Culinary Arts and Design หลักสูตรเชฟสุดปังจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ทุกวันนี้มีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ?แน่นอนว่าอาหารของร้านนั้นต้องอร่อยถูกปาก แต่ถ้าจะให้เจ๋งมากกว่าก็คือ หน้าตาอาหารจะต้องสวยงาม หรือมีการออกแบบประสบการณ์การรับประทานให้แปลกแตกต่างจากท้องตลาด ถ้าทำได้ทั้งสองด้านแล้ว บอกได้เลยว่า “ปัง” สุดๆ เนื่องจากผู้บริโภคสมัยนี้นิยมไปรับประทานอาหารหน้าตาสวยๆ ในร้านเก๋ๆ เพื่อแชะและแชร์อวดโลกโซเชียลนั่นเอง
ใครที่อยากเก่งทั้งสองด้าน ทั้งปรุงรสชาติและปรับแต่งหน้าตาอาหารให้สวยงาม สร้างสรรค์ และน่ากินแล้ว ต้องสมัครเรียนสาขาศิลปะการประกอบและออกแบบอาหาร หรือ Culinary Arts and Design คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะนี่คือหลักสูตรปั้น “เชฟ” ที่ไม่เพียงแค่เชี่ยวชาญการปรุง “รสชาติ” ได้ทุกเมนูคาวหวาน แต่ยังสร้างสรรค์ “หน้าตา” ของอาหารให้สวยงาม และออกแบบ “ประสบการณ์” ใหม่ๆ ในการรับประทานเพื่อเพิ่มมูลค่าอาหาร แถมยังเป็นหลักสูตรอินเตอร์ฯ ด้วย นับเป็นสถาบันแรกของไทยที่รวมศิลปะการประกอบอาหารและศาสตร์การออกแบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่ซ้ำใคร
สาขาวิชาเชฟรูปแบบใหม่ที่สอนครบทุกมิตินี้ จะปรุงให้ผู้เรียนมีคุณสมบัติของเชฟมืออาชีพที่ใครๆ ก็อยากได้ไปร่วมงาน ทำให้หางานดีๆ รายได้งามๆ ได้ง่าย นั่นเพราะหน้าตาอาหารที่สวยงามจะช่วย “อัพ” ทั้งราคาอาหารและค่าตัวของเชฟให้สูงขึ้น เชฟดังๆ ระดับโลก เช่น กอร์ดอน เรมเซย์ เจมี โอลิเวอร์ โจเอล โรบูชง ฯลฯ ต่างก็มีคุณลักษณะครบถ้วนดังกล่าวนี้ ทำให้ราคาอาหารของพวกเขาสูงกว่าท้องตลาดมาก แต่กลับเชิญชวนให้ลูกค้าจากทั่วโลกตบเท้ากันไป “ชิม” และ “ชม” อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
นอกจากนี้คณะมนุษยศาสตร์ฯ ยังเปิดสอนวิชาการประกอบอาหารเป็นหนึ่งในวิชาเลือกสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาการจัดการโรงแรมมานาน จึงสั่งสมประสบการณ์ในการสอนไว้เต็มกระเป๋า มีอาจารย์ผู้สอนที่เป็นตัวจริงจากวงการอาหารจำนวนมาก และอุปกรณ์การเรียนก็ทันสมัย ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวให้เด็กใช้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง ไม่ต้องแย่งกันใช้ หรือห้องเรียนที่มาพร้อมโปรเจ็กเตอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถถ่ายทอดสดการสอนทำอาหารของอาจารย์ขึ้นจอ และซูมจนเห็นขั้นตอนการทำอาหารอย่างละเอียด เมื่อนำมาผสมเข้ากับแนวคิด “คิดแบบสร้างสรรค์” และ “คิดแบบเจ้าของ” ตามสไตล์ ม.กรุงเทพ ด้วยแล้ว จึงได้เป็นสำรับหลักสูตรที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก เรียนจบแล้วจะไปทำงานเป็นเชฟประจำร้านอาหารและโรงแรมดังๆ ทั้งในและต่างประเทศ หรือเปิดกิจการเป็นของตัวเองก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
และเพราะมุ่งหวังให้เด็กโกอินเตอร์ฯ หลักสูตรนี้จึงเป็นหลักสูตรนานาชาติ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ด้านภาษาแน่นปึ๊ก พร้อมไปทำงานในครัวโลก ที่สำคัญคือเชฟจากโรงแรม 5 ดาวในต่างประเทศทั้งอเมริกาและยุโรป มักเดินทางมายังมหาวิทยาลัยเพื่อเฟ้นหาเด็กไปร่วมงานด้วยอยู่บ่อยๆ ทั้งยังมีพันธมิตรในและต่างประเทศที่พร้อมให้นักศึกษาไปฝึกงานและหารายได้เสริมไปด้วย การศึกษาดูงานกับร้านอาหารระดับ Michelin Star และร่วมเวิร์กช็อปกับเซเลบริตี้เชฟชื่อดังหลายคนก็เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร แต่ที่ “ปัง” สุดๆ เห็นจะเป็นการมอบชุดมีดและ Chef Tools ส่วนตัว มูลค่าชุดละกว่า 20,000 บาทให้นักศึกษาทุกคน!
ดังนั้นใครอยากเป็น “เชฟมืออาชีพ” ที่ไปไกลกว่าคนอื่น จนอาจก้าวไกลไปถึงระดับโลก สาขาศิลปะการประกอบและออกแบบอาหาร หรือ Culinary Arts and Design มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะช่วยกรุยทางให้ได้อย่างแน่นอน