังเศร้าๆ ดราม่าซะงั้น
ผลการสำรวจพบว่า การดูหนังเศร้าทำให้คนเราย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวของตัวเองและรู้สึกพึงพอใจแล้วกับชีวิตที่ตัวเองเป็นอยู่ และเมื่อเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับชีวิตของตัวละคร ก็จะพบว่าชีวิตของตนเองก็ไม่ได้ย่ำแย่เหมือนชีวิตของตัวละครในหนัง ทำให้เกิดความรู้สึกดี
3.หมั่นเขี้ยว อยากจะงับอะไรก็ตามที่น่ารักๆ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอเด็กเล็กๆ น่ารักๆ หรือแม้แต่ลูกตัวเอง เรามักจะมีอาการอยากงับเจ้าหนูตัวน้อยไปซะทุกส่วน ทั้งจมูกเล็กๆ นิ้วเท้าน้อยๆ หรือแก้มป่องๆ เช่นเดียวกับเวลาที่เจอลูกหมา อุ้งเท้าเล็กๆ ของมันช่างน่ารักซะจนอยากเอาเข้าปาก ไม่ต้องตกใจคิดว่าเราผิดปกตินะจ๊ะ เพราะว่ามีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายพฤติกรรมนี้ได้ ซึ่งทฤษฎีที่ว่านี้ก็คือ เกิดการสื่อสารผิดพลาดของเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพึงพอใจ
เมื่อคนเรา โดยเฉพาะผู้หญิง ได้กลิ่นของเด็กทารกหรือพบเจอสิ่งที่น่ารัก สมองจะหลั่งสารโดพามีนออกมาซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่สมองหลั่งเวลาที่เราได้กินอาหารอร่อยๆ แต่บางครั้งสมองของเราก็ตีความผิดพลาด เมื่อเห็นสิ่งที่น่ารักกลับคิดว่าสารโดพามีนหลั่งออกมาเพราะได้กินอาหารอร่อยซะงั้น จึงเป็นสาเหตุที่เราอยากจะอ้าปากงับเด็กน้อยหรือลูกหมาไงล่ะจ๊ะ
4.พยายามหาเรื่องมาคุยไม่ให้เกิดความเงียบ
เชื่อว่าหลายคนคงมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ ในระหว่างการสนทนา อาจมีบางครั้งที่ทุกคนไม่ได้พูดอะไร และเมื่อความเงียบเริ่มก่อตัว คุณจะรู้สึกอึดอัดและพยายามหาเรื่องอะไรก็ได้มาคุยเพื่อทำลายความเงียบ ทำไมการนั่งกับคนอื่นเงียบๆ มันถึงได้รู้สึกอึดอัดนัก? ไปฟังคำอธิบาย
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ดังนั้นจึงมีความต้องการอยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เมื่อบทสนทนาไม่คึกคักแย่งกันพูดเหมือนเคยและเริ่มเงียบ โดยสัญชาติญาณทำให้เราคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ เกิดความกังวลว่าตัวเองอาจไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่ม แต่ถ้าหากบทสนทนาลื่นไหลไปได้ดี ก็จะมีความรู้สึกพึงพอใจและได้รับการเติมเต็ม
5.หัวเราะออกมาในสถานการณ์ที่ไม่ควรหัวเราะ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเผลอหัวเราะออกมาในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะไม่ควร เช่น ตอนที่เห็นคนล้มแล้วได้รับบาดเจ็บ ตอนที่ได้รับฟังข่าวร้าย หรือบางครั้งแม้กระทั่งในงานศพของคนรู้จัก เราก็ต้องพยายามกลั้นความอยากหัวเราะเอาไว้เพราะรู้ว่ามันเสียมารยาท แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากจะหัวเราะเสียเหลือเกินทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรตลกเลยซักนิด พฤติกรรมเหล่านี้อาจดูเสียมารยาทไปนิดนึง แต่ในทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องที่ดีซะด้วย
การที่เราอยากหัวเราะในสถานการณ์ที่จริงจังหรือตึงเครียด เช่นในงานศพ ไม่ได้เป็นเพราะว่าเราเป็นคนหัวใจเย็นชาหรือเป็นคนไม่รู้จักกาลเทศะ แต่เป็นการปรับตัว เมื่อเรามีอารมณ์ตึงเครียด ร่างกายใช้การหัวเราะเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกอึดอัดหรือความเครียดบางส่วนออกไป
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการที่เราหัวเราะเวลาที่เห็นคนหกล้ม เป็นวิวัฒนาการหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในการที่จะสื่อสารกับมนุษย์คนอื่นๆ ว่าคนที่หกล้มนั้นไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอันตรายถึงชีวิตและคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวหรือตกใจ
นักวิทยาศาสตร์ยังอธิบายว่าการหัวเราะเป็นการเชื่อมต่อทางสังคมอย่างหนึ่ง การหัวเราะแสดงออกถึงความชอบ เห็นด้วยกับสิ่งที่อีกคนพูด สบายใจเมื่อคุยด้วย หรือการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจถ้าหากแฟนคุณมาสารภาพความผิดบางอย่างพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ไม่ได้หมายความว่าเขารู้สึกตลกหรือเขาโกหก แต่เป็นเพราะเขารู้สึกอึดอัดที่ต้องสารภาพผิดและไม่ต้องการถูกมองว่าแปลกแยก
ขอบคุณข้อมูล
http://www.meekhao.com/
http://listverse.com/