รู้แล้วถึงกับอึ้ง! 10 วิชาแปลก เปิดสอนจริง แบบนี้ก็มีด้วย!

รู้แล้วถึงกับอึ้ง! 10 วิชาแปลก เปิดสอนจริง แบบนี้ก็มีด้วย!

รู้แล้วถึงกับอึ้ง! 10 วิชาแปลก เปิดสอนจริง แบบนี้ก็มีด้วย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


     หากเราลองนึกย้อนถึงวิชาเรียนยอดนิยมในรั้วมหาวิทยาลัย สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ อาจนึกถึงวิชาพื้นฐานในคณะยอดนิยมต่างๆ ที่หลายๆ มหาวิทยาลัยเปิดสอน เช่น คณะนิเทศศาตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะครุศาสตร์ หรืออีกหลายๆ คณะยอดนิยมที่เรามักจะนึกถึงคล้ายๆกัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า เด็กไทยรุ่นใหม่มีโอกาสที่จะได้เรียน ในสาขาวิชาที่หลากหลายมากขึ้นกว่าในยุคที่เราๆเคยร่ำเรียนมา และบางสาขาวิชาก็เป็นสาขาวิชาที่มีเนื้อหาแปลกแหวกแนว ที่เมื่อคุณได้รู้จักอาจจะถึงกับอึ้ง! และอาจไม่เชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำว่า วิชาเหล่านี้มีสอนอยู่จริงๆเหรอ และเรียนไปแล้วเด็กๆ จะได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรกันนะ ซึ่งเราจะแนะนำให้ได้รู้จักกัน...

    มาเริ่มที่วิชาแปลกวิชาแรกที่มีชื่อชวนให้รู้สึกได้ถึงความโรแมนติก นั่นคือ วิชา “ปรัชญาความรัก” (Philosophy of Love) ... ซึ่งสาขาวิชานี้อยู่ในกลุ่มวิชาสุนทรียศาสตร์และวัฒนธรรม เปิดสอนเกี่ยวกับ แนววิธีศึกษาปรากฏการณ์ของความรักอันเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ โดยพินิจพิเคราะห์และอภิปรายประเด็นปัญหาของความรักผ่านมุมมองทางปรัชญา ทั้งในด้านที่เป็นปัจเจก และในด้านที่มีมิติสัมพันธ์กับสังคมรอบตัว ซึ่งไม่แน่ว่าเรียนแล้วเราอาจเข้าใจมุมมองความรักใหม่ๆได้มากขึ้น เป็นกูรูความรักให้กับตัวเองและเพื่อนๆ ได้แน่ๆ



     วิชาแปลกอีกวิชา เรียกได้ว่าแปลกและแหวกล้ำจินตนาการมนุษย์เอาอยู่มากๆ และคุณอาจไม่เชื่อสายตาของตัวเองเสียด้วยซ้ำว่ามีวิชานี้อยู่จริงๆ นั่นคือวิชาที่ว่าด้วยเรื่องของ “มโนทัศน์ความตาย” (Concept of Death) ซึ่งวิชาเหนือจินตนาการวิชานี้ เปิดสอนในเรื่องปรัชญาเกี่ยวกับความตายในศาสนา แนวความคิดเกี่ยวกับความตายของนักปรัชญาสำคัญของโลก วิเคราะห์โลกทัศน์เกี่ยวกับความตายจากวาทะ ภาษิต เรื่องเล่าวรรณคดี เพื่อให้เข้าใจถึงระบบความคิดเกี่ยวกับความตายของคนไทย ภาวะคนใกล้ตาย การเตรียมตัวตายอย่างมีสติ และแนวคิดเรื่องชีวิตหลังความตาย ซึ่งถึงแม้ว่าชื่อวิชาอาจจะฟังดูชวนขนหัวลุกอยู่สักหน่อย แต่เชื่อว่าถ้าใครชอบแนวปรัชญา เรียนรู้ความตายด้วยวาทะแบบนี้แล้วละก็ การศึกษาเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับความตาย อาจช่วยให้เราเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นอีกด้วย



     วิชาแปลกๆแบบนี้ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เพราะที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังสร้างสรรค์วิชาแปลกในอีกหลากหลายแนว ไว้ให้เด็กๆน้องๆ นักศึกษารุ่นใหม่ได้เลือกเรียนได้ตามความสนใจของตัวเองอีกเพียบ เช่น ...

     วิชาความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย

     วิชาวัฒนธรรมชา และกาแฟ



     วิชา 1 ไร่ 1 แสน (Smart Farmers)

     วิชาโหราศาสตร์

     วิชา Vocal and dancing

     วิชา Senses (ประสาทสัมผัสทั้ง 5)

     วิชา Digital coding

     วิชาการประกอบการเชิงนวัตกรรม (IDE-Innovation Driven Entrepreneur) ฯลฯ

     เด็กไทยยุคใหม่ เกิดมาในโลกที่วิทยาการก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดจากอดีตอย่างมาก จึงไม่แปลกที่เด็กในในยุคนี้สมัยนี้ จะเป็นเด็กที่มีเรื่องราวมากมายที่ต้องเรียนรู้ การศึกษาถึงอดีต และการศึกษาวิทยาการปัจจุบัน เป็นการศึกษาเพื่อความเข้าใจไม่ใช่เพียงเพื่อรู้เหมือนในอดีตอีกแล้ว วิชาการต่างๆจึงต้องปรับให้มีความหลากหลายเพื่อให้ตรงกับความสนใจศึกษาของเด็กแต่ละคน สำหรับเตรียมความพร้อมเพื่อให้พวกเค้าสามารถเติบโตอย่างคุณภาพ เป็นบุคลากรของประเทศอย่างแข็งแรง และมีความชำนาญในแบบของตนเองอย่างดีที่สุด ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก็เป็นมหาวิทยาลัยยุคใหม่สถาบันแรกๆ ที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในการพัฒนาเยาวชนของชาติอย่างเต็มที่

     ซึ่งรายวิชาต่างๆ ที่เล่ามานี้ จะเป็นรายวิชาที่เด็กๆ ได้ศึกษากันตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญและในการต่อยอดร่วมกับองค์ความรู้ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นจุดเด่นของการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เด็กๆ จะได้ศึกษาจนสามารถสร้างสรรค์เป็นธุรกิจที่มีไอเดียใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่แพ้ใครในยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 4.0 อย่างแน่นอน

     และโดยเฉพาะวิชา “IDE” หรือวิชา “การประกอบการเชิงนวัตกรรม” ถือเป็นวิชาที่ทุกคนต้องเรียน เพราะจะสร้างอัตลักษณ์ของการเป็นเด็กหัวการค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้แตกต่างที่นักศึกษาต้องมีทั้งความรู้เชิงนวัตกรรมและเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างธุรกิจที่สามารถอยู่รอดและยั่งยืน ซึ่งวิชานี้เน้นการนำเสนอไอเดียธุรกิจ และไม่ได้วัดผลด้วยการสอบ

      สำหรับรายละเอียดสาขาวิชาต่างๆที่เล่ามา และวิชาอื่นๆ สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยฯ ได้ที่ http://admission.utcc.ac.th/

 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook