เจาะลึกอาชีพผู้บรรยายกีฬากับ “แจ็คกี้ อดิสรณ์ พึ่งยา”
สำหรับการถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแมทช์ใหญ่หรือเล็ก สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นก็คือผู้บรรยาย ซึ่ง “อดิสรณ์ พึ่งยา” หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “แจ็คกี้” คอลัมนิสต์และผู้ประกาศข่าวกีฬาฟุตบอลชื่อดัง ก็ถือเป็นคนที่คอยสร้างสรรค์น้ำเสียงขึ้นมา เพื่อเติมเต็มอรรถรสในการรับชมให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี ทั้งเขายังโลดแล่นอยู่ในวงการกีฬามามากกว่า 26 ปี
และวันนี้เขาจะมาพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต ทั้งประสบการณ์การทำงานและการเดินทางไปเก็บเกี่ยวข้อมูลในเรื่องของกีฬาฟุตบอลถึง 2 ฤดูกาล ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง รวมถึงวิธีการหาข้อมูลเพื่อมาประกอบการบรรยายในแต่ละครั้ง บวกกับเทคนิคต่างๆ ที่เขาจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อยู่เสมอ เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เราไปฟังแง่คิดของเขากันเลยดีกว่าว่าเขาจะมีมุมมองอย่างไรบ้าง
ชื่อเล่นจริงๆ คือ “หนุ่ม” แล้ว “แจ็คกี้” มาจากไหน
แจ็คกี้ : (หัวเราะ) จริงๆ แล้ว “แจ็คกี้” เป็นนามแฝงนามปากกาของผมเอง ใช้ในการเขียนคอลัมน์หนังสือพิมพ์ Star Soccer ซึ่งชื่อนี้มาจาก “แจ็คกี้ ชาร์ลตัน” เป็นอดีตโค้ชทีมชาติไอร์แลนด์ และอดีตนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ โดยส่วนตัวผมชื่นชอบเขาเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเขาสามารถนำทีมไอร์แลนด์ไปฟุตบอลยูโร ไปฟุตบอลโลกได้ และสมัยตอนผมเรียนอยู่ที่จุฬาฯ มีการแบ่งทีมเตะฟุตบอลกัน ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลทีมฟุตบอล 1 ทีมเลยใช้ชื่อว่า “ทีมแจ็คกี้” จากนั้นพอได้มาทำงานเป็นนักข่าวก็คิดว่าชื่อแจ็คกี้นี่แหละน่าจะเวิร์ค เพราะเพื่อนๆ ที่จุฬาฯ ก็เรียกผมว่าแจ็คกี้กันอยู่แล้วครับ (ยิ้ม)
จุดเริ่มต้นของการมาเป็นผู้บรรยายกีฬาฟุตบอลมาจากอะไร
แจ็คกี้ : จุดเริ่มต้นของการทำงานด้านสื่อมวลชนของผม มาจากการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ซึ่งอยู่ในส่วนนักข่าวกีฬาต่างประเทศของหนังสือพิมพ์สยามกีฬาและ Star Soccer โดยเริ่มจากการแปลข่าว แปลบทความภาษาอังกฤษก่อน ซึ่งตรงนี้จะเป็นงานประจำวันของผมอยู่แล้ว และผมก็ทำรายการวิทยุ Sport Radio FM99 ด้วย ทำอยู่ประมาณ 3-4 ปี ผมก็ถูกส่งไปทำงานที่อังกฤษ ในระยะเวลา 2 ปี หลังจากกลับมาผมถึงได้เข้าสู่วงการผู้บรรยาย พอดีช่วงนั้นมีเคเบิลทีวีคือ UBC เขากำลังต้องการผู้บรรยาย และมองเห็นว่าผมมีประสบการณ์ทำข่าวฟุตบอลอังกฤษ เขาเลยเชิญผมไปทดสอบและก็ตกลงกันว่าให้บรรยายที่ UBC ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทรูวิชั่น แล้วถึงมีโอกาสเข้าไปทำงานที่ช่อง 7 ครับ
ตอนไปทำงานที่อังกฤษได้ประสบการณ์อะไรมาบ้าง
แจ็คกี้ : ประสบการณ์ที่ผมได้มาจากการไปทำงานที่อังกฤษ กับสำนักงานหนังสือพิมพ์สยามกีฬา สาขาที่ลอนดอน ตอนนั้นผมไปจะเป็นช่วงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 1996-1998 ต้องบอกก่อนว่าการทำงานค่อนข้างแตกต่างจากประเทศไทย เพราะปกติผมจะแปลข่าว แปลบทความอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ออกภาคสนามเท่าไหร่ ซึ่งพอไปอยู่ที่อังกฤษ ในแต่ละวันผมต้องเช็คข่าวจากหนังสือพิมพ์ จากเหล่านักข่าวต่างประเทศเพื่อสอบถามประเด็น และทุกวันเสาร์ผมต้องเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลต่างๆ ตามแมทซ์ที่เลือกไว้ โดยหน้าที่ของผมก็คือเก็บรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลนักเตะ สภาพอากาศ กองเชียร์ แล้วก็โทรศัพท์มารายงานข่าวเพื่อออกอากาศในวิทยุ FM99 และอีกอย่างหนึ่งเลยที่ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมมาก็คือวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ ทำให้ผมได้ทั้งประสบการณ์การทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตด้วยครับ
ไอดอลในดวงใจคือใคร
แจ็คกี้ : ถ้าเป็นเรื่องของกีฬาจากการที่ผมอ่านเรื่องราวของเขานะครับ ผมจะชื่นชอบ “โยฮัน ครัฟฟ์” เพราะเขามีความหยั่งรู้ในเกมฟุตบอลล่วงหน้ากว่าคนอื่น เขาสามารถประดิษฐ์แท็คติกในการเล่นฟุตบอลร่วมกันกับโค้ชได้ โดยส่วนของฟุตบอลสมัยใหม่ที่เล่นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เขาก็มองการณ์ล่วงหน้ามา 20-30 ปีแล้ว สำหรับผมเขาเก่งมาก เขาเป็นอัจฉริยะเลย ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเขาไม่เคยได้แชมป์อะไร แต่ส่วนตัวผมว่ามันไม่จำเป็น เพราะเขาได้สร้างคุณค่าให้กับวงการฟุตบอลมากกว่าถ้วยรางวัล และแน่นอนว่าเขาก็เป็นไอดอลของผมมาตลอดครับ
มีวิธีการบรรยายเมื่อทีมที่เชียร์ (ลิเวอร์พูล) ลงแข่งขันอย่างไร
แจ็คกี้ : ในส่วนการบรรยายของผมจะเป็นผู้บรรยายรอง ด้านผู้บรรยายหลักก็จะคอยบรรยายเกมว่าใครรับใครส่งบอล แต่ผมจะบรรยายให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งปกติเวลาลิเวอร์พูลลงแข่ง มันก็ค่อนข้างง่ายสำหรับตัวผมเอง เพราะผมรู้ข้อมูลของทีมนี้อยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไรมากมาย (หัวเราะ) คือผมสามารถให้ข้อมูลได้ โดยที่ผู้ชมไม่รู้เลยว่าผมรู้สึกยังไง ถึงแม้ลิเวอร์พูลจะเป็นทีมที่ผมเชียร์ก็ตามครับ
ฝากอะไรถึงแฟนบอลและทีมลิเวอร์พูลหน่อย
แจ็คกี้ : สำหรับทีมลิเวอร์พูลก็เป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และยิ่งใหญ่ถึง 125 ปี มีเรื่องราวต่างๆ มากมายทั้งประสบความสำเร็จแล้วก็ล้มเหลว ซึ่งหลังจากที่ลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ในลีกสูงสุดของอังกฤษตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งนี่มันก็ 28 ปีแล้ว (หัวเราะ) ก็ค่อนข้างนาน ตรงนี้เลยกลายเป็นจริตของแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลกไปแล้วว่า อยากจะเห็นทีมที่เชียร์กลับมาเป็นแชมป์ หรือลุ้นแชมป์ในทุกๆ ปี ซึ่งปัจจุบันมันก็ไม่ได้ใกล้เคียงอะไร แต่ผมเชื่อว่าฟุตบอลมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง เพราะบางครั้งการรอคอยรสชาติของฟุตบอลก็หอมหวานยิ่งนัก ฉะนั้นแฟนบอลลิเวอร์พูลคงจะต้องรอกันต่อไปครับ
หาข้อมูลเพื่อมาประกอบการบรรยายอย่างไร
แจ็คกี้ : ข้อมูลมี 2 ส่วนนะครับ ส่วนแรกเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ผมมีสะสมมาอยู่แล้วจากการอ่านหนังสือ และก็จะเป็นข้อมูลเก่าๆ ที่จดจำได้จากตอนที่เป็นนักข่าว เช่น ข้อมูลนักเตะ ข้อมูลของทีมต่างๆ อีกส่วนก็คือข้อมูลข่าวสารที่อัพเดทเข้ามาใหม่ เป็นสิ่งที่ผมจะต้องติดตามในแต่ละวันจากหนังสือพิมพ์จากสื่อออนไลน์ ทั้งข่าวกีฬา ข่าวในวงการฟุตบอลหรือแม้แต่ข่าวอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งผมต้องคอยอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากข่าวมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ก็จะสามารถนำมาปรับใช้ในการบรรยายได้ครับ
เคยบรรยายผิดไหม แล้วมีวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ายังไง
แจ็คกี้ : เนื่องจากการบรรยายการแข่งขันฟุตบอลเป็นรายการสด เพราะฉะนั้นการรวบรวมความคิด ประเด็น รวมทั้งความแม่นยำในการให้ข้อมูลมันต้องเป๊ะเลย แต่ถามว่าเคยบรรยายผิดไหม ก็มีบ้าง ซึ่งพอมีการผิดพลาด เช่น พูดชื่อนักฟุตบอลผิด ผมก็จะขออภัยคุณผู้ชมเลยทันที หรืออาจดูระยะ ดูจังหวะความเหมาะสมก่อน แล้วค่อยย้อนกลับไปพูดในจุดที่เราให้ข้อมูลผิดพลาด และผมก็เชื่อว่าปกติคนดูฟุตบอลเขาจะเข้าใจอยู่แล้ว ในเวลาที่เราบรรยายผิดมันอาจจะเกิดจากการเสียสมาธิโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้อะไรเลยแล้วพูดออกไป
มีวิธีการรับมือยังไง กับแฟนบอลที่อินหนักมากจนตามเข้ามาคอมเม้นท์ในโซเชียล
แจ็คกี้ : แฟนบอลในยุคใหม่ก็มีหลายรูปแบบ ถ้าเป็นแฟนบอลที่มีทัศนคติดี มีเหตุผล เราก็สามารถคุยกับเขาได้ เพราะต่างคนต่างมุมมองมันสามารถแชร์กันได้ แต่ก็จะมีแฟนบอลบางคนที่ไม่มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน ซึ่งเราก็ไม่ต้องไปใส่ใจหรือบางทีคิดว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไปคุยกับเขา ผมบล็อกเลยก็มี ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ติดตามผมในทวิตเตอร์เขาจะกดติดตามผมมานานแล้ว แต่ก็จะมีแอคเคาท์แปลกๆ ที่เหมือนพึ่งจะสมัครเพื่อเข้ามาด่าเราเลยก็มี ตรงนั้นผมก็จะไม่สนใจ แต่ส่วนคนที่เขามีเหตุมีผลผมจะรับฟังเต็มที่ ถึงแม้เขาจะมองกันคนละมุมกับผมครับ
ฝากถึงคนที่อยากจะมาเป็นผู้บรรยายหน่อย
แจ็คกี้ : สำหรับคนที่ต้องการจะมาเป็นผู้บรรยาย นอกจากเรื่องของข้อมูล จังหวะการพากย์แล้ว ในยุคปัจจุบันผมคิดว่าจะต้องดูทิศทางของผู้ชมด้วย ว่าเขาอยากได้อรรถรสในการชมการบรรยายฟุตบอลแบบไหน เพราะว่าผู้ชมในอดีตกับปัจจุบันค่อนข้างแตกต่างกันมาก เนื่องจากการรับส่งสารจากผู้บรรยายไม่เหมือนกัน ฉะนั้นผู้บรรยายจะต้องฟังเสียงสะท้อนจากผู้ชมด้วยว่าเขาชอบการพากย์แบบไหน ซึ่งมันจะมีกรอบ มีขอบเขตอยู่แล้ว และก็เชื่อว่าผู้บรรยายสมัยใหม่จะต้องทันสมัยด้วยเช่นกันครับ
ฝากผลงาน
แจ็คกี้ : ปัจจุบันนี้นอกจากจะเป็นคอลัมนิสต์ของสยามกีฬาและ Star Soccer แล้ว ผมก็ยังเป็นผู้บรรยายที่ช่อง 7 ด้วยนะครับ รวมถึงการได้มาทำงานกับทาง beIN Sports ในทุกๆ วันเสาร์ เป็นผู้วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และก็มีรายการ World of Football ซึ่งออกอากาศสดทุกวันพุธ ทางช่อง beIN Sports 4 หรือ True Visions 679 ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไปครับ