นันยางเขย่าตลาดผ้าใบ ... แค่ "ริบบิ้น" ก็มุ้งมิ้งได้

นันยางเขย่าตลาดผ้าใบ ... แค่ "ริบบิ้น" ก็มุ้งมิ้งได้

นันยางเขย่าตลาดผ้าใบ ... แค่ "ริบบิ้น" ก็มุ้งมิ้งได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์

กระแส Sneaker ตอนนี้แรงมากขึ้นเป็นความแรงที่มีพัฒนาการต่อเนื่องมา 2 ปีกว่าแล้วครับ

Sneaker คือ รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้ากีฬา

จากเดิมที่เคยใส่เล่นกีฬาอย่างเดียว หรือใส่เที่ยวแบบลำลอง

วันนี้รองเท้ากีฬากลายเป็นรองเท้าแฟชั่นไปแล้วครับ

เราจะเห็นผู้หญิงใส่รองเท้ากีฬามากขึ้น

ไม่ใช่แค่ใส่กับกางเกงยีนส์ แม้แต่กระโปรงเธอก็ใส่รองเท้ากีฬา

ถือเป็นแฟชั่นใหม่ที่มาแรงมาก

รองเท้ากีฬายี่ห้อดัง ๆ ทั้งหลายก็เริ่มปรับตัวครั้งใหญ่

"อาดิดาส" เป็นยี่ห้อที่ปรับตัวเร็วที่สุด ถ้าใครเดินเข้าร้านอาดิดาสจะพบว่ารองเท้ากีฬารุ่นใหม่สวยมาก

ดีไซน์ไม่ลายพร้อยหรือเรียบแบบทื่อ ๆ เหมือนรองเท้ากีฬาในอดีต

ผมเองก็เพิ่งไปเสียท่า ไปสอยมาแล้วคู่หนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน

มีคนบอกว่าอาดิดาสปรับกลยุทธ์ใหม่

เปลี่ยนจาก "ฟังก์ชั่น" เป็น "แฟชั่น"

คือ จากที่เคยโฆษณาคุณสมบัติที่เหนือชั้นเรื่องพื้นรองเท้า ความกระชับ การระบายความร้อน ฯลฯ ที่เหมาะกับการเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว

เขาเริ่มใช้การดีไซน์ที่สวยงามเป็น "จุดขาย"

จำปรากฏการณ์ "ซอมบี้" ที่สยามสแควร์ได้ไหมครับ

ผู้คนเบียดเสียดกันแย่งรองเท้าอาดิดาสรุ่น NMD R1 ที่วางขายแค่ 50 คู่

ทั้งที่ราคาก็ไม่ได้ถูก

6,900 บาท

นั่นคือ กระแสที่เกิดขึ้นจริงในเวลานี้

ยี่ห้ออื่น ๆ ก็เหมือนกันครับ ออกรองเท้ากีฬารุ่นใหม่ที่อิงแฟชั่นมามากมาย

เพราะกระแส Sneaker ท่าทางจะแรงไม่หยุด

รองเท้ายี่ห้อดัง ๆ แต่ละคู่ราคาหลายพันบาทครับ

คนก็ยังซื้อ

แต่กลยุทธ์การตลาดของ "รองเท้า" น่าสนใจที่สุดตอนนี้ไม่ใช่รองเท้ากีฬายี่ห้อดังระดับโลก

หากเป็นรองเท้าที่คนไทยคุ้นกันมานาน

"นันยาง"ครับ

"นันยาง" เป็นรองเท้านักเรียนและรองเท้ากีฬาที่เด็กผู้ชายแทบทุกคนในอดีตเคยเหยียบย่ำกันมาแล้ว

ลือชื่อกันมากเรื่องความหนึบและนุ่มของพื้นรองเท้า

จนถึงวันนี้"นันยาง" ก็ยังครองตลาดรองเท้านักเรียนผู้ชาย

แต่สำหรับนักเรียนหญิง รองเท้านันยางจะใช้เฉพาะตอนวิชาพละเท่านั้น

ตลาดจึงไม่ใหญ่มาก

ไม่เหมือนกับรองเท้านักเรียนผู้หญิงที่แข่งกันดุ

ใครจะไปนึกว่า"นันยาง" ที่นิ่งสงบมานานจะบุกตลาดเด็กผู้หญิง

เขาสร้างปรากฏการณ์ "นันยาง ชูการ์" ขึ้นมา

กลยุทธ์ของเขาง่ายมากเลยครับ

"นันยาง" เพิ่มลายพื้นรองเท้าด้านในเป็นสีน่ารัก ๆ เช่น เขียว ชมพู ฯลฯ

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาทำให้รองเท้ากีฬาของนักเรียนกลายเป็นรองเท้าใส่เที่ยวได้ด้วย "ริบบิ้น" สีสดเข้ากับลายรองเท้าด้านใน

ครับ แค่ "ริบบิ้น" เด็กผู้หญิงก็กรี๊ดสลบแล้ว

"ริบบิ้น" ทำให้รองเท้ากีฬาเรียบ ๆ ก็กลายเป็นรองเท้าเที่ยวมุ้งมิ้งทันที

"นันยาง ชูการ์" ตั้งราคาขายแค่คู่ละ 300 กว่าบาท

ตอนนี้แถม "ริบบิ้น" ฟรี

แต่ถ้าจะซื้อ "ริบบิ้น" สีอื่น

แยกขาย 30 บาท

เขาเริ่มยิงโฆษณาในเดือนมีนาคมเป็นหนังโฆษณาที่มีกลิ่นอายนักเรียนญี่ปุ่นน่ารัก ๆ

ปรากฏว่าขายดิบขายดีจนขาดตลาด

ที่สำคัญ ตอนนี้กระแส "นันยาง ชูการ์"

ไม่ใช่อยู่แค่เด็กนักเรียนนะครับ

เด็กมหา"ลัย และสาว ๆ ออฟฟิศก็กลายเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่

เพราะราคาตัดสินใจง่าย

ตอนนี้ "อาดิดาส-ไนกี้-นิวบาลานซ์ ฯลฯ" คงส่ายหน้า

อุตส่าห์คิดนวัตกรรมพื้นรองเท้า หรือจ้างดีไซเนอร์ระดับโลกมาออกแบบ

เจอ "ริบบิ้น" สีสดเข้าไปทีเดียว

...เรียบร้อย

ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook