ย้อน 5 วีรกรรมแสบ 5 ดารา จดจำได้จนถึงทุกวันนี้

เชื่อกันว่าทุกคนในวัยเด็ก วัยรุ่น นั้นต่างต้องมีวีรกรรมอะไรที่ทำให้เรารู้สึกผิด และจดจำ ฝังใจกันทุกคน เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในวัยรุ่นนั้น ยังมีความคึกคะนอง ตามเพื่อน และเหตุผลบางเรื่องอาจจะยังเข้าใจได้ยาก ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่คนเราสามารถผิดพลาดกันได้ทุกคน ดังนั้นเชื่อได้เลยเราทุกคนจะมีวีรกรรมติดตัวมา ไม่ว่าจะหนัก หรือ เบา ทุกคนคงจำได้กันเป็นอย่างดี

Sanook! Campus จะพาไปทุกคนย้อนเวลากลับไปฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวีรกรรมของเหล่าดาราที่มีชื่อเสียงว่า เขาและเธอเคยทำอะไรมาบ้าง วีรกรรมและการลงโทษแบบใดที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่เคยลืม

ชิน ชินวุฒิ อินทรคูสิน 

นักร้อง นักเต้นหนุ่มลูกครึ่งเสียงดีที่ใครๆ ก็ต้องเคยได้ยินเพลงของเขาอย่างแน่นอน รวมถึงท่าเต้นที่ใครๆ ต่างก็ต้องนึกออก ซึ่งปัจจุบันได้รับใช้ชาติโดยเป็นทหารอยู่ที่กองทัพบกอีกด้วย

วีรกรรมสุดแสบที่จดจำ

"สมัยเด็กๆในวัยเรียน สมัยมัธยม จะมีครูสอนคณิตศาสตร์ซึ่งเขาจะมีท่าทางที่ทำให้การสอนนั้นไม่น่าเบื่อ แต่โรงเรียนชายล้วนด้วยความเป็นผู้ชายวัยรุ่นก็มีอาการหมันไส้ในท่าทางของอาจารย์ ก็เลยจะแกล้งเขาตลอดเวลา เช่น เอาเทปมาปิดที่เสียบปลั๊กบ้าง บางทีก็ขโมยเก้าอี้อาจารย์ เอาชอล์กไปแอบบ้าง แต่อาจารย์คนนี้ก็เป็นคนที่ใส่ใจการสอนอย่างมากเขาเตรียมตัวทุกอย่างเช่น เอาชอล์กไปเอง เดินไปหยิบเก้าอี้เอง สิ่งที่ทำให้ตัวชินก็ยังรู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ เพราะที่แกล้งอาจารย์หนักที่สุด คือ เอาแป้งไปใส่ไว้ในแอร์ แล้วปิดแอร์ ทำบรรยากาศในห้องเรียนให้ร้อนที่สุด พออาจารย์เข้ามาก็เปิดแอร์ทำให้แป้งฟุ้งกระจาย ซึ่งโดนอาจารย์เต็มๆ ในสภาพที่แป้งฝุ่นที่เลอะเต็มตัว เหตุการณ์นี้ทำให้อาจารย์คนนี้ถึงขั้นลาออกในวันนั้น ทำให้โดนทำโทษกันทั้งห้องซึ่งตัวผมคิดว่ามันเบาไปด้วยซ้ำ เพราะในความคิดผมน่าจะโดนพักการเรียนไปเลย ตัวชินเอง ก็ยังรู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งตัวชินเอง อยากที่จะขอโทษอาจารย์คนนี้ตลอดเวลา เวลาไปออกรายการอะไรที่พูดถึงเรื่องนี้ก็อยากจะเล่าและกล่าวขอโทษเพื่อหวังว่าสักวันเขาจะได้รับฟังมัน"

ซึ่ง ชิน ชินวุฒิ ก็มีแง่คิดมาฝากน้องๆวัยเรียน ที่มีความคึกคะนอง "ความเป็นวัยรุ่น ว่าอยากให้เราคิดก่อนทำ อะไรก็แล้วแต่ให้คิดก่อน เพราะเมื่อเราโตขึ้นมันอาจจะสายที่เราจะแก้ไขมันก็ได้"

โดนทำโทษ

"กลัวไม้เรียวมากที่สุด เพราะเป็นสิ่งของที่ยิ่งหลบยิ่งเจ็บ แล้วต้องเกร็งส่วนที่จะโดนเพื่อสู้กับความรุนแรงที่ไม้เรียวส่งมาให้เรา แต่การทำโทษที่น่ากลัวกว่าไม้เรียวคือ การให้นั่งอยู่คนเดียวไม่ให้คุยกับใคร หรือ ให้ยืนคาบไม้บรรทัดขาเดียวหน้าห้องซึ่งมันปวดขาและทรมาน ขอให้ตีแบบทีเดียวจบจะดีกว่า"

ก้อย อรัชพร โภคินภากร

สาวผู้แจ้งเกิดในบทชมพู่ จากละครเรื่อง O-Negative ที่เรียกได้ว่าใครๆ ก็รู้จักเธอในบทนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วีรกรรมสุดแสบที่จดจำ

"เกิดขึ้นในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยขอเลือกเป็นวีรกรรมที่จดจำมากที่สุดดีกว่า มีกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเรียกว่า แจว คือการเต้นสันทนาการปกติ แต่ที่จดจำและฝังใจเลยคือการโดนเพื่อนๆ เอาน้ำมาราดหัว เอาหญ้ามาโปรยใส่ รวมทั้งแป้ง ซึ่งไม่เคยโดนทำแบบนี้ที่ไหนมาก่อน จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่จดจำมากในชีวิต"

โดนทำโทษ

"ที่จดจำเลยคือตอนเด็กๆ เป็นการที่โดน พ่อ แม่ ตีครั้งแรกในชีวิต ด้วย "ไม้แขวนเสื้อ" เพราะว่าครั้งแรกที่โดนตีเลยจำได้ และพ่อแม่โกรธทั้งคู่ ด้วยความเป็นเด็กและไม่มีที่พึ่ง ก็เลยร้องไห้เข้าสู้ซะเลย"

เฟย ภัทร เอกแสงกุล

หนุ่มเฟยที่ รับบท พี่องอาจจากซีรี่ย์ O-Negative หนุ่มที่คนทั้งโซเชียลหมั่นไส้ที่สุด เพราะเจ้าตัวตีบทได้แตกจริงๆ ในซีรี่ย์เรื่องนี้ซึ่งปัจจุบันหนุ่มเฟยยังมีผลงานทั้งละครและซีรีส์ในวงการบันเทิงอีกหลายเรื่อง

วีรกรรมสุดแสบที่จดจำ

"แต่ก่อนเฟยเป็นคนที่อารมณ์ร้อนมาก ซึ่งเป็นคนที่รับความผิดพลาดของตัวเองไม่ค่อยได้ เรื่องเกิดตอนเล่นละครเวทีปีหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกับผู้กำกับ ทะเลาะกันจนถึงขั้นที่ว่ามันไม่ไหวแล้วจะออกจากการแสดงละครเวทีเดี๋ยวนั้น เพราะเวลาแสดงละครมันมีความกดดันและชอบกดดันตัวเอง รวมถึงรับความผิดพลาดนั้นไม่ได้ จนโดนผู้กำกับตำหนิตลอด จนหมดความอดทน เลยระบายด้วยการต่อยกล่องข้าวพลาสติกจนแตก"

โดนทำโทษ

"ส่วนมากไม่ค่อยรุนแรง อย่างมากก็เป็นตีขา แบบยืนบนเก้าอี้แล้วก็ตี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการหักคะแนนซะมากกว่า"

โอม ธนาภัค จงใจพระ 

นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องของขวัญ ภาพยนตร์เทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงตอน "ดอกไม้ในกองขยะ" โดยก่อนหน้านี้หนุ่มโอมก็เคยฝากผลงานด้านการแสดงไว้ในวงการมาแล้วหลายเรื่อง

วีรกรรมสุดแสบที่จดจำ

"แอบขึ้นลิฟต์และจุดประทัดในลิฟต์สมัยเรียนอยู่ระดับมัธยม ลิฟต์นี้เป็นลิฟต์สำหรับอาจารย์ที่ไม่ให้นักเรียนขึ้น ด้วยความเป็นนักเรียนวัยรุ่นก็ชอบความท้าทายแอบขึ้นลิฟต์อาจารย์หน่อยดีกว่า เพราะขี้เกียจเดินแถมอาคารเรียนนั้นสูงหลายชั้นมากๆ และด้วยความคึกคะนอง แถมเพื่อนยังมีอุปกรณ์พร้อม ก็เลยจุดประทัดเล่นในลิฟต์ซะเลย สุดท้ายก็โดนเข้าห้องกิจการนักเรียนเป็นที่เรียบร้อย"

โดนทำโทษ

"โดนทำโทษโดยการตัดคะแนน โดยเริ่มจากการตัด 30 คะแนนก่อน กฎของโรงเรียนคือ ถ้าคะแนนโดนตัดถึง 60 ก็จะโดนทัณฑ์บนแล้วค่อยโทรหาผู้ปกครองและนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกรงกลัวมากที่สุด"

 

ธรรมะ ฐิรพจน์ ต่วนสวัสดิ์ 

น้องคนเล็กสุดแสนจะน่ารักผู้ที่รับบทวิ่งตั้งแต่ อีสาน มาจนถึง กรุงเทพ เพื่อส่งจดหมายถึงพ่อหลวง ในภาพยนตร์เรื่อง ของขวัญ ตอน (The Letter)

วีรกรรมสุดแสบที่จดจำ

"ผมเป็นคนซนมาก ชอบเล่นฟุตบอล มีครั้งหนึ่งเล่นฟุตบอลในบ้านเตะลูกบอลกระเด้งไปโดนแก้วในบ้านแตก"

โดนทำโทษ

"เกือบโดนพ่อตี ถึงขั้นที่พ่อบอกว่าต้องตีให้จำให้ร้องไห้ แต่โชคดีคุณแม่มาห้ามไว้ เพราะคุณแม่คิดว่ารุนแรงไป"

ทุกคนต่างมีวีรกรรมไม่หนักก็เบาต่างกันไป แต่ทั้งหมดแล้วล้วนเป็นความทรงจำในการทำให้เราเติบโตขึ้น มีแง่คิด คำสอน เพิ่มประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของเราเป็นการพัฒนาตัวเองซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เรารู้จักผิดชอบชั่วดี ทำแล้วไม่ดีโดนลงโทษก็จะไม่ทำอีก เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนราคาแพงอีกด้านหนึ่งในการใช้ชีวิตของวัยรุ่นก็ว่าได้