หนังสือดื่มได้คืออะไร ?

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คอลัมน์ Education Ideas ดร.ดนุวัศ สาคริก-เรื่อง มหาวิทยาลัยรังสิต

เมื่อโลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคของนวัตกรรม และความรู้ใหม่อย่างไม่มีขีดจำกัด จะเห็นว่าหลาย ๆ เรื่องมนุษย์เราสามารถที่จะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้

วันนี้ครับ ด้วยความชาญฉลาดของมนุษย์ ผนวกกับเทคโนโลยี จึงทำให้เกิดผลงานวิจัยที่น่าสนใจ และเรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น นั่นคือ "หนังสือดื่มได้" หรือ "Drinkable Book" ซึ่งหนังสือที่เราอ่านกันอยู่ทุกวัน จะไม่เพียงแค่อ่านได้เท่านั้นครับ แต่สามารถดื่มได้ และสร้างประโยชน์กับผู้คนอีกมากมายเลยทีเดียว

ว่าแต่ทำไมถึงต้องสร้างเจ้าหนังสือดื่มได้นี้ด้วย ?

มีเหตุผลอย่างนี้ครับ นักวิจัยพบว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า (Sub-Sahara) ในแอฟริกา ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 338 ล้านคน ซึ่งคนเหล่านี้ขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาดและมีคุณภาพ นักวิจัยจึงพยายามคิดค้นวิธีว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยให้พวกเขามีน้ำดื่มที่สะอาด รวมถึงได้รับความรู้ในการที่จะผลิตน้ำสะอาดเอง และนำไปใช้ประโยชน์ได้

จึงเป็นที่มาของ "หนังสือดื่มได้" หรือ "Drinkable Book" หนังสือที่ไม่เพียงแค่สามารถอ่านได้ แต่จะช่วยผลิตน้ำดื่มสะอาดปราศจากเชื้อโรคไปในตัวได้ด้วยครับ

สำหรับเจ้า "หนังสือดื่มได้" นี้ เป็นผลงานทางเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์คิดค้นโดย "Dr.Teri Dankovich" นักวิจัยจาก Pittsburg ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยนำกระดาษแต่ละแผ่นมาเคลือบด้วยอนุภาคเงิน (Silver nanoparticle) และทองแดง (Copper)

แต่ละหน้ากระดาษจะมีข้อความทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาท้องถิ่นเกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการเพื่อที่จะสามารถอ่านเป็นความรู้ประกอบกันไปด้วย ซึ่งกระดาษหนึ่งแผ่นนั้นสามารถกรองน้ำสะอาดได้ถึง 100 ลิตร โดยรวมหนังสือทั้งเล่มจะสามารถทำเป็นน้ำดื่มสะอาดได้ประมาณ 4 ปี

งานวิจัยดังกล่าวได้นำมาทดลองกับน้ำที่มีสารปนเปื้อนในแถบประเทศแอฟริกาใต้, กานา, เคนยา, เฮติ และบังกลาเทศแล้ว และด้วยคุณสมบัติอนุภาคของเงิน และทองแดงนั้น สามารถกำจัดแบคทีเรียในน้ำที่มีมลภาวะได้ถึง 99% (ผลการทดลองอ้างอิงจากงานวิจัยของ American Chemical Society"s National Meeting) เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับมาตรฐานน้ำประปาที่ดื่มได้กันเลยละครับ

เจ้า "หนังสือดื่มได้" นี้ เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจมากเลยครับ เพราะสามารถนำมาช่วยผู้คนอีกมากมายที่ต้องการน้ำดื่มที่สะอาด รวมถึงสามารถนำมาช่วยประเทศที่มีปัญหามลภาวะทางน้ำได้ ไม่ใช่เพียงแค่ทวีปแอฟริกาเท่านั้นนะครับ หากเทคโนโลยีนี้นักวิจัยสามารถผลิตออกมาได้ในปริมาณมาก และราคาไม่แพงจนเกินไปนัก ผมเห็นด้วยว่ารัฐบาลต่าง ๆ ในหลายประเทศที่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำดื่มก็น่าจะรับไว้พิจารณานะครับ

ความรู้ และเทคโนโลยีถ้านำมาใช้ให้ถูกทางนั้นจะสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์เรา และลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปได้อย่างมหาศาลเลยครับ