ผลวิจัยชี้! คนยุคใหม่อยาก “ทำงาน” ไม่ใช่ “แต่งงาน”
เชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายคนน่าจะเคยสัมผัสคำถามเหล่านี้จากญาติพี่น้อง หรือมนุษย์ที่เรียกว่า “ป้าข้างบ้าน” มาไม่มากก็น้อย
“เรียนต่อมหาวิทยาลัยไหน?” “เรียนจบหรือยัง?” “ทำงานที่ไหน?” “เงินเดือนเท่าไร?” และที่พีคสุดอย่าง “มีแฟนหรือยัง?” และ “เมื่อไรจะแต่งงาน?” ต่อให้คนที่แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วก็ต้องเจอ “เมื่อไรจะมีลูก?”
แหม...ถ้ามีเงินถุงเงินถัง ก็จะมีลูกให้คุณป้าเลิกถามนะ แต่ป้าคงลืมไปว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว! คนเราไม่ต้องทำไร่ไถนา มีลูกให้ทันใช้เป็นแรงงานอีกต่อไป เพราะฉะนั้น หากป้าข้างบ้านมาสะกิดถามอีก ก็แนะนำให้ป้าดาวน์โหลด NoozUP แล้วอ่านรายงานจากสำนักสำมะโนประชากร สหรัฐอเมริกา ที่เขาบอกว่า “กลุ่มมิลเลนเนียลในสหรัฐฯ มีค่านิยมทางเศรษฐกิจและสังคมต่างจากคนรุ่นก่อน”
รายงานนี้เปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การศึกษา และความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ระหว่างคนอเมริกันยุคใหม่ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 34 ปี และกลุ่มที่มีอายุเท่ากันแต่อยู่ในช่วงปี 1975 (คือรุ่นคุณป้านั่นเอง) สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ คนรุ่นมิลเลนเนียลแตกต่างจากคนรุ่นก่อนแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ระยะเวลาที่เริ่มมีครอบครัว และแม้แต่ผู้ที่อาศัยอยู่ด้วยเมื่อเติบโตขึ้น
ชาวอเมริกันยุคใหม่ส่วนใหญ่เชื่อว่าความสำเร็จด้านการศึกษาและเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญมากที่สุดในวัยผู้ใหญ่ และกว่าครึ่ง หรือ 55% เชื่อว่าการแต่งงานมีลูกนั้นไม่สำคัญ ซึ่งแนวคิดนี้แตกต่างจากค่านิยมเมื่อ 40 ปีก่อน โดยในปี 1975 ราว 8 ใน 10 ของประชาชน แต่งงานเมื่ออายุย่างเข้า 30 ปี ในขณะที่ 8 ใน 10 ของคนยุคใหม่แต่งงานเมื่ออายุ 45 ปี (ใครยังอายุไม่ถึง 45 ขอบอกว่ายังมีเวลานะ)
ส่วนสาวๆ ก็มีสถิติน่าสนใจเช่นกัน โดยในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงทำกำไรทางเศรษฐกิจได้เป็นจำนวนมาก และมีความก้าวหน้าทางอาชีพ ในขณะที่ผู้ชายที่อายุใกล้เคียงกันกลับมีรายได้ลดลง และปัจจุบันนี้ มีผู้หญิงรุ่นมิลเลนเนียลเพียง 14% เท่านั้นที่เป็นแม่บ้าน เมื่อเทียบกับในปี 1975 ที่สาวๆ เป็นแม่ศรีเรือนถึง 43%
นอกจากนี้ กลุ่มมิลเลนเนียลยังอาศัยอยู่บ้านของพ่อแม่ หรือหอพักของมหาวิทยาลัย คิดเป็น 1 ใน 3 ของคนอเมริกันรุ่นใหม่ทั้งหมด 24 ล้านคน โดยในตอนท้ายของรายงานสรุปว่า ผู้ใหญ่สมัยนี้แตกต่างจากเมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ซับซ้อนมากขึ้นนั่นเอง