"สวย-หล่อ"หลบไป มิวเล่เลิฟ-ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ "ป๊อปปูล่าร์ โหวต"ดาว-เดือน ม.บูรพา

"สวย-หล่อ"หลบไป มิวเล่เลิฟ-ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ "ป๊อปปูล่าร์ โหวต"ดาว-เดือน ม.บูรพา

"สวย-หล่อ"หลบไป มิวเล่เลิฟ-ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ "ป๊อปปูล่าร์ โหวต"ดาว-เดือน ม.บูรพา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แซ่บเว่อร์ "สยบพิมพ์นิยม" ผู้หญิงขาว สวย หุ่นดี ลงได้อย่างราบคาบ กับท่าโพสต์ "หน้าตาย" และชูสองมือสัญลักษณ์ "ไอ เลิฟ ยู" ของ "มิวเล่เลิฟ" หรือ "วรรณิกา ประศรีพัฒน์" เฟรชชี่คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยบูรพา ผู้เข้าประกวดหมายเลข W1 ในการประกวด "ดาว-เดือนมหาวิทยาลัย" หรือ "Freshmen Boy&Girl 2015" ซึ่งมีการเปิดให้ "โหวต" ทางแฟนเพจ "องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา" โดยดาวและเดือนคณะไหนที่ได้คะแนนโหวตจาก "ยอดไลค์" สูงที่สุด จะได้รางวัล "ป๊อปปูล่าร์ โหวต" ไปครอง

แล้ว "ผู้หญิงหน้าตาย" อย่างมิวเล่เลิฟ ที่ไม่ได้เอวบางร่างน้อย ผิวไม่ขาวนวลเนียน แถมยังมั่นถ่ายรูปแบบหน้าสด โพกผ้าสีเขียวเขียน "ฉายา" ของตัวเองที่ได้จากรุ่นพี่ ซึ่งแตกต่างจากดาวคณะอื่นอย่างสิ้นเชิง

แต่กลับมี "ยอดไลค์ รัว รัว" นำมาเป็น "อันดับ 1" กว่าสองแสนไลค์

ขณะที่สาวสวยหุ่นดี ผิวขาว แต่งหน้าปัง โพสท่าเป๊ะ มียอดไลค์ตามมาแบบไม่เห็นฝุ่น บางคนหมื่นกว่าไลค์ บางคนห้าพันไลค์

หรือสมัยนี้ "พิมพ์นิยม" ที่เหมือนๆ กัน ก็ "น่าเบื่อ" เสียแล้ว

เอกลักษณ์ "โดดเด่น" หรือเปล่า ที่มัน "โดนใจ"

"มิวเล่เลิฟ เป็นฉายาที่รุ่นพี่ตั้งใจตอนรับน้อง" สาวหน้าตายกล่าว เพราะจริงๆ ชื่อเล่นของเธอแปลกกว่านั้นกับชื่อเล่นที่น้าตั้งให้ว่า "นิ้วมือ"

"น้าบอกว่า มันแปลก อยากให้หนูโตมาไม่เหมือนใคร แล้วก็ได้ดั่งใจน้า เพราะหนูไม่เหมือนใครจริงๆ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง อยากทำอะไรก็ทำ เป็นคนฮาๆ หลุดโลกๆ"

กับฉายาว่า "มิวเล่เลิฟ" ได้มากจากความสามารถจากการที่เธอร้องเพลงได้หลายแนว คำว่า "มิว" จึงมาจากคำว่า "มิวสิค" ส่วน "เล่เลิฟ" เป็นนามสกุลของพี่ตระกูล"

"นิ้วร้องเพลงได้หลายแนวทั้งโอเปร่า ลูกทุ่ง ไทยเดิม และสากลอีกนิดหน่อย"

เป็นความสามารถที่ถึงขนาดคว้ารางวัล "เหรียญทอง" ระดับประเทศจากการประกวดขับขานประสานเสียงจากงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน และ "เหรียญเงิน" 2 ปีซ้อนในรายการเดียวกัน ในระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนดัดดรุณี จ.ฉะเชิงเทรา

ตำแหน่ง "ดาวคณะศิลปกรรม" ก็ได้มาจากความสามารถตรงนี้ รวมทั้งความสามารถในการ "ทำหน้าตาย" ความอดทนต่างๆ และความร่วมมือในการทำกิจกรรมกับรุ่นพี่

"วินาทีแรกที่รู้ว่าเป็นดาวคณะ ก็ถามตัวเองว่า จริงเหรอ ฝันไปหรือเปล่า ดีใจ" สาวฉะเชิงเทราว่า และยิ่งได้รับผลป๊อปปูล่าร์ โหวตมาเป็นอันดับหนึ่ง เธอว่า "ไม่คิดไม่ฝัน คนชอบเราขนาดนี้เลยเหรอ คนมองเราในแง่ดี และชื่นชม ดีใจ รู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ทำ และเป็นกำลังใจให้มากๆ ซึ่งรูปที่ถ่ายก็ถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเอง ทำหน้านิ่ง บวกกับชื่อมิวเล่เลิฟ จึงทำท่าเลิฟ ส่วนหน้าก็ไม่ได้แต่งเอาสดๆ นี่แหละดี เพราะปกติเป็นคนชิล..ชิล ไม่แต่งหน้าอยู่แล้ว"

เห็นมั่นๆ แบบนี้ ในใจก็แอบกังวลเหมือนกัน

"ก็รู้นะว่าตามอุดมคติดาวเดือนต้องสวยหล่อ แต่พอมาดูคอนเซ็ปต์คณะที่ไม่เน้นสวยหล่อ เน้นความสามารถ นิ้วก็ไม่แคร์ เพราะไม่ได้ตั้งใจแข่งเพื่อให้เป็นดาวเดือนมหาวิทยาลัย แต่ที่ตั้งใจคืออยากให้ทุกคนรู้จักคณะศิลปกรรม"

"ผู้หญิงเกิดมาอยากสวยทุกคน นิ้วก็อยากสวย แต่ความสวยสมัยนี้ทำได้ง่าย เสริม เติม แต่งเข้าไปก็สวยได้แล้ว แต่เรื่องความสามารถทำกันยาก เป็นสิ่งที่อยู่ลึกๆ แต่ละคนเลียนแบบกันไม่ได้"

เช่นเดียวกับสาวคนนี้ ที่้นอกจากร้องเพลงแล้ว ยังแสดงละครได้ วาดรูปเก่ง เต้นลีลาศได้ และอนาคต วรรณิกาก็ฝันว่า อยากจะทำงานที่เกิดจากไอเดียของตัวเอง เป็นงานที่ทำให้ตัวเองและคนอื่นมีความสุข เพื่อให้ตรงกับนิสัย ที่ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะและมีความสุข

อีกหนึ่งหนุ่มที่ "ยอดไลค์" ขึ้นรัว รัว เกือบหลักแสนเช่นกัน เจ้าของฉายา "ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ" บุญฤทธิ์ ศรีรักษา หนุ่มเนิร์สๆ สวมแว่นตาหนาเตอะ โพสท่าแบบไม่มีเก๊กหล่อ เหมือนเดือนคณะอื่น บอกว่า เป็นท่าที่ผมคิดเอง ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นภาพที่มาส่งประกวดอย่างนี้ แต่เพราะรุ่นพี่บอกว่าจะถ่ายเก็บไว้เฉยๆ ช่วงแรกก็โพสท่าถ่ายเป็นผู้ชายธรรมดาๆ จนรุ่นพี่บอกว่าไม่ต้องทำท่าหล่อ จะทำท่าอะไรก็ได้ ผมเลยทำท่าเป็นสาวเอาฮาไป (หัวเราะ) จึงเป็นท่าสาวอินเดีย อารมณ์แบบพระเอกวิ่งตามนางเอก ท่า "ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ" ส่วนชื่อที่ได้มาเพราะผมไปตีกลองสามช่าตอนรับน้อง แต่จริงๆ เสียงมันไม่ใช่ "ตุ๊มตุ่มตะ ตุมโจ๊ะ" นะ เพราะเสียงนี้มาจากกลองอินเดียมากกว่า

"ปกติผมจะเฮฮาต่อหน้าเพื่อนมากกว่า แต่กับต่อหน้าคนอื่นจะไม่ค่อยกล้าแสดงออก กลัวเขาต่อว่าผมว่าเป็นคนเยอะ ยิ่งหากรู้ว่าจะถ่ายไปประกวดดาวเดือนอย่างนี้ ก็อาจเกร็งๆ เขินๆ ไม่ได้ท่าแบบนี้หรอก"

ด้วย "ไม่ได้หล่อขาวตี๋หุ่นล่ำ" แต่ก็ได้รับคะแนนโหวตท่วมท้น

"ตกใจ ไม่คิดว่าการแสดงออกของผมจะมีกระแสดีขนาดนี้ มีคนรู้จักมากขึ้น เข้ามาให้กำลังใจมากมาย แต่จากท่าแล้ว ผมยืนยันว่าเป็นชายแมนๆ 100 เปอร์เซ็นต์" ชาวสุราษฎร์ธานีวัย 18 หัวเราะก่อนจะมองปรากฏการณ์นี้ว่า

"เป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่อาจไม่สวย ไม่หล่อ หรือดูดี แต่ขอเพียงดูดีจากภายใน อย่างเรื่องความสามารถ แนวคิด การถ่ายทอดออกมา ซึ่งผมชอบแบบนี้มากกว่า เพราะเรียนศิลปะมา ก็ถูกสอนเสมอในเรื่องคิดสร้างสรรค์ ครีเอต เพราะศิลปะสามารถจรรโลงใจคนได้"

บุญฤทธิ์ ศึกษาจบจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี สาขาวิจิตรศิลป์ ระดับ ปวช. จากนั้นสอบโควต้ามาเรียนต่อคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.บูรพา ซึ่งชื่อเล่นจริงๆ หล่อมากว่า "เจมส์" ยิ่งได้ฟังความฝันของเขายิ่งหล่อหนักมาก

บุญฤทธิ์เล่าว่า ผมอยากเป็นครู อยากสอนศิลปะให้เด็ก ตรงนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่ผมเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนท่าข้าม จ.สุราษฎร์ธานี ผมเป็นคนชอบวิชาศิลปะมาก แต่ตอนนั้นครูมาสอนบ้าง ไม่มาสอนบ้าง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ก็เป็นแรงบันดาลใจที่ผมอยากกลับไปสอนให้เด็กได้รู้จักและชอบศิลปะเหมือนผม ให้เด็กได้มีความคิดสร้างสรรค์เพราะได้เรียนศิลปะอย่างที่เด็กในต่างประเทศได้เรียน ตั้งใจว่าเรียนจบศิลปกรรมศาสตร์แล้วจะไปเรียนเป็นครูต่อ

บุญฤทธิ์ฝากทิ้งท้ายว่า "การจะเป็นตัวของตัวเองขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและการเลี้ยงดู ไม่อยากให้เพื่อนๆ วัยรุ่นใช้สมองรกจนเกินไปจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง เลียนแบบคนอื่นเลียนแบบได้ แต่ทำแล้วมีความสุขหรือไม่ หากทำแล้วมีความสุขก็อยากให้แบ่งความสุขนั้นไปให้คนรอบข้างด้วย"

จากท่าโพสต์ที่แซ่บเว่อร์ บุคลิกที่โดดเด่น ทำให้ทั้งคู่คว้าตำแหน่ง "ป๊อปปูล่าร์ โหวต" ในการประกวดครั้งนี้

ส่วนตำแหน่ง "ดาว-เดือนมหาวิทยาลัย" มีดาว-เดือนจากคณะศึกษาศาสตร์เหมาไป ได้แก่ น.ส.วิลาสินี ศรีโกไสย หรือเฟิร์น และนายศรศีล บุตรเจริญ หรือเติ้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook