3 อันดับการออกเสียงภาษาอังกฤษที่คนญี่ปุ่นปวดหัวมากที่สุด
ปกติแล้วปัญหาอันดับหนึ่งของคนญี่ปุ่นในการเรียนภาษาอังกฤษคือการออกเสียงค่ะ เพราะภาษาญี่ปุ่นมีข้อจำกัดในการออกเสียงค่อนข้างมาก ทำให้ออกเสียงได้ไม่หลากหลายเท่าภาษาอังกฤษหรือแม้แต่ภาษาไทยของเราเอง การออกเสียงที่ไม่มีในภาษาแม่จึงเป็นเรื่องยากสำหรับคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่
ทาง Study Sapuri ENGLISH ผู้ให้บริการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของญี่ปุ่นจึงได้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษของพนักงานบริษัท จากผลสำรวจทำให้พบว่าเสียงที่ออกยากที่สุด 3 อันดับแรกคือ เสียง L กับ R, เสียง th และเสียง si กับ sh ซึ่งมีผลรวมเกือบ 70% เลยทีเดียว
การออกเสียง 3 อันดับแรกรวมกันเกือบ 70% ที่เหลืออีก 32.3% คืออื่น ๆ
จากการทำแบบสอบถามทำให้พบปัญหาการออกเสียงผิดซึ่งนำไปสู่การสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง เช่น
-ออกเสียงคำว่า Love (รัก) เป็น Rove (เตร็ดเตร่, เร่ร่อน) (ผู้ชาย/ช่วงอายุ 10 ปี)
-ตอนที่พูดเรื่องข้าว ตั้งใจจะพูดคำว่า Rice แต่อีกฝ่ายได้ยินเป็นคำว่า Lice แล้วก็คุยกันไปโดยเข้าใจว่าข้าวคือเหาทั้งอย่างงั้น (ผู้ชาย/ช่วงอายุ 20 ปี)
-สั่ง Pepsi ไปแต่เค้าไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่าการออกเสียง Pepsi เป็น Pepshi แบบญี่ปุ่นจะแย่มากจริง ๆ (ผู้ชาย/ช่วงอายุ 50 ปี)
-ตอนที่ลูกค้าบอกคิดเงิน ฟังคำว่า Bill ผิดเป็นคำว่า Beer แทน (ผู้หญิง/ช่วงอายุ 20 ปี)
-ตั้งใจจะพูดว่า Have a good day please. แต่คนต่างชาติที่รู้จักบอกว่าได้ยินเป็น good die. (ผู้ชาย/ช่วงอายุ 20 ปี)
-จริง ๆ ตั้งใจจะพูดว่า Can’t แต่เค้าฟังผิดเป็น Can สรุปมื้อเย็นวันนั้นเลยมีแต่อาหารที่กินไม่ได้มาเสิร์ฟ (ผู้หญิง/ช่วงอายุ 10 ปี)
-ออกเสียงคำว่า Please ไม่ค่อยได้ คนที่คุยด้วยได้ยินเป็นคำว่า Freeze ก็เลยยืนตัวแข็งทื่อเลย (ผู้หญิง/ช่วงอายุ 20 ปี)
– ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็ออกเสียงคำว่ากระรอกไม่ได้ซะที สุดท้ายเลยยอมแพ้แล้วเปลี่ยนไปพูดเรื่อง Fox แทน (ผู้หญิง/ช่วงอายุ 40 ปี)
รายละเอียดแบบสอบถาม
ช่วงเวลาที่สำรวจ: พ.ย.-ธ.ค. 2016
กลุ่มเป้าหมาย: สมาชิก STUDY SAPURI ENGLISH
จำนวนแบบสอบถาม: 1018
ก็เป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคนญี่ปุ่นที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษนะคะ ไม่เฉพาะแค่คนญี่ปุ่น แต่คนไทยเองก็คงจะมีปัญหาคล้าย ๆ แบบนี้เหมือนกัน ของแบบนี้ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการฝึกฝน สู้ ๆ ค่ะทุกคน