“เบนซ์ ณัฐธิดา” นักแสดงหน้าใหม่กับความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัว

วันนี้เราจะพาไปพบกับก็นักแสดงหน้าใหม่ “เบนซ์ ณัฐธิดา ตรีชัยยะ” ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นเรื่องการแสดงแล้ว ชีวิตในช่วงเป็นนักเรียนของสาวน้อยคนนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

สำหรับเบนซ์ ณัฐธิดา ตรีชัยยะ ก็เป็นอีกหนึ่งนักแสดงวัยรุ่นที่ทำการสอบเทียบตอนสมัยเรียนอยู่โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) ซึ่งความน่าสนใจของของน้องเบนซ์ ก็คือวิธีการสอบเทียบวัดระดับเพื่อเอาวุฒิไปยื่นในระดับมหาวิทยาลัยนั่นเองค่ะ โดยปัจจุบันเธอเรียนอยู่ที่ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ทำไมถึงเลือกการสอบเทียบเพื่อไปเข้ามหาวิทยาลัย เตรียมตัวยังไงบ้างคะ
หนูไม่ได้เรียนจนจบปวช. ค่ะ พอขึ้นปี2 (ม.5) หนูก็ไปสอบเทียบ เพราะว่าช่วงปวช. หนูยังไม่มีเวลาเรียนเลย ต้องหาสถาบันเพื่อสอบเทียบต่างประเทศ ให้จบ ม.6 แล้วก็เอาวุฒิไปสมัครมหาวิทยาลัยปีหนึ่งค่ะ และด้วยความที่เป็นของต่างประเทศเลยเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ต้องติวนานอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะตอนแรกหนูไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ เพราะตอนม.ต้น เรียนอยู่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งเขาก็ไม่ได้เน้นภาษามากเท่าไหร่ค่ะ

ตอนม.ต้น เรียนที่ไหนคะ แล้วเป็นคนจังหวัดอะไรเอ่ย
หนูเป็นคนสุพรรณ แต่เรียนที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยอุทัยธานี ค่ะ เป็นโรงเรียนประจำที่เป็นสหศึกษา แต่หอพักก็จะแยกกันเป็นชาย-หญิงค่ะ

ชีวิตการเป็นเด็กหอเป็นยังไงบ้างคะ
สนุกมากค่ะ ได้ฝึกการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เพราะตอนแรกมีคุณแม่ค่อยทำให้ตลอด พอไปอยู่หอก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องคอยบริหารจัดการเองหมดเลยค่ะ

พูดถึงการเรียนปัจจุบันบ้าง ทำไมถึงเลือกเรียนสาขาสื่อสารการตลาด
ตอนแรกหนูยังงงๆว่าจะไปทำเบื้องหลังได้ไหม ถ้าเราเริ่มอิ่มตัวกับงานด้านการแสดง แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่รู้ใจตัวเองเท่าไหร่ค่ะ เลยเลือกเรียน สาขาสื่อสารการตลาด เผื่อจะไปต่อยอดในเรื่องอื่นๆได้ เพราะหนูว่าถ้าจบมาก็จะได้ในเรื่องของความรู้ที่เราเรียนมาในเรื่องของสื่อเป็นมายังไงแล้วก็ได้ความรู้ในด้านบริหารด้วยค่ะ

ผลงานที่ผ่านมาเคยทำอะไรมาบ้างแล้ว
หนูเคยเล่นโฆษณามาก่อนค่ะ หลังจากนั้นเริ่มมีโมเดลลิ่งเรียกไปแคสซีรี่ย์ ได้เจอกับผู้จัดแล้วก็ได้ไปเล่นละครด้วยค่ะ มีละครของทางช่อง3 HD ช่อง 28 เรื่อง ‘นารีริษยา’ แล้วที่จบไปคือเรื่อง ‘เหยื่อพยาบาท’ ค่ะ

การที่เข้ามาอยู่วงการบันเทิงต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตยังไงบ้างคะ
ก่อนที่หนูเข้าวงการบันเทิงหนูก็เป็นเด็กทั่วๆไปค่ะ แต่พอเข้าวงการมาเริ่มทำงาน หนูก็ยังไม่ได้คิดว่าต้องจัดการอะไรหรือแบ่งเวลายังไง แต่หนูโชคดีที่มีคุณแม่คอยจัดระบบให้ทุกอย่างเลย พอโตมารู้สึกว่าแม่เหนื่อยกับการที่ต้องทำให้เราทุกอย่าง หนูเลยหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น อย่างเรื่องตื่นนอน เมื่อก่อนยังให้แม่ปลุกอยู่เลยค่ะ55 แต่พอเริ่มทำงานหนูก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น เริ่มบริหารเรื่องเรียนและการทำงานด้วยตัวเองค่ะ

แสดงว่าคุณแม่จะต้องให้แนวคิดมาเยอะเลย
ใช่ค่ะ อย่างเมื่อก่อนหนูไม่ค่อยระวังตัว ตอนเด็กๆจะเกาก็เกาค่ะ55 แต่คุณแม่ก็บอกว่า “เบนซ์ให้คิดอยู่เสมอนะมีคนมองเราอยู่” พอโตมาไม่ว่าจะเป็นการนั่งหรือเดินก็จะเริ่มระมัดระวังมากขึ้นค่ะ

เข้าวงการมากี่ปีแล้วคะ มีเพื่อนในวงการที่สนิทบ้างไหม
ประมาณ 3 ปีค่ะ เริ่มเข้ามาตั้งแต่อายุ 13 ค่ะ ส่วนเพื่อนในวงการถ้าสนิทแบบจริงจังไปเที่ยวด้วยกันไม่มีค่ะ ส่วนมากจะเจอกันที่กองแล้วเป็นเพื่อนกันมากกว่าค่ะ

และเมื่อพูดถึงเรื่องความรักน้องเบนซ์ ก็บอกว่าตัวเองยังไม่เคยมีแฟนเลย ถึงจะมีคนที่แอบชอบบ้างแต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที ก็เลยต้องมีการเปลี่ยนคำถามสักนิดนึง

คิดยังไงกับความรักของวัยรุ่นในปัจจุบันนี้
หนูว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆค่ะ สมัยก่อนผู้หญิงกับผู้ชายเข้าใกล้กันนี่ผิดผีมากๆ แต่เดี๋ยวนี้เรารับวัฒนธรรมของตะวันตกมาเยอะขึ้น รวมทั้งสื่อของวงการบันเทิงมันก็เปิดเพิ่มมากขึ้น ทำให้เด็กเริ่มเรียนรู้อะไรที่มันเกินอายุ แต่ถามว่าผิดไหม มันก็ไม่ผิดหรอกค่ะ หนูว่ามันอยู่การแสดงออกว่าเหมาะสมไหมมากกว่าค่ะ

เห็นแบบนี้แล้วน้องเบนซ์ ถือเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งเป็นคนมองการณ์ไกล และก็ทำให้รู้ว่าการเป็นเด็กหอก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว เพราะเราจะได้เรียนรู้ในการทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองอย่างที่น้องเบนซ์ได้บอกไว้ ที่สำคัญเราต้องหัดวางแผนชีวิตตัวเองให้เป็นตั้งแต่อายุยังน้อยๆ