สะท้อนเส้นทาง “กว่าจะมาเป็นหมอฟันในอเมริกา” จากอดีตนักศึกษาอินเดีย

อาชีพทันตแพทย์ในสหรัฐฯ เป็นงานที่รายได้ดี และดึงดูดนักเรียนต่างชาติให้มาเรียนต่อสาขาศัลยกรรมช่องปากจำนวนมาก เพื่อที่พวกเขาจะได้มีโอกาสทำงานด้านนี้ในสหรัฐฯ

หนึ่งในนั้นคือสตรีอินเดียที่ชื่อ “นาฟนีต ดีลลอน” ในตอนแรกเธอเรียนปริญญาตรีด้านทันตกรรมจากประเทศบ้านเกิด และมาจบปริญญาเอกศัลยกรรมช่องปากที่มหาวิทยาลัย University of Southern California เมื่อ 8 ปีก่อน

ในตอนที่เธอสมัครเรียน มีนักเรียนทันตแพทย์ทั่วสหรัฐฯ 4,200 คน จากที่สมัคร 7,200 คน ปัจจุบันมีผู้ได้รับคัดเลือกเรียนด้านนี้ 6,100 คน จากผู้สมัคร 12,000 เท่ากับว่าการแข่งขันสูงขึ้น!

สมาคมการศึกษาด้านทันตแพทยศาสตร์ American Dental Education Association เปิดเผยว่า ในบรรดานักเรียนศัลยกรรมช่องปากทั้งหมดในสหรัฐฯ มีชาวต่างชาติเพียงร้อยละ 4

ทันตแพทย์หญิงนาฟนีต ดีลลอน เดินทางมาอเมริกาเหนือจากแคว้นปัญจาบของอินเดีย ตอนแรกเธอเดินทางมาแคนาดาก่อนที่จะเข้ามาเรียนในสหรัฐฯและเมื่อมาเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ University of Southern California แล้ว เธอยังต้องรับหน้าที่ภรรยาและแม่ ที่ไม่ธรรมดาเพราะสามีและลูกสาววัย 2 ขวบครึ่งของเธอยังอยู่ที่แคนาดา

นาฟนีต ดีลลอน เล่าว่า เธอต้องเดินทางไปเยี่ยมพวกเขาอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อสามีของเธอได้สัญชาติแคนาดา เขามีสิทธิ์เดินทางมาเยี่ยมนาฟนีตได้นานขึ้น คือเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนต่อปี การจัดสรรเวลาอยู่ด้วยกันจึงดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง

ตอนที่อยู่ด้วยกัน สามีของเธอ รูพินเดอร์ เป็นผู้ดูแลลูกสาว และนาฟนีต ลงเรียนตอนค่ำ บางคืนเธอต้องเรียนถึงเที่ยงคืนก็มี

อนาคตของครอบครัวดีลลอนสดใสขึ้น เมื่อเธอเรียนจบและได้วีซ่าทำงานในอเมริกาประเภท H1B จนต่อมาเธอได้เป็นผู้มีสิทธิ์พำนักถาวรในสหรัฐฯ หรือ Green card holder

ปัจจุบันเธอประกอบอาชีพทันตแพทย์ในรัฐเวอร์จิเนีย ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน เธอบอกว่าประสบการณ์การเรียนทันตแพทยศาสตร์ในสหรัฐฯ ทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และการตัดสินใจในสายวิชาชีพ

ชาวอินเดียอีกผู้หนึ่งที่เดินเส้นทางเดียวกัน พูชพันเดอร์ คัวร์ ซึ่งเป็นสตรีเช่นกัน เธอบอกว่า การเรียนทันตแพทยศาสตร์ที่อินเดียเน้นเรื่องทฤษฎี แต่เธอได้มาเรียนรู้ด้านการปฏิบัติและขั้นตอนต่างๆ ด้านศัลยกรรมช่องปากที่สหรัฐฯ

ทันตแพทย์หญิงนาฟนีต ดีลลอน ฝากบอกให้ผู้สนใจเรียนต่อด้านนี้ที่สหรัฐฯ ทราบว่าขอให้ใจเย็น แม้ว่าอาจเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกาไม่ได้ในครั้งแรกก็ไม่ควรท้อ เพราะยังมีโอกาสอีกในอนาคต

เธอแนะว่า คนเหล่านี้อาจเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ หรือขณะเดียวกันอาจเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องไปพร้อมๆ กันเพื่อสร้างประสบการณ์

อีกข้อแนะนำหนึ่งคือทำงานเป็นอาสาสมัครที่คลินิกทำฟันก่อน หากว่าใครยังไม่มีใบอนุญาตทำงานก็อาจจะรับหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์อย่างเดียวได้