“เป็นเด็กหัวการค้า” แค่คิดนอกกรอบก็ตอบโจทย์ความฝันได้แล้ว

     อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ? อยากเป็นเจ้าของแบรนด์? อยากจบมามีงานทำ?

     เชื่อว่าเป้าหมายเหล่านี้ อยู่ใกล้แค่เอื้อม ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นที่มีวิชาความรู้และความมุ่งมั่นมากเพียงพอ ยิ่งถ้าได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองและส่งให้เราไอเดียบรรเจิดได้ตลอดเวลา ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้ความฝันได้มากขึ้นเท่านั้น

     เพราะวัยรุ่นในปัจจุบันหลายคนมีความฝันแบบนี้ ทำให้เราไม่สามารถมองข้ามพลังเด็กวัยรุ่นไปได้เลย ความมุ่งมั่นของคนเหล่านี้นี่ล่ะสามารถสร้างธุรกิจและหาเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และยุคนี้เรื่องต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากันก็ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้แล้ว เพราะแค่มีความรู้และรู้ช่องทางหารายได้ที่มากกว่าคนอื่น ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งหนึ่งในก้าวสำคัญที่จะทำให้เราบรรลุความฝัน หนีไม่พ้นการเลือกก้าวเข้าไปสู่มหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ทั้งความคิดและสามารถส่งเสริมให้เราเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริงได้ด้วยการลงมือทำ

     ถ้ายังไม่เห็นภาพ Sanook! Campus ขอยกตัวอย่าง 3 นักศึกษา เจ้าของ 3 กิจการจากแคมเปญ “เด็กหัวการค้า” ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

     เริ่มจาก วารี ดรรชนีพิพัฒน์ สาวน้อยที่เริ่มต้นจากการเลี้ยงแมว ที่นำความชอบมาบวกกับความรู้ที่ได้จากการเรียนการสอนแบบ iHybrid ในรั้วมหาวิทยาลัย เปิดธุรกิจโรงแรมแมว Cat Care Thailand ที่เข้าใจอินไซต์ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงชนิดนี้สุดๆ



     อีกหนึ่งสาวที่ปิ๊งไอเดียในการทำธุรกิจจากแคมเปญ “เด็กหัวการค้า” ก็คือ มนทิพย์ เอกศรีสกุล เจ้าของกิจการ The Sweety Balloon ที่มีที่มาจากความชอบของเธอเช่นกัน จนเป็นกิจการที่มีลูกค้ามากมายโดยเฉพาะฤดูกาลรับปริญญา



     อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือ ชินวัตร เจาจารึก หนุ่มนักศึกษาเจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ Naturalist Thailand ที่บอกว่าการทำธุรกิจของเขานั้นนำสิ่งที่ได้เรียนรู้และการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมาทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และสร้างกิจการของตัวเองได้ในที่สุด



     ทั้งสามคนคือส่วนหนึ่งของนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าอีกมาก ที่บอกเล่าเรื่องราวการมีธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ในวัยเรียน ซึ่งก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีแค่ความฝัน แต่ยังสามารถนำองค์ความรู้ด้านการประกอบการมาต่อยอดและประกอบอาชีพได้อย่างสร้างสรรค์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จึงถูกเรียกว่า “เด็กหัวการค้า”



     บวกกับ “เด็กหัวการค้า” ในคณะและสายงานต่างๆ ทั้งที่จบไปแล้วและเรียนอยู่อีกจำนวนไม่น้อย ที่สามารถต่อยอดความฝันได้สำเร็จด้วยการลงมือทำ เพราะพวกเขาเหล่านี้ ได้อยู่ในที่ที่บ่มเพาะเยาวชนรุ่นใหม่ให้เป็น Innovative Entrepreneur เพื่อเติบโตและประสบความสำเร็จได้ในโลกแห่งธุรกิจ

     ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้หลายคนอาจจะสังเกตว่า “เด็กหัวการค้า” ทั้งนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้องต่างเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของตัวเองเป็นครอบครัวเด็กหัวการค้าที่แสดงถึงการรวมพลังและเครือข่ายเด็กหัวการค้าในสาขาวิชาคณะต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

     อย่าลืมว่าถึงมหาวิทยาลัยจะไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่การเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์การประกอบอาชีพ ก็มีส่วนช่วยสานฝันให้เป็นจริง เพราะช่วงมหาวิทยาลัยเองก็มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะกำหนดทิศทางชีวิตเราต่อไป

     ถ้าเจอมหาวิทยาลัยที่ใช่สำหรับการทำตามความฝันแล้ว ไม่แน่ว่าคุณเองก็อาจจะเป็น “เด็กหัวการค้า” คนต่อไปก็เป็นได้

 

 

[Advertorial]