โดนใจกันไหม? ร้านอาหาร “ห้ามเด็กเข้าร้าน” แก้ปัญหาเด็กป่วน

โดนใจกันไหม? ร้านอาหาร “ห้ามเด็กเข้าร้าน” แก้ปัญหาเด็กป่วน

โดนใจกันไหม? ร้านอาหาร “ห้ามเด็กเข้าร้าน” แก้ปัญหาเด็กป่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าธรรมชาติของเด็กๆ จะซุกซน อยากรู้อยากเห็น และอาจไม่รู้จักกาลเทศะที่เหมาะสมไปบ้าง แต่หากพ่อแม่ของเด็กละเลยต่อพฤติกรรมของลูกยามเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ จนสร้างความเดือดร้อน หรือรำคาญใจให้กับคนรอบข้าง เรื่องที่ถูกมองว่าเล็กน้อย ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ เหมือนที่มีคำพูดติดปากว่า “ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” ให้ได้ยินกันบ่อยครั้ง

หนึ่งในสถานที่สาธารณะที่เราได้พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของเด็กๆ เห็นจะหนีไม่พ้นภัตตาคารหรือร้านอาหารต่างๆ ที่พ่อแม่เด็กบางรายพาลูกมากินอาหารนอกบ้าน แต่ไม่ดูแลให้ดีจนไปก่อความรำคาญให้กับแขกคนอื่นในร้าน ทั้งการวิ่งเล่นในร้าน ขว้างปาอาหาร กรีดร้อง หรือทำเสียงดังรบกวนผู้อื่น

เมื่อถูกตักเตือนจากแขกหรือพนักงานในร้าน กลับมีพ่อแม่ของเด็กจำนวนไม่น้อยที่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ โดยไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใดว่าพฤติกรรมของลูกตนเองไปก่อกวนชาวบ้าน ซึ่งปัญหาเด็กป่วนในร้านอาหารไม่ได้มีเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น เพราะไม่ว่าประเทศไหนๆก็มีให้เห็นกันทั้งนั้น

และในเมื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้ ร้านอาหารหลายแห่งจึงต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ด้วยการออกกฎเหล็ก “ห้ามเด็กเข้าร้าน” เสียเลย โดยที่ผ่านมา มีหลายร้านที่กำหนดอายุของเด็กที่อนุญาตให้เข้าร้านอาหารได้

อาทิ ร้านอาหารในนอร์ธแคโรไลนาของสหรัฐอเมริกาที่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าร้าน มาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หรือคาเฟ่ในเมืองบริกแซมของอังกฤษ ที่กำหนดอายุของเด็กไว้ว่าต่ำกว่า 12 ปีห้ามเข้า แต่อนุญาตให้นำสุนัขเข้าร้านได้ ขณะที่ร้านอาหารในออสเตรเลีย ก็ติดประกาศไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบเข้าร้านเช่นกัน

ส่วนเหตุผลที่ร้านอาหารเหล่านี้กำหนดอายุของเด็กที่เข้าร้านอาหารล้วนไม่ต่างกัน นั่นคือเด็กสร้างความรำคาญให้กับแขกคนอื่นในร้านโดยที่พ่อแม่ของเด็กไม่คิดว่าเป็นเรื่องเสียหาย และคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยนี้ จึงเพิกเฉยที่จะตักเตือนลูกของตัวเอง ส่งผลให้ร้านต้องเสียลูกค้าคนอื่นๆ ไป

เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนในนอร์ธแคโรไลนาบอกว่า ความอดทนของเธอถึงขีดสุด เมื่อมีพ่อแม่คู่หนึ่งพาลูกสาวมาในร้าน และปล่อยให้ลูกเล่นไอแพดเสียงดังรบกวนแขกคนอื่น โดยไม่ยอมลดเสียงตามที่ทางร้านร้องขอ เธอจึงขอให้ครอบครัวนี้ออกจากร้านไปเสีย พร้อมกับติดประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าร้านนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ขณะที่คุณลุงเจ้าของคาเฟ่เล็กๆ ในบริกแซม บอกว่า เขาอยากให้ลูกค้าที่เข้ามาในร้านได้นั่งพูดคุยและรำลึกถึงความหลังกันโดยไม่มีเด็กมาวิ่งเล่นในร้าน หรือมารบกวนบรรยากาศสงบในร้าน พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ทางร้านยินดีต้อนรับสุนัขที่เจ้าของพามา เพราะพวกมันไม่ได้กระโดดขึ้นมาบนโต๊ะ หรือทำอะไรแย่ๆ อย่างที่เด็กทำ

อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารทุกร้านที่ตัดสินใจแบนเด็กเข้าร้าน ต่างยอมรับว่าพวกเขาเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมไม่ต่างกัน โดยเฉพาะจากพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ ซึ่งมองว่าทางร้านเลือกปฏิบัติ และไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม

แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่เด็กก็คงลืมคิดไปว่า ตนเองคือต้นเหตุสำคัญที่ทางร้านห้ามเด็กเข้า เพราะหากรู้ว่าลูกตัวเองไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน และควบคุมเด็กไม่ให้ก่อเรื่องหรือไปสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นได้ ก็คงจะไม่มีกฎเหล็กแบบนี้ออกมา

ส่วนบ้านเราถ้าใครคิดจะตามรอย “แบนเด็กเข้าร้านอาหาร” กับเขาบ้าง ก็คงต้องถามก่อนว่า พร้อมรับ “ดราม่า” ที่จะตามมาแล้วหรือยัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook