บริษัทต่างชาติชี้ นักศึกษาไทยเขียนเรซูเม่สมัครงานไม่เป็น

เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการตลาดของบริษัท iPrice ซึ่งเป็นบริษัททำธุรกิจ e-commerce ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้เผยแพร่บทความ "เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง" ระบุเด็กไทยส่วนใหญ่พลาดโอกาสในการได้งาน เนื่องจากเรซูเม่ที่ส่งให้ฝ่ายบุคคลพิจารณานั้นไม่มีเนื้อหาใด ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานได้เลย เนื่องจากนักศึกษาไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป เช่น ชื่อ, ที่อยู่, งานอดิเรก ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลสำคัญที่จะถูกนำมาพิจารณา สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ คือ "ทักษะ ความสามารถ และความรู้" มีเพียง 1.5% ของใบสมัครทั้งหมดเท่านั้นที่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้น

เรซูเม่ที่นักเรียนไทยส่งมาเมื่อเทียบกับเรซูเม่ของนักเรียนจากประเทศอื่น ๆ ในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เรซูเม่ของเด็กไทยถือเป็นเรซูเม่ที่ง่ายเกินไป กล่าวคือมีเพียงชื่อของกิจกรรมที่เคยทำเท่านั้น เมื่อเทียบกับนักเรียนในประเทศอื่น ๆ ซึ่งพวกเขานำเสนอกิจกรรมที่พวกเขาเคยทำได้อย่างน่าสนใจ มีรายละเอียดของกิจกรรมที่เคยทำครบถ้วน และมีการพูดถึงทักษะที่พวกเขาได้รับ ถึงแม้จะระบุกิจกรรมดี ๆ มากมายลงบนใบสมัคร แต่ถ้าไม่สามารถบอกถึงความสามารถ ใบสมัครก็คงไม่ได้รับการพิจารณา

นอกจากนี้ นักศึกษาไทย 7 คนจาก 10 คน นิยมส่งเรซูเม่ที่แนบรูปภาพที่ไม่เป็นทางการ เช่น รูปเซลฟี่หรือรูปขณะไปท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าไม่สุภาพ โดยฝ่ายบุคคลแนะนำว่าถ้าหากไม่มีรูปภาพที่เป็นทางการแล้ว การเลือกที่ไม่ใส่รูปภาพเลยอาจจะยังได้รับโอกาสพิจารณามากกว่าเสียอีก

อีกเรื่องที่เป็นปัญหาคือ นักศึกษาไทยนิยมเขียนโปรแกรมที่สามารถใช้ได้ แต่บริษัทไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าโปรแกรมที่พวกเขาสามารถใช้ได้นั้นมีความละเอียดมากน้อยเพียงใด เช่น ระบุทักษะเก่ง Excel, Word, Powerpoint ซึ่งเหล่านี้ล่วนเป็นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะมี การใส่ลงไปไม่ได้สร้างความโดดเด่นเหนือผู้สมัครคนอื่น แต่หากระบุโปรแกรมเฉพาะที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ เช่น Google Analytics ก็จะช่วยให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นกว่าใคร

ทั้งนี้ ข้อจำกัดของนักศึกษาไทยคือภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลักในการสื่อสาร สิ่งที่นักศึกษาจะต้องทำก็คือการเพิ่มข้อมูลประวัติและกิจกรรมของคุณให้ครบ อย่าวิตกว่าจะใช้ภาษาอังกฤษถูกต้องหรือไม่ อย่าใส่แต่หัวข้อ

สำหรับการส่งใบสมัครผ่านทางอีเมลโดยตรงหรือผ่านทางเว็บไซต์สมัครงานจะต้องเขียนเกริ่นนำที่มีความเหมาะสม นักศึกษาไทยจำนวนมากเขียนอีเมลโดยเพียงบอกแต่ว่า “สมัครงานค่ะ ฝากพิจารณาด้วยนะคะ” หรือ “ผมสนใจในตำแหน่งการตลาดครับ ฝากพิจารณาใบสมัครด้วยนะครับ” การเริ่มต้นอีเมลในรูปแบบนี้คงไม่ดีนัก สิ่งที่นักศึกษาต้องตระหนักคือต้องรู้จักการเขียนอีเมลที่เตะตากรรมการและเป็นมิตรต่อผู้อ่าน โดยอีเมลที่มีเนื้อหาที่เหมาะสม ย่อหน้าแรก ต้องบอกจุดประสงค์ของการสมัครงาน ย่อหน้าสองเป็นการแนะนำตัว และย่อหน้าสุดท้ายคือการขอบคุณบริษัทที่สละเวลาพิจารณาประวัติของคุณ

เพียงการเขียนอีเมลแนะนำตัวเองง่าย ๆ เท่านี้ ก็จะทำให้บริษัทเห็นว่าคุณสามารถแนะนำตัวเองให้บริษัทจดจำได้ และที่สำคัญบริษัทก็พร้อมที่จะเปิดเรซูเม่ของคุณขึ้นมาพิจารณา หากนักศึกษาไทยสามารถปรับปรุงการเขียนเรซูเม่ให้ถูกต้องเหมาะสมแล้วนั้น โอกาสในการได้รับเข้าสัมภาษณ์งานย่อมเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากความสามารถและศักยภาพของนักศึกษาไทยนั้นไม่ด้อยไปกว่านักศึกษาในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย