ไม่เห็นคูล..คนยุคมิลเลนเนียม มอง "การเมา" เป็นเรื่องของคนแก่

ยุคนี้นับเป็นยุคของคนรุ่นมิลเลนเนียลอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องดูเทรนด์ของกลุ่มมิลเลนเนียลไว้ก่อน และเทรนด์ล่าสุดของกลุ่มนี้ก็คือการ “เลิกเมา” เพราะนอกจากการกินเหล้าจนเมาจะไม่ “คูล” อีกต่อไปแล้ว ยังถือว่าเป็นสิ่งที่คนรุ่นพ่อแม่เท่านั้นที่ทำด้วย

งานวิจัยจาก Eventbrite ที่สำรวจกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลจำนวน 1,023 คน เผยว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลายเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล ที่ใช้ชีวิตออร์แกนิก เรียบง่าย โดยคนกลุ่มนี้เห็นว่าเป็นสิ่งที่ “คนรุ่นเก่า” ทำ รวมทั้งมองว่าคนที่ดื่มเหล้าจนเมานั้น “น่าสมเพช” หรือ “น่าอาย” และ 4 ใน 10 ของกลุ่มมิลเลนเนียลมีมุมมองแง่ลบต่อผู้ที่เมาเหล้า มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่คิดว่าเมาเหล้าแล้วเท่

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังเผยว่ากลุ่มมิลเลนเนียลไม่นิยมใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการรับมือกับปัญหา แต่รู้สึกสบายใจเมื่อได้พูดถึงปัญหานั้นๆ อย่างเปิดเผย

นิชชี ฮ็อดจ์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความรักและความสัมพันธ์ เจ้าของรายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่า “ในขณะที่กลุ่มคนเจนเอ็กซ์ยังคงใช้เหล้าและยาเสพติดเพื่อหลีกหนีปัญหา คนรุ่นใหม่กลับไม่ชอบปกปิดปัญหานั้นโดยการใช้สารเสพติด แต่จะเผชิญหน้ากับปัญหามากกว่า”

และเนื่องจากไม่มีเงินที่จะไปลงขวดเหล้า 1 ใน 4 ของกลุ่มมิลเลนเนียลจึงใช้เงินไปกับสิ่งอื่นมากกว่า โดย 1 ใน 5 ยอมรับว่าเน้นเมาในเทศกาลช่วงวันหยุด และมีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่ยอมรับว่าเมาจนหมดสติในงานปาร์ตี้

ยิ่งกว่านั้น เทรนด์การเมาปลิ้นของคนกลุ่มมิลเลนเนียลยังมีแววว่าจะน้อยลงด้วย โดย 42% ของมิลเลนเนียลกล่าวว่าพวกเขาดื่มน้อยลงกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และไม่ใช่เพราะมัวแต่ยุ่งกับโลกโซเชียล เพราะชาวมิลเลนเนียล 40% กล่าวว่าพวกเขาก็หนีจากโซเชียลเน็ตเวิร์ค โดยการปิดโทรศัพท์ขณะที่สนุกสนานอยู่ในเทศกาล

รสนิยมของชาวมิลเลนเนียลไม่ได้กระทบต่อพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคำจำกัดความของ “เทศกาล” ด้วย เนื่องจากคนรุ่นนี้นิยมไปตามเทศกาลอาหารและสุขภาพ มากกว่าเทศกาลดนตรีที่ลากยาวตลอดสัปดาห์

นอกจากนี้ กลุ่มมิลเลนเนียลยังหลีกเลี่ยงการใช้แอปพลิเคชันหาคู่ โดย 57% ระบุว่าชอบมองหาคนที่จะมีความสัมพันธ์ในระยะยาวจากงานอีเวนต์ ส่วนผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ปี นั้นก็ไม่นิยมใช้แอปฯ หาคู่ แต่ใช้เทคโนโลยีอื่นอย่าง Snapchat และ Instagram เพื่อพบปะผู้คนใหม่ๆ ตามความเคยชินกับเทคโนโลยี