รัฐบาลเตรียมปรับวีซ่าเอื้อนักเรียนต่างชาติที่ต้องการทำธุรกิจในญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมหารือเพื่อปรับระบบการออกวีซ่าให้นักศึกษาต่างชาติที่เรียนมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นสามารถทำงานต่อในญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้นหลังจบการศึกษา โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรมและทบวงกรมที่เกี่ยวข้องมีกำหนดจะพิจารณาการยืดระยะเวลาพำนักในประเทศให้กับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจในประเทศภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ประมาณเดือนกันยายน – พฤศจิกายน) ทั้งนี้รัฐบาลหวังใช้ศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์หนุนกำลังการแข่งขันระหว่างประเทศให้สูงขึ้นและเพื่อให้มีการพัฒนาวิวัฒนาการใหม่ๆ
ด้านองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่าจำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นปี พ.ศ. 2560 มีอยู่ 267,042 คนซึ่งถือว่ามากขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ภายในห้าปีที่ผ่านมา แต่หากนับจำนวนนักศึกษาที่ทำงานต่อในประเทศญี่ปุ่นหลังเรียนจบมีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายจะเพิ่มตัวเลขเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ โดยหากคำนวณจากจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปซึ่งมีจำนวนกว่า 26,000 คนแต่มีเพียง 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่หางานทำต่อในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระบบเพื่อชักจูงและเอื้อให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพและมีความรู้ด้านเทคโนโลยีสามารถทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นได้สะดวกขึ้น จากผลสำรวจที่สอบถามนักศึกษาต่างชาติขององค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่นพบว่ามีผู้ที่สนใจจะทำงานต่อในประเทศ 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่สนใจจะลงทุนทำธุรกิจมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งนี้มีนักศึกษาต่างชาติที่แสดงความเห็นว่าการจะหาทุนเพื่อสนับสนุนทั้งด้านการศึกษาของตนเองและการทำธุรกิจต่อไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ถึงแม้จะมีนักศึกษาที่สนใจจะเปิดธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีปัจจัยหลายอย่างในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะหากนักศึกษาไม่มีใบรับรองทุนทรัพย์ เอกสารแนะนำจากมหาวิทยาลัย แผนการดำเนินธุรกิจ และกิจกรรมที่ทำในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ต้องการจะเปิด นักศึกษาจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศต่อหลังเรียนจบเพื่อเตรียมเปิดธุรกิจดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้หลังเรียนจบนักศึกษาที่ต้องการทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นจึงเหลือตัวเลือกเพียงสองตัวคือ 1. กลับประเทศของตนเองเพื่อเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยก่อนขอวีซ่ามาทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นใหม่ 2. หางานในประเทศญี่ปุ่นให้ได้แล้วแบ่งเวลามาเตรียมเปิดธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีวิชาเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเพื่อสนับสนุนการทำงานในประเทศต่อ ซึ่งการเพิ่มตัวเลือกหลังจบการศึกษาจะเอื้อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆในประเทศญี่ปุ่น
อีกปัญหาที่น่ากังวลคือการที่นักศึกษาต่างชาติที่จบจากมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดแห่กันไปสมัครงานตามเมืองใหญ่จนหมด ดังนั้นหน่วยงานที่สนับสนุนการลงทุนธุรกิจของนักศึกษาต่างชาติจึงมีแนวโน้มที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและเทศบาลเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษามาทำงานในอุตสาหกรรมตามภูมิภาคต่างๆ
แต่เดิมหากนักศึกษาต่างชาติต้องการจะดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น ทางประเทศไม่มีนโยบายออกวีซ่าให้พำนักในประเทศต่อเพื่อเตรียมลงทุน จะมีเพียงไม่กี่พื้นที่พิเศษที่ได้รับอนุญาตให้ออกวีซ่าดังกล่าวตามนโยบายเขตพิเศษของประเทศเช่น ฟุกุโอกะ ทั้งนี้ฟุกุโอกะได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบสนับสนุนการลงทุนโดยการอนุญาตให้ธุรกิจกว่า 40 ชนิดจากเอเชีย อเมริกาและยุโรป อเมริกากลางและใต้เตรียมมาลงทุนภายใน 2 ปี โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมจะใช้ระบบเขตพิเศษนี้เป็นแหล่งอ้างอิงเพื่อวางแผนจัดระบบสถานการณ์พำนักของนักศึกษาต่างชาติใหม่ทั้งประเทศภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้เพื่อให้เท่าเทียมกับกลุ่มธุรกิจต่างชาติที่ได้สิทธิ์เตรียมเปิดกิจการในเขตพิเศษ โดยจะพิจารณาการเปลี่ยนสถานะวีซ่านักเรียน นักศึกษาเป็นวีซ่าสำหรับการเตรียมลงทุนธุรกิจ
โดยสรุปแล้วแผนการของรัฐบาลคือการยืดระยะเวลาให้นักศึกษาต่างชาติอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้นานขึ้น สำหรับในเขตพิเศษเดิมอนุญาตให้อยู่ได้เพียงหกเดือนเพื่อเตรียมเปิดกิจการ แต่เนื่องจากมีเสียงแย้งว่าเวลาน้อยเกินไป รัฐบาลจึงมีแนวโน้มจะปรับระบบใหม่เป็นหนึ่งปี