เด็กจบใหม่ อยากได้งาน อ่านทางนี้!
บัณฑิตจบใหม่ป้ายแดงผู้ร้อนวิชาทุกๆ คนในตอนนี้ก็คงกำลังมองหางานที่ตัวเองสนใจกันอยู่ แล้วก็อาจจะสงสัยว่า เราจะสมัครงานอย่างไรถึงจะได้งานกันนะ เพราะการทำงานก็ถือเป็นส่วนนึงของชีวิต ความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นในชีวิตต่อๆ ไปก็จะเกิดขึ้นจากการทำงาน และการที่เราได้ทำงานที่เรารัก เราก็จะรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ทำงาน และอยากตื่นไปทำงานในทุกๆ วัน รู้สึกสนุกกับมันจนลืมเวลาด้วยซ้ำไป ทาง Sanook! Campus จึงจะมาบอกเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับการสมัครงานให้ได้งานอย่างแน่นอนกัน
ก่อนสมัครงานนักศึกษาต้องรู้
ความประทับใจแรก ของใบสมัครงาน
แน่นอนว่าสิ่งที่คนเรามักจะจำได้แม่นยำที่สุดก็คือสิ่งที่เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับการสมัครงานกับบริษัทที่คุณอยากเข้าไปทำงานด้วย ในบางบริษัทอาจยังใช้วิธีดั้งเดิมสำหรับการสมัครงาน คือคุณต้องเข้าไปที่บริษัทเพื่อกรอกใบสมัคร และติดรูปถ่ายของคุณ แต่ในบางบริษัทสมัยนี้ก็จะสมัครงานผ่านทางอีเมล มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ก็สมัครไม่ยากสินะ … แต่ความจริงแล้วนั้น ทุกๆ อย่างมีความสำคัญในตัวมันเอง
ชื่ออีเมลสำคัญอย่างไร?
ชื่ออีเมลคือสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง ชื่อที่คุณตั้งนั้นสามารถบอกว่าตัวตนของคุณเป็นคนอย่างไรได้เลยทีเดียว ชื่ออีเมลที่คุณใช้ในการทำงานควรเป็นชื่อที่มีความน่าเชื่อถือ และเหมาะสมที่จะใช้ในการทำงาน หากว่าตอนนี้อีเมลที่คุณใช้อยู่นั้นยังไม่ดีพอ ก็ควรรีบไปสมัครใหม่ด่วนเลยนะคะ
ส่งแค่เอกสารไป หรือ ต้องแนะนำตัวเองด้วยนะ?
คุณไม่ควรส่งอีเมลเปล่าๆ โดยมีแค่เอกสารสมัครงานแนบไปเท่านั้น อย่างน้อยคุณควรแนะนำตนเองสักนิดให้เขาได้รู้จักคุณบ้าง นอกจากจะแนะนำตัวเองแล้วก็อย่าลืมใส่ข้อมูลช่องทางการติดต่อกลับมาหาคุณเพิ่มเติมด้วยหละ
ภาษาที่ใช้ควรเป็นยังไง?
ภาษาที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทที่คุณไปสมัครนั้นเป็นบริษัทประเภทใด อย่างเช่น เป็นบริษัทเอกชน หรือบริษัทของรัฐ แต่สิ่งที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการเขียนด้วยภาษาทางการที่ดูสุภาพ เพราะผู้ที่ได้รับอีเมลจะได้เกิดความประทับใจ และรู้สึกถึงความเคารพที่คุณมีให้ และคนที่เปิดอ่านอีเมลของคุณก็คงต้องเป็นผู้ใหญ่กว่าคุณอยู่แล้ว ฉะนั้นควรจะแสดงความเคารพไว้ดีที่สุด
ตรวจทานอีเมลและเอกสารทุกอย่างอีกรอบหรือยัง?
ก่อนส่งคุณควรตรวจทานเอกสารและเนื้อหาในอีเมลก่อนอีกครั้ง เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้องดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การสะกดคำ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาทางการ หรือความครบถ้วนของข้อมูล
รู้จักกับเอกสารที่สำคัญ
เอกสารบางอย่างถ้าไม่ได้จำเป็นหรือบริษัทไม่ได้เรียกร้องต้องการ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแนบไฟล์ไปในอีเมลด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เอกสารถูกปลอมแปลง และเป็นการปกป้องตัวเองอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเอกสารที่สำเนาจริงๆ อย่างเช่น สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาทะเบียน ก็ควรจะเซ็นกับกำให้เรียบร้อยว่าใช้ในการสมัครงานเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วในการสมัครควรส่งแค่ Resume, CV หรือ Portfolio ก็เพียงพอแล้ว
Resume, CV ต่างจาก Portfolio อย่างไร?
- Resume คือ เอกสารเกี่ยวกับประวัติโดยย่อของคุณนั่นเอง โดย Resume จะมีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ ดังนั้น คุณจะต้องเขียนสรุปประวัติของคุณให้ทั้งน่าอ่าน และเข้าใจง่าย
- CV คือ ประวัติส่วนตัวของคุณอย่างละเอียด เช่นการระบุการศึกษา ประสบการณ์ต่างๆ หรือรางวัลที่ได้รับ โดยจะแตกต่างจาก Resume ตรงที่สามารถมีความยาวได้มากกว่า 1 หน้า
- Portfolio คือ แฟ้มรวบรวมผลงานที่คุณได้สร้างสรรค์ขึ้นมา หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้เคยเข้าร่วม คุณสามารถใส่งานอดิเรก หรือสิ่งที่สนใจเข้าไปได้ด้วย ถือเป็นการโชว์ทักษะด้านต่างๆ นอกจากการเรียนให้ทางบริษัทได้รับรู้ด้วย
รูปติดใบสมัคร เหมือนตัวจริง
รูปติดใบสมัครก็เป็นอีกอย่างนึงที่สำคัญมากๆ รูปที่เลือกใช้อาจไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าตรง แต่ต้องเป็นรูปที่เห็นหน้าเราอย่างชัดเจน ไม่มีผมมาปิดบังใบหน้า และที่สำคัญคือต้องเลือกรูปที่ดูเหมือนกับตัวจริงด้วยนะ
สแตนด์บายรอรับสายสำคัญ
หลังจากส่งใบสมัครงานไปเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมสแตนด์บายรอรับสายสำคัญที่จะโทรมาบอกว่า “คุณผ่านการคัดเลือกแล้วค่ะ จะมีนัดสัมภาษณ์อีกทีวันที่ ....” ถ้าพลาดสายสำคัญแบบนี้ละก็ คงจะเสียใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งาน
สิ่งแรกที่ต้องมีสำหรับการจะไปสัมภาษณ์นั่นก็คือ ความมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะผู้ที่สัมภาษณ์ก็จะรับรู้ได้แน่ๆ หากคุณไม่มั่นใจ และก็คาดหวังไว้ได้เลยว่าผู้สัมภาษณ์อาจจะถามคำถามยอดฮิตกับคุณในการมาสมัครงาน อย่างเช่น คุณคาดหวังอะไรจากการทำงานกับทางบริษัท? หรือ คุณคิดว่าจะช่วยพัฒนาบริษัทได้อย่างไร? ซึ่งการที่คุณจะมาสมัครบริษัทนี้แปลว่าคุณก็ต้องมีความสนใจในงานด้านที่บริษัทกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ ดังนั้นคุณควรหาข้อมูลและประวัติของบริษัทที่คุณจะเข้าทำงานมาบ้าง เพราะถ้าเกิดเขาถามแล้วคุณตอบไม่ได้ เขาจะคิดว่าคุณคงไม่ได้อยากจะเข้ามาทำงานในบริษัทของเขาจริงๆ และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ พวกเอกสารสำคัญต่างๆ ก็อย่าลืมที่จะเตรียมไปให้ครบด้วย (จำไว้เสมอว่าเอาไปแค่แบบสำเนาก็เพียงพอแล้ว) นอกจากสิ่งเหล่านี้ การแต่งกายที่ดูสุภาพเรียบร้อยและดูน่าเชื่อถือ ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นกัน คุณต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าตำแหน่งที่คุณไปสมัครนั้นเป็นอย่างไร ในกรณีที่ภาพลักษณ์ของบริษัทและตำแหน่งต้องดูน่าเชื่อถือมากๆ คุณก็ควรแต่งตัวให้ดูดี เรียบร้อย และน่าเชื่อถือ
การสมัครงานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นคุณไม่ควรที่จะวิตกกังวลจนเกินไป คุณแค่แสดงความมั่นใจ บวกกับความใส่ใจ และเตรียมพร้อมในเรื่องต่างๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเข้าไปทำงานในตำแหน่งที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน Sanook! Campus ขอเป็นกำลังใจให้เด็กจบใหม่ทุกๆ คนได้เข้าทำงานในตำแหน่งและบริษัทที่ต้องการนะคะ