“คีธ แฮริ่ง” ศิลปินที่โรคร้ายไม่สามารถหยุดจินตนาการ และการช่วยเหลือผู้อื่น
ช่วงเดือนแห่งความรัก ในมุมศิลปะก็มีศิลปินเยอะแยะที่ทำเรื่องราวเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะด้านบวก ด้านลบ ทั้งแบบตรงประเด็นและอ้อมๆ หน่อย แต่จะมีศิลปินคนนึงที่คนในวงการจะต้องนึกถึงเขาแน่ๆ เมื่อพูดถึงความรักแบบนี้
“Keith Haring”
หรือ คีธ แฮริ่ง บางคนอาจจะรู้จัก บางคนก็ไม่รู้ แต่ถ้าเห็นผลงานต้องร้อง “อ่อออ” แน่นอน เจ้าของผลงานรูปตัวการ์ตูนที่วาดด้วยลายเส้นง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช้สีสดใสไม่ว่าจะ เหลือง แดง น้ำเงิน เขียว ส้ม ตัดด้วยลายเส้นหนาๆ สีดำ หรือจะเป็นผลงานดำขาวไปเลยก็โดดเด่นเหมือนกัน
แฮริ่ง เป็นศิลปินชาวอเมริกัน เกิดในปีค.ศ. 1958 ที่ฝึกฝนฝีมือกับพ่อของตัวเอง และได้ต้นแบบในการวาดรูปมาจากการ์ตูนดิสนีย์ จึงไม่แปลกใจเลยที่ผลงานของแฮริ่งจะออกเป็นลายเส้นการ์ตูนที่เข้าใจง่าย มีสีสันไม่ซับซ้อน และสะดุดตา ถูกจำกัดความอยู่ในศิลปะแบบ Pop Art (ป๊อปอาร์ต)
ผลงานที่โดดเด่นและไม่มีใครเหมือนแบบนี้ทำให้แฮริ่งมีชื่อเสียงอย่างไมต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การวาดที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ บวกกับความมุ่งมั่นและหาตัวเองเจอตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่หยุดสร้างผลงาน ทำให้พัฒนาและสร้างผลงานได้เร็ว
การได้มีงานนิทรรศการศิลปะของตัวเองตั้งแต่อายุ 20 ปีนี่ไม่ใช่ใครๆ ก็จะทำได้นะ แต่เขาทำให้เห็นมาแล้ว จากการดรอปเรียนเพราะรู้ว่ากำลังเรียนสิ่งที่ไม่ชอบนั้น บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไม่ควร แฮริ่งดรอปจากสถาบันศิลปะแห่งหนึ่งที่เกี่ยวกับเชิงพาณิชย์ เพื่อมาฝึกฝนศิลปะด้วยตนเองจนเกิดงานแสดงศิลปะของตัวเองที่ Pittsburgh Arts and Crafts Center รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
จุดเปลี่ยนของแฮริ่งอยู่ที่การได้เข้าไปเรียนที่ School of Visual Arts (SVA) นิวยอร์ก ซึ่งทำให้เขาได้รู้จักกับทางเลือกใหม่ที่ว่า ศิลปะมันไม่ได้มีแค่ในแกลเลอรี่กับพิพิธภัณฑ์นะเห้ย! การไปขีดๆ เขียนๆ พ่นๆ ตามถนน ผนัง รถไฟใต้ดิน มันก็เป็นศิลปะอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน และความมุ่งมั่นในการทำงานทำให้เขาเลือกสร้างงานในพื้นที่สาธารณะนั้นต่อไป จนมีผลงานกว่าร้อยชิ้นปรากฏอยู่ภายใน 6 ปี
Untitled (1985) และ Untitled (1988)
ด้วยความที่ผลงานหลายชิ้นของแฮริ่งสื่อให้เห็นถึงความรักแบบตรงๆ นั่นคือการวาดรูปหัวใจ รูปคน อะไรต่างๆ ที่เข้าใจง่าย แต่ถ้าจะมองแง่ความหมายหรือสิ่งที่เขาจะบอกออกมาจริงๆ งานหลายๆ ชิ้นถือว่าดาร์ก และตรงไปตรงมามากทีเดียว ไม่ได้มีแค่เรื่องความรักเท่านั้น รวมถึงเซ็กซ์ ชีวิต สังคม สงคราม แม้กระทั่งความตาย ที่ถึงแม้จะมีงานที่เนื้อหารุนแรง แต่ด้วยสไตล์ของแฮริ่งแล้ว ทำอะไรก็เลยดูซอฟและเข้าถึงได้ง่ายไปหมด
ผลงานเด่นๆ ที่ดิ้นได้ของคีธ แฮริ่ง
ที่ว่าผลงานดิ้นได้ นั่นคือการต่อยอดผลงานตัวเองที่ไม่ได้แค่ทำบนกระดาษ หรือฝาผนัง แต่ได้ประยุกต์ผลงานตัวเองในแบบต่างๆ ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าดังๆ มากมาย หรือแม้แต่คนดังในวงการด้วยเช่นกัน
“Crack is Wack” ในปีค.ศ. 1986 งานบนฝาผนังที่ย่านฮาร์เลม นิวยอร์ก ที่พูดถึงเรื่องราวการต่อด้านยาเสพติด ใช้เพียงแค่ผนังสีส้ม และลายเส้นสีดำเพื่อทำให้เห็นข้อเสียของยาเสพติด ในสไตล์ของแฮริ่ง
ออกแบบลายนาฬิกาให้ Swatch ในปีค.ศ. 1986
โปสเตอร์โฆษณาที่ทำให้ Absolute Vodka ในปีค.ศ. 1986
ผลงานได้ขึ้นไปโลดแล่นบนบิลบอร์ด Times Square นิวยอร์ก
เปิดร้าน Pop Shop เป็นของตัวเอง ขายของไม่ว่าจะเสื้อ ตุ๊กตา โปสเตอร์ ของจุกจิกต่างๆ ที่ทำจากผลงานของเขา โดยขายในราคาถูก ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะของเขาได้
หรือแม้แต่ออกแบบชุดให้กับมาดอนน่า เพื่อนรักในวงการบันเทิง ก็ทำมาแล้ว (และมาดอนน่าก็ใช้ผลงานศิลปะของเขาเป็นพื้นหลังให้โชว์ของตัวเองในปีค.ศ. 2008 ด้วยนะ)
ด้วยความที่รู้จักกับศิลปินดังๆ คนมีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Andy Warhol (แอนดี้ วอร์ฮอล) , Jean Michel Basquiat (ฌอง มิเชล บาสเคียล) , Madonna (มาดอนน่า) และอีกมากมาย ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมาได้อีกทาง เรียกง่ายๆ ว่าฉุดกันดัง เพราะแต่ละคนก็มีแนวทางชัดเจนของตัวเอง พากันสร้างผลงานดีๆ ต่อไปไม่รู้จบ
16 กุมภาพันธ์ 1990
เป็นวันเสียชีวิตของคีธ แฮรี่ง ที่จากไปด้วยโรคเอดส์ ด้วยวัยเพียง 32 ปี แต่สิ่งที่เขาเหลือเอาไว้ สามารถต่อชีวิตและจินตนาการหลายร้อยหลายพันชีวิต
เมื่อเขารู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเอดส์ สิ่งที่ทำหลังจากนั้นไม่ใช่การรอความตายเหมือนใครหลายๆ คน ไม่อาย ไม่ท้อ ไม่ถอย ยังคงสร้างงานศิลปะในแบบของตัวเองต่อไป และได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
“The Keith Haring Foundation” หรือ มูลนิธิคีธ แฮริ่ง กำเนิดขึ้นในค.ศ. 1989 หนึ่งปีหลังจากที่รู้ว่าตัวเองป่วย ซึ่งเป็นมูลนิธิที่อุทิศเพื่อเด็ก และผู้ป่วยโรคเอดส์ และก็ยังคงทำงานกันจนถึงทุกวันนี้ เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ต่อไป
ถึงแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปกว่า 30 ปีแล้ว แต่ผลงานของแฮริ่งยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ในทุกวันนี้ทั่วโลก (ด้วยการเดินเข้าไปในห้าง เจอแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งที่ยังคงนำผลงานของแฮริ่งมาเป็นหนึ่งในคอเลคชั่นเสื้อผ้าวันวาเลนไทน์อยู่เลย! สุดยอด) ไม่ว่าจะเป็นถามผนังต่างๆ ที่เขาได้ไปวาดไว้ ในแกลลอรี่ หรือพิพิธภัณฑ์ที่ยังคงหยิบผลงานของแฮริ่งมาแสดงอยู่เรื่อยๆ และน่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป เพราะผลงานแบบนี้มีคนเดียวในโลก
สำหรับใครที่ยังว่างๆ ลองเข้าไปเสิชหาคำว่า Keith Haring ในกูเกิ้ล หรือไม่ก็ Pinterest อาจจะทำให้รู้จักในอีกแง่มุมของศิลปะ และได้อะไรเล็กๆ น้อยๆ จากผลงานของแฮริ่งกลับมาก็ได้นะ