เปิดใจ “น้องจ๊ะจ๋า” ความสำเร็จตั้งแต่จบปริญญา จนได้งานราชการ
แม้ร่างกายของเธอจะผ่านการผ่าตัดมาทั้งหมด 34 ครั้ง แต่สามารถพิสูจน์ด้วยการเอาชนะ และก้าวข้ามผ่านอุปสรรคทุกสิ่ง สามารถคว้าใบปริญญาตรีมาฝากแม่บุญธรรม ปัจจุบันเธอยังได้งานราชการในงานกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอีกด้วย ถือว่าประสบความสำเร็จเอามากๆ สำหรับน้องจ๊ะจ๋า
น.ส.จิณจุฑา จุ่นวาที หรือ “จ๊ะจ๋า” อายุ 23 ปี บัณฑิตสาวจากสาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่า ตนป่วยโรคกระดูกเปราะตั้งแต่เกิด เนื่องจากได้รับผลจากการที่คุณแม่แท้ๆ ทำแท้งด้วยการกินยาขับเลือด เพื่อยุติการตั้งครรภ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเมื่อตนลืมตาดูโลกได้เพียงแค่ 7 วัน พ่อกับแม่แท้ๆ ได้ทอดทิ้งไป มีเพียง คุณขนิษฐา เมือบศรี แม่บุญธรรม คอยดูแล ตั้งแต่จำความได้ ต้องเข้าโรงพยาบาลตลอดทุกสัปดาห์ ที่ผ่านมาได้รับการผ่าตัดทั้ง แขน ขา กระดูกสันหลัง รวมแล้วมากกว่า 34 ครั้ง แม้ตนจะมีอุปสรรคทางด้านร่างกาย แต่หัวใจไม่เคยท้อ เนื่องจากมีแม่บุญธรรมเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต
นอกจากการเรียนแล้ว ก่อนหน้านี้ “น้องจ๊ะจ๋า” เคยได้รับโอกาสช่วยเหลือสังคมจากการได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 จากเวที Miss Wheelchair Thailand 2012 จนถึงตอนนี้ก็ได้ร่วมกับกองประกวดเพื่อช่วยเหลือสังคมในกิจกรรมต่างๆอีกด้วย
ส่วนอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตของ “น้องจ๊ะจ๋า” เริ่มต้นเมื่อช่วงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เมื่อ “น้องจ๊ะจ๋า” ได้เดินทางไปพบแพทย์แล้วพบว่า กระดูกสันหลังคด ทับปอด ทำให้ต้องได้รับการผ่าตัด และมีความเสี่ยงที่อาจจะหลับแล้วไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ จนมาถึงช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 “น้องจ๊ะจ๋า” ไม่สามารถไปเรียนได้ต้องผ่าตัด 3-4 ครั้ง
แต่โชคดีที่มีคุณแม่บุญธรรม คอยดูแลอยู่เคียงข้าง เพราะไม่สามารถนั่งนานๆ ได้ ทำได้เพียงนอนตะแคง มิเช่นนั้นจะหายใจไม่สะดวก แต่โชคดีที่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย อนุญาตให้อ่านหนังสือ โดยไม่ต้องพักการเรียน พร้อมทั้งยังมาคุมสอบด้วยตัวท่านเองที่ห้องพัก อีกทั้งเพื่อน และรุ่นพี่ได้มาให้กำลังใจอีกด้วย
“น้องจ๊ะจ๋า” บอกว่า แรงผลักดันที่ทำให้เรียนจบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรี เป็นเพราะชอบเรื่องการเรียน และไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนพิการ จึงทำให้สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนอื่น และยอมรับว่า เมื่อก่อนเคยท้อกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง แต่มีแม่บุญธรรมเป็นเเรงผลักดัน ทำให้มีวันนี้ได้ และเมื่อได้สวมชุดครุย รับปริญญา ตนเองรู้สึกดีใจ และภูมิใจเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ “น้องจ๊ะจ๋า” ยังบอกอีกว่า ความจริงแล้วเคยคิดอยากเรียนด้านสื่อสารมวลชน เนื่องจากเป็นคนชอบทำกิจกรรม และเป็นคนชอบพูด จึงทำให้อยากทำงานด้านสื่อมวลชน แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนใจมาเรียนทางด้านการตลาดแทน ทุกวันนี้หารายได้ด้วยการประกอบอาชีพขายของออนไลน์ ขายสินค้าเช่น แฟ้มเอกสาร และกล่องดินสอ
ทั้งนี้ “น้องจ๊ะจ๋า” ได้ฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิต อยากให้ทุกคนสู้ และพร้อมเผชิญกับสิ่งที่พบเจอ แม้ว่าความเหนื่อยล้าของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่สุดท้ายแล้วเชื่อว่า ทุกคนต้องก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างเธอแน่นอน
ขณะเดียวกัน “น้องจ๊ะจ๋า” ยังได้เปิดภาพในวัยเด็กให้ทางทีมข่าวดู ซึ่งเป็นภาพที่ทาง คุณแม่บุญธรรม ถ่ายเก็บไว้ตั้งแต่ “น้องจ๊ะจ๋า” ยังเด็กซึ่ง “น้องจ๊ะจ๋า” ชอบรูปภาพดังกล่าวเป็นอย่างมาก และเก็บไว้เป็นอย่างดี