แมวน่ารัก รวมภาพแมวและเกร็ดความรู้
แมวน่ารักๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป บางคนอาจรู้ไม่ว่า แมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ในตระกูล Felidae ที่มีต้นตระกูลมาจากเสือไซบีเรีย คนทั่วไปมักเรียกกันว่า แมวบ้าน มีความยาวช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางประมาณ 4 เมตร สำหรับแมวที่เลี้ยงกันตามบ้านมักจะมีรูปร่างเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้น และจัดอยู่ในประเภทของสัตว์ที่กินเนื้อ เขี้ยวและเล็บของมันแหลมคม สามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกันกับเสือ แมวนั้นสืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ทั้งลักษณะของแมวก็ยังคงพบเห็นได้ในแมวที่เลี้ยงตามบ้านปัจจุบัน
(ภาพเสือไซบีเรีย ต้นตระกูลแมว)
แมวน่ารักกับมนุษย์
ว่ากันว่า แมว เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวในสมัยอียิปต์โบราณ อย่างในพิพิธภัณฑ์อังกฤษซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ได้มีการจัดแสดงสมบัติที่นำออกมาจากพีระมิดโบราณแห่งอียิปต์ รวมถึงมัมมี่แมวที่มีอยู่จำนวนหลายตัว จากนั้นได้มีการนำผ้าพันมัมมี่ออกจึงพบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือ มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับแมวพันธุ์ปัจจุบันที่เรียกว่า แมวอะบิสซิเนีย
รูปแมวน่ารัก
บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งกวน กำลังจะเคลิ้มเลยเห็นไหม วุ้ย !
ใครมายืนอยู่หน้าบ้านเรา ทำไมไม่คุ้นหน้าเลยหว่า นี่คุณ ! ...
เห้อ ขออนุญาตนึกถึงความหลัง เมื่อครั้งที่เราเคยปาร์ตี้แมวน่ารักด้วยกันหลายๆ ตัว
นั่นอะไรหว่า เขี่ยๆ จิ้มๆ นี่แหนะ นี่แหนะ
เอ๊ะ ! บอกแล้วไงว่าอย่าแอบถ่าย ตกใจหมดเลยนิ
ขอนอนก่อน มันง่วงเหลือเกิน เมื่อคืนหนักไปหน่อย
ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ขอทิ้งตัวลงบนหญ้านุ่มๆ ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
อยากออกไปเที่ยวจังเลย ใครก็ได้พาน้องแมวน่ารักตัวนี้ออกไปเดินข้างนอกที
มันมากกว่าการที่จะพูดว่าฟิน คือ มันยิ่งกว่าฟินจริงๆ นะ
เอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ ขอเพ่งสายตามองให้ชัดกว่านี้หน่อยซิ
เห้อ ทำอะไรดีล่ะ ขี้เกียจวิ่งเล่นแล้ว วิ่งตัวเดียวมันไม่สนุก
แสงแดดอ่อนๆ แบบนี้ เหมาะกับการออกมาอาบแดดพร้อมกับงีบอ่อนไปด้วยมากๆ
มองอะไรเจ้ามนุษย์ ดูหน้าด้วยว่าเล่นด้วยเปล่า หึหึ
รู้จักทาสแมวกันไหม ?
มีเพื่อนๆ อยู่ไม่น้อยเลยที่กำลังตกหลุมรักเจ้าแมวน่ารักๆ พันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแมวที่เราเลี้ยงกันอยู่ในบ้าน หรือเป็นแมวสีสวยๆ ที่มีให้เห็นกันอยู่ทั่วไปตามซอย หรือท้องถนน ถ้าเกิดมองอะไรก็เป็นแมวไปหมด อยากฟัด อยากเหวี่ยง อยากอุ้ม อยากสัมผัส หรืออยากเดินเข้าไปเล่นกับแมวน่ารักๆ ขนฟูๆ ในแบบที่เลิกไม่ได้ รู้รึเปล่าว่าตอนนี้เพื่อนๆ กำลังตกเป็นทาสแมวแล้วนะ มีคนเคยบอกให้เราฟังว่าแมวส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมเป็นเจ้านายด้วย จะจริงแค่ไหน เราลองมาดูคำตอบจากนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซัสเซ็กส์ ที่ได้ทำการวิจัยเพื่อไขข้องสงสัยกันดีกว่า จะได้กระจ่างกันไปเลย …
มีหลายๆ คนที่กำลังสงสัยในตอนนี้ว่าระหว่าง เรา และ แมว ใครเป็นเจ้านายกันแน่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซัสเซ็กส์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองผู้ดี อย่าง ประเทศอังกฤษ ก็อยากรู้เหมือนกันกับเรา จึงได้ทำการค้นคว้าและศึกษาพฤติกรรมของเจ้าแล้วพบว่า เจ้าแมวน่ารักๆ นี่แหละที่กำลังพยายามทำตัวเป็นนายของคน โดยดูจากพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับแมว ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่สนใจในเรื่องนี้พบว่า มนุษย์อย่างเราๆ นี่แหละ ที่กำลังตกเป็นทาสแมว
จะสังเกตได้อย่างไรว่าแมวกำลังทำตัวเป็นนายเรา ?
เรื่องนี้ใช้วิธีดูได้ไม่ยาก ดูจากแมวบ้านที่เราเลี้ยงไว้จะสำแดงความเป็นนายออกมาด้วยการร้องเสียงสูง ร้อนรน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแมวจะร้องเสียงสูงปนๆ กัน นั่นก็ทำให้เจ้าของนึกว่าเป็นเสียงร้องที่เกิดจากความสุข โดยส่วนใหญ่เจ้าแมวจะร้องเสียงแบบนี้ในเวลาที่ง่วงนอน
ดร. กาเรน แมคคอมบ์ หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของแมวได้กล่าวว่า สำเนียงที่ปะปนอยู่ในเสียงเรียกของแมวมักทำให้เจ้าของนึกว่าเป็นเสียงแห่งความพึงพอใจ แต่จริงๆ แล้วมักจะมีความหมายเป็นนัยว่า ขอให้ทำอะไรให้ ส่วนมากจะเป็นเสียงที่บอกถึงการร้องของเจ้าแมวนั่นเอง เจ้าของให้ความรู้สึกว่าเสียงที่เจ้าแมวร้องออกมาเป็นเสียงที่อ่อนหวานมากกว่าการที่มันร้องโพล่งออกมาเสียงแข็ง พาลจะทำให้เจ้าของไล่มันออกไปเสียเปล่าๆ นอกจากนั้นเท่าที่สังเกตการร้องของแมว มันจะร้องให้เข้ากับสัญชาติญาณความอ่อนไหวในการเลี้ยงดูลูกของคน ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ทำการศึกษามาก่อนหน้านี้ว่า แมวจะร้องด้วยความถี่ของเสียงเท่ากับเสียงที่เด็กทารกร้อง แต่ก็ยังคงมีเสียงที่สะดุดหูบ้างอยู่ประปราย ยิ่งกว่านั้นยังพบอีกว่า แมวยังรู้จักดัดเสียงให้ดูดุเดือดกว่าปกติ เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจของคน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น แมวมักจะทำเสียงเช่นนี้ทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าของ
เตรียมพร้อมก่อนรับเลี้ยงแมวน่ารักๆ
การเตรียมบ้านหลังใหม่ให้ลูกแมว
หลังจากที่รอคอยมาแสนนาน ในที่สุดก็ได้เวลาต้อนรับสมาชิกใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ ลูกแมว เพราะลูกแมวเองก็เพิ่งจะมีหลายๆ สิ่งเกิดขึ้นกับเขา ไม่ว่าจะเป็น การถูกแยกจากแม่แมว การถูกแยกจากพี่น้องในครอกเดียวกัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เกิดโดยสิ้นเชิง ฉะนั้น เมื่อคุณได้รับลูกแมวน่ารักๆ มาในระยะแรก คุณควรปฏิบัติต่อลูกแมวอย่างอ่อนโยน ให้ลูกแมวได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ เพื่อไม่ให้ลูกแมวต้องตกอยู่ในสภาวะที่ตื่นกลัว อาจจัดให้ลูกแมวได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณที่เงียบสงบและปล่อยให้ลูกแมวสามารถออกเดินสำรวจรอบๆ บริเวณของบ้านใหม่ได้ ต่อมาสิ่งที่เราควรทำก็คือ การรับผิดชอบในความปลอดภัยของลูกแมว ควรเก็บและพันสายไฟ รวมถึงจัดสถานที่ที่อยู่ให้พ้นจากลูกสุนัข สารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายก็ควรเก็บให้มิดชิด และควรตรวจดูบริเวณที่เป็นรั้วแหลมคม หรือร่องที่อาจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เจ้าของจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
พาแมวไปพบสัตวแพทย์
หลังจากที่เราได้รับลูกแมวน่ารักๆ มาเลี้ยงแล้ว แนะนำว่าให้พาเขาไปพบกับวสัตวแพทย์เพื่อเป็นการตรวจร่างกาย เราจะได้รู้ว่าลูกแมวตัวใหม่ของเรามีสุขภาพดีหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการวางแผนในการทำวัคซีน หรือเพื่อเริ่มต้นการรักษา รวมถึงเป็นการรับคำแนะนำต่างๆ จากสัตวแพทย์เมื่อตัดสินใจนำลูกแมวมาเลี้ยง ดังนั้น เราจึงมีข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับลูกแมวที่คุณอาจได้พบเมื่อพาพวกเขาไปพบกับสัตวแพทย์ครั้งแรกมาฝาก
- เมื่อรับลูกแมวตัวใหม่มาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัวแล้ว คงจะเป็นการดีหากคุณจะสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีไว้กับสัตวแพทย์ที่ทำการรักษาลูกแมวของคุณ คุณควรจะพาลูกแมวไปพบกับสัตวแพทย์เป็นประจำในขณะที่ลูกแมวกำลังเจริญเติบโต เพื่อที่จะได้รับการตรวจสุขภาพทั่วไปว่าสมบูรณ์ดีหรือไม่ อีกทั้งควรให้ลูกแมวคุ้นชินกับการไปพบสัตวแพทย์ให้มากๆ
- ควรจะพาลูกแมวของคุณไปพบกับสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายครั้งแรกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สัตวแพทย์จะได้ทำการช่วยรักษา หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าแมวได้อย่างทันท่วงทีหากมีปัญหาเกิดขึ้น ให้ทำการนัดวันและเวลาในการนำลูกแมวเข้าไปทำการตรวจร่างกาย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี หากเป็นไปได้ควรมีเลขหมายที่สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมงในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่ได้คาดฝันขึ้น
ปัจจัยพื้นฐานที่ลูกแมวต้องการ
- เหล่าลูกแมวน่ารักๆ ต้องการนอนหลับพักผ่อนที่มากกว่าแมวที่โตแล้ว แนะนำว่าให้จัดที่นอนให้เจ้าแมวในแบบที่ปราศจากสิ่งรบกวน บริเวณพักผ่อนควรเป็นบริเวณที่ว่างและใกล้แหล่งของแสง อาทิ ช่องลม หรือหน้าต่างที่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง เนื่องจากเหล่าน้องสุดน่ารักชอบที่จะนอนในบริเวณที่มีแสงส่องถึงแต่ควรเป็นบริเวณที่ใกล้เจ้าของ หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลี้ยงแมวไว้ในห้องนอนอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีสักเท่าไหร่
- บริเวณที่ให้อาหารควรห่างไกลจากกระบะทรายแมว แนะนำให้หลีกเลี่ยวบริเวณที่รับประทานอาหารของเจ้าของ เนื่องจากแมวจะสับสนระหว่างชามอาหารของตัวเองและจานอาหารของเจ้าของ ส่วนบริเวณที่ไว้สำหรับให้เล่น แมวจะใช้พื้นที่มากที่สุด โดยจะต้องมีบริเวณสำหรับเล่น วิ่ง และปีนขึ้นที่สูง ส่วนบริเวณสำหรับขับถ่ายควรเป็นบริเวณที่เข้าออกได้ง่าย และห่างจากบริเวณชามน้ำ ชามอาหาร และบริเวณที่ใช้สำหรับพักผ่อน
เรื่องราวเกี่ยวกับแมวที่ถือได้ว่าเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่เรานำมาฟากกัน ปัจจุบันนี้เราจะสังเกตได้ว่ามีแมวหลากหลายสายพันธุ์ให้เราได้เห็น ทั้งที่เลี้ยงไว้ตามบ้าน หรือที่เราได้เห็นกันอยู่ตามตรอกซอกซอย รวมไปถึงตามถนนเส้นเล็กเส้นใหญ่ในกรุงเทพฯ ต่างก็มีความน่ารัก น่าเล่นไม่แพ้กันเลย ลองมาดูภาพที่เรานำมาฝากกันวันนี้ดีกว่า ว่าจะเป็นแมวน่ารักๆ อย่างที่เราเคยเล่นด้วยรึเปล่า
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/photos/แมวน่ารัก/
ขอบคุณข้อมูลจาก: th.wikipedia.org, catlikelove.com, royalcanin.co.th