เรื่องจริงชีวิตเด็กหอ กับปัญหากวนใจที่ต้องเจอ

 

หลังจากรู้แล้วว่าจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน น้องๆ หลายคนก็คงอาจจะมีการย้ายที่อยู่เกิดขึ้น สำหรับใครที่เคยใช้ชีวิตเป็นเด็กหอแล้วก็คงพอจะจินตนาการออกว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็น่าจะมีน้องๆ บางคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร และยังจินตนาการไม่ออก Sanook! Campus จึงจะมาตีแผ่ชีวิตเด็กหอที่มีแต่เด็กหอเท่านั้นที่รู้กัน

รู้ไหม ? เด็กหอ ต้องเจออะไรบ้างนะ

นี่คือเหงา นี่แหละเหงา

ร้อยทั้งร้อยพอได้มาเป็นเด็กหอแรกๆ ก็ต้องมีอาการเหงา คิดถึงบ้านกันอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าใครที่เป็นคนติดบ้านแล้วต้องย้ายมาอยู่คนเดียวละก็ … อาจจะมีน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว บางคนอาจจะถึงขั้นเป็น Homesick เลยก็ว่าได้ วิธีแก้ก็อาจจะโทรหาที่บ้านบ่อยๆ หรือใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนมากขึ้น เราจะได้ไม่เหงาอยู่คนเดียว

ดูแลตัวเอง

พอต้องมาอยู่คนเดียวแล้ว ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างเราก็ต้องเป็นคนทำเองจัดการเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ซักผ้า ถูห้อง กวาดห้อง หรือเก็บขยะ เป็นต้น เวลาที่ป่วยก็อาจจะลำบากเสียหน่อยถ้าเราอยู่คนเดียว ดังนั้นการหารูมเมทดีๆ สักคนก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ หรือถ้าใครที่ชอบอยู่คนเดียวก็ควรหาเพื่อนที่ไว้วางใจได้ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากกัน เพื่อไว้คอยช่วยเหลือกันและกันยามลำบากก็ได้

อิสระดั่งนกที่โบยบิน

พอมาอยู่หอแล้ว ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ความอิสระต่างๆ ก็จะตามมา เราจะทำอะไรก็ได้ ตื่นสายก็ไม่มีใครว่า ไม่ล้างจานก็ไม่มีใครรู้ กลับดึกก็ไม่มีใครบ่น ดังนั้นการรู้จักควบคุมตัวเอง และมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่เป็นเด็กหอ เพราะถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ และหลงระเริงไปกับสิ่งเร้าต่างๆ รอบกายแล้วละก็ จะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองมิใช่น้อยเลยหละ

สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ

ใครเป็นเด็กหอแล้วต้องเข้าใจข้อนี้ดีมากแน่ๆ กับประโยคที่ว่าสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจนั้นหมายถึงอะไร พอต้นเดือนได้เงินรายเดือนจากพ่อแม่มาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ บางคนก็อาจจะเผลอใช้เงินนั้นเยี่ยงราชากันเลยทีเดียว แล้วพอสิ้นเดือนก็ต้องมานั่งทนกินมาม่าที่มีสำรองไว้ในห้องอย่างเศร้าๆ ดังนั้นการบริหารเงินให้พอใช้ทั้งเดือนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ อย่างหนึ่งสำหรับเด็กหอเลยนะ ถ้าไม่อยากกินมาม่าละก็ อย่าใช้เงินจนเพลินนะคะ ^ ^ (เดี๋ยวนี้มาม่าก็ไม่ค่อยถูกแล้วนะ)

โรคไม่ใช้เหรียญ 5 หรือ เหรียญ 10

เด็กหอต้องรู้จักกับโรคนี้เป็นอย่างดีแน่ๆ โรคไม่ใช้เหรียญ 5 หรือเหรียญ 10 เพื่อจะเก็บเอาไว้ไปหยอดตู้ซักผ้า ดังนั้นเหรียญ 5 กับเหรียญ 10 สำหรับเด็กหอถือว่าเป็นเหรียญที่มีค่ามากๆ เด็กหอบางคนก็ชอบขอแลกแบงก์กับเหรียญเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าพอจะซักผ้าจริงๆ จะหาแลกเหรียญ 5 หรือเหรียญ 10 ทีก็ลำบากเหลือเกินจริงๆ

เสียงทักทายจากห้องข้างๆ ที่เราไม่ได้ต้องการ

หอพักหลายๆ ที่ก็มีผนังกั้นระหว่างห้องที่บางเหลือเกิน จนทำให้บ่อยครั้งเราได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ เสียงทักทายจากเพื่อนห้องข้างๆ ในยามค่ำคืนก็ชอบสร้างความรำคาญใจให้เด็กหอทั้งหลายเหลือเกิน ดังนั้นเมื่อเราไม่ชอบเวลาห้องข้างๆ เสียงดัง เวลาที่เราจะทำอะไรก็ต้องระวังไม่ให้คนอื่นเกิดความรำคาญด้วยนะคะ หรือถ้าวันไหนมีวันเกิดเพื่อนแล้วเราจะเสียงดังสักหน่อยเพราะเพื่อนๆ จะมาจัดปาร์ตี้กันที่ห้อง อาจจะแสดงมารยาทกับห้องข้างๆ สักนิดด้วยการติดกระดาษหน้าประตูที่เขียนข้อความบอกว่าจะเสียงดัง อย่างเช่น “คืนนี้ขออนุญาตเสียงดังหน่อยนะคะ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนน่ะค่ะ :)” เป็นต้น แค่นี้ห้องข้างๆ ก็จะไม่โกรธเราอย่างแน่นอน อยู่กันอย่างเป็นมิตรดีกว่าเนอะ

การจะเป็นเด็กหอไม่ใช่เรื่องยาก หากแต่มีความรับผิดชอบในตนเอง และก็คิดถึงคนอื่นรอบๆ ตัวบ้างก็เพียงพอแล้ว แรกๆ อาจจะเหงาสักหน่อย แต่พอมีเพื่อนที่เริ่มสนิทหน่อยละก็ คราวนี้ก็จะเริ่มสนุกแล้วหละ แต่อย่าสนุกจนลืมการตั้งใจเรียนด้วยนะคะน้องๆ ^ ^