สัมภาษณ์พิเศษ "BNK48" รุ่น 2 มาทำความรู้จักกับพวกเธอให้มากขึ้นกันเถอะ
ทำความรู้จักกับ BNK48 รุ่น 2 ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย กับบทสัมภาษณ์พิเศษ กับทาง Sanook! Campus ที่นี่ที่เดียว
เรียกว่าเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นในยุคปัจจุบันให้ลุกขึ้นมาทำตามความฝันกันอย่างดีเลย กับ BNK48 วงไอดอลสาวสุดน่ารัก ที่ตอนนี้ก็มีรุ่น 2 ออกมากระชากใจเหล่าโอตะกันอีกแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ Sanook! Campus ก็ได้มีโอกาสพิเศษได้พูดคุยกับเหล่าสาวๆ BNK48 แบบพิเศษสุดๆ จึงไม่พลาดที่จะนำความน่ารักดีต่อใจของเหล่าสาวๆ มาฝากเพื่อนๆ กัน
งานอดิเรกของแต่ละคนมีอะไรบ้าง?
นิกี้: ส่วนมากชอบฟังเพลงค่ะ แล้วก็ชอบออกกำลังกายด้วย ว่างๆ ก็ไปฟิตเนสออกกำลังกายด้วย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างกันเลย
ฟอนด์: ของหนูจะชอบฟังเพลงเหมือนน้องนิกี้ค่ะ แต่ว่าถ้าสมมุติว่าอยู่ที่บ้านเก่า จะชอบว่ายน้ำค่ะแล้วก็ตีแบดมินตันกับคุณแม่ค่ะ
มิวนิค: มิวนิคชอบทำอาหารค่ะ ว่างๆ ก็จะหาสูตรขนมมาลองทำดูค่ะ
วิว: หนูก็จะชอบฟังเพลง แล้วก็อ่านการ์ตูนค่ะ
โอชิใคร? ใน BNK48 รุ่นแรก?
รตา: โอชิพี่น้ำหนึ่งค่ะ เพราะว่าพี่น้ำหนึ่งสวยแล้วก็หุ่นดี ชอบค่ะ
วี: โอชิพี่ปันค่ะ เพราะว่าพี่เขาเป็น First Impression ค่ะ ตอนหนูดู MV เพลงคุกกี้เสี่ยงทาย
จีจี้: ของหนูก็โอชิรุ่นพี่เนยค่ะ เพราะว่ารุ่นพี่มีเสน่ห์มากค่ะ แล้วก็น่ารักมากค่ะ
แบมบู: รุ่นพี่ปันค่ะ เพราะว่ารุ่นพี่ปันเขาใจดีมากๆ เลยค่ะ เขาให้คำปรึกษาพวกเราเยอะมากๆ แล้วเขาไปรายการไหนก็สนุกทุกครั้งที่เขาไปเลยค่ะ หนูแบบชอบคน Entertain น่ารักมากค่ะ
นิยามของคำว่า Idol ในแบบของเรา
มายยู: การเป็นไอดอลก็คือการที่เป็นคนที่มีทัศนคติด้านบวกนะคะ แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจเพื่อเพิ่มพลังบวกให้กับคนอื่นค่ะ
จูเน่: นิยามคำว่าไอดอลก็สำหรับจูเน่ก็เป็นบุคคลที่เป็นตัวอย่างที่ดีค่ะ มีความคิด ทัศนคติที่ดี ทัศนคติที่เป็นบวก สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนได้ สร้างความสุข แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมค่ะ
นิว: เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นค่ะ เป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับคนอื่น ในทุกๆ เรื่องค่ะ
แพนด้า: หนูรู้สึกว่าการเป็นไอดอลคือการที่เป็นพลังบวก ที่เราต้องบวกให้ตัวเอง และก็ต้องส่งพลังบวกให้คนอื่นด้วยค่ะ
การเป็น Idol ทำให้เราปรับตัวยากไหม?
สตางค์: หนูคิดว่าการที่เราได้มาเป็น BNK48 ทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นค่ะ จากปกติแล้วเราต้องรับผิดชอบเรื่องการไปโรงเรียน เรื่องการเรียน การสอบ เราก็ต้องมารับผิดชอบทั้ง 2 อย่างค่ะ ก็คือทั้งทำงานไปด้วยแล้วก็การที่เราเรียนแล้วก็สอบแล้วก็ต้องติวสอบ แล้วก็จัดตารางเวลาให้ดีขึ้นค่ะ
เข่ง: ลำบากนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เราก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดา เหมือนเปลี่ยนตัวเองให้มีความรับผิดชอบขึ้น แล้วก็ทำตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับแฟนๆ และคนอื่นๆ ค่ะ
ฟีฟ่า: สำหรับหนูจะคล้ายกับพี่เข่งเลยค่ะ การที่มาเป็นไอดอล หนูก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งใน BNK48 สิ่งนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองค่ะ ที่ทำมันได้ โดยแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้เป็นแบบใครค่ะ จากที่เมื่อก่อนเคยแบบห่วงเล่นกับเพื่อน ไปเที่ยวกับเพื่อน ตอนนี้ก็ต้องเสียสละเวลาจากตรงนั้น ไปจริงจังกับการทำงานไปด้วยแล้วก็เรียนไปด้วยค่ะ
ดีนี่: สำหรับดีนี่ ถือว่ายากพอสมควรค่ะ เพราะปกติแล้วเสาร์ อาทิตย์ก็จะมีเรียน เวลาปกติเราก็จะไม่ค่อยว่าง เป็นแค่วัยรุ่นธรรมดาคนนึงก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่ว่าเดี๋ยวนี้คือต้องซ้อมกันถึงอาทิตย์ เวลาของเรา เราก็ต้องทุ่มเทให้กับงานมากกว่าแล้ว คือจะให้เราไปเที่ยวเล่นเหมือนก่อนมันไม่ได้ เพราะว่าเราก็ทำงานแล้ว แบ่งเวลาค่ะ ตอนนี้เริ่มทำได้แล้วค่ะ
ในกลุ่มเพื่อนๆ เราสนิทกับใครมากที่สุด
แบมบู: น่าจะเป็นฟอนด์ค่ะ ที่จริงแก๊งหนูจะมีฟอนด์ มิวนิค ค่ะ แต่ว่าสนิทกับหลายๆ คนเท่าๆ กันค่ะ
จีจี้: ก็สนิทกับวีค่ะ เพราะเจอกันตั้งแต่ออดิชั่น แล้วก็ Live ตู้ปลาด้วย ก็คุยกันบ่อยค่ะ
วี: สำหรับหนูก็เป็นจีจี้ค่ะ เพราะว่าก็ออดิชั่นก็เจอกัน ใน Live Digital, Live Video ก็เจอกัน เพราะว่าเราเหมือนกันค่ะ ก็เลยพูดตามกัน
รตา: สนิทกับนิกี้ค่ะ เพราะว่ารู้จักกันมาตั้งนานแล้ว
Item อะไร ที่เราต้องติดตัวตลอดเวลา
วิว: พระพิฆเนศค่ะ เพราะที่บ้านนับถือด้วยค่ะ เวลาหนูกลัวหรือว่าตื่นเต้นก็จะแบบจับหน้าอกแล้วก็สวดมนต์จะทำให้หนูรู้สึกโล่งใจขึ้น
มิวนิค: ตุ๊กตาเอเลี่ยนเขียว 3 ตาค่ะ น้องวิวเป็นคนคีบให้ค่ะ เป็นตุ๊กตาตัวแรกที่ได้จากการคีบตู้ก็เลยจะหวงมากๆ เลยค่ะ
ฟ้อนด์: กระเป๋าตังค์รูปแครอทค่ะ เพราะว่าในนั้นเนี่ยมีทั้งเงิน มีทั้งบัตร มีทั้งกุญแจห้องของสำคัญมากๆ ค่ะ ก็เลยเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้
นิกี้: ส่วนของหนูก็เหมือนของพี่ฟ้อนด์เลยค่ะ ก็คือกระเป๋าสตางค์ค่ะ ก็มีแล้วมันอุ่นใจค่ะ (หัวเราะ) เหมือนมีสตางค์ติดตัวค่ะ
สิ่งที่ชอบที่สุดในการไปเรียน
นิว: สิ่งที่หนูชอบที่สุดในการไปเรียนนะคะ คือการได้เรียนหนังสือค่ะ แล้วก็ได้เจอเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ
แพนด้า: สิ่งที่ชอบที่สุดในการไปมหาลัยละกันนะคะ เป็นการที่ได้ไปเรียนความรู้ใหม่ๆ ทุกครั้งที่เข้ามา แล้วก็มีเทคนิคอื่นๆ ที่เรียนรู้เข้ามาเพิ่มเติมค่ะ
มายยู: ก็สำหรับมายยูก็คือการได้เจอเพื่อนๆ ค่ะ แล้วก็เก็บเกี่ยวความทรงจำในโรงเรียนค่ะ
จูเน่: ของจูเน่ก็เป็นการได้พบกับเพื่อนๆ เหมือนกันค่ะ แล้วก็การได้ทำกิจกรรมที่โรงเรียน แล้วก็พูดคุยกับคุณครูต่างชาติค่ะ
วีรกรรมสุดโก๊ะ! ตั้งแต่สมัยเรียน
เข่ง: หนูเป็นคนที่ชอบวิชาดนตรี จะชอบมากกว่าวิชาการ ก็จะชอบเอาหนังสือของวิชาดนตรีของทฤษฎีมาอ่านตอนเรียนคณิตค่ะ ก็อย่าทำตามนะคะ (หัวเราะ)
ฟีฟ่า: ตอนนั้นอยู่ในช่วงประมาณอายุ 12, 13 แล้วเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนคนนี้จะรู้จักเรา แล้วเราวิ่งผ่านห้องเขา แล้วคือลื่นกระโปรงก็ตีใส่หน้า แล้วคือแบบเพิ่งมาสนิทกันอีกทีก็ตอนขึ้น ม.ปลาย แล้วเขาก็ทักเราเรื่องนั้น เราก็งงว่าเคยทำแบบนั้นด้วยหรอ แล้วเราก็ไม่รู้ตัว มันฮามาก คือกระโปรงครอบหัวค่ะ (หัวเราะ) ตลกมาก
ดีนี่: หนูไม่ต่างอะไรกับฟีฟ่าเลย คือโรงเรียนหนูมันจะมีบาร์ ให้โหนใช่ไหมคะ ตอนนั้นหนูอยู่ประมาณม.4 ค่ะ โตแล้วแหละ แต่ว่าไม่ยอมใส่ซับใน ก็โหนไปโหนมา กลี้งหัวคะมำกระโปรงเปิดจ้า คนที่ขับรถผ่านไปผ่านมาก็เห็น แม่ก็บอกว่าลูกปิดหน่อย เราก็แบบอายที่สุดแล้วค่ะ
สตางค์: ของหนูจะเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็คือช่วงแรกๆ ที่เรียนเราก็จะจำอักษรอะไรอย่างงี้ไม่ค่อยได้ค่ะ แล้วก็จะพูดผิดเพี้ยนไป แล้วครูก็จะขำ อะไรแบบนี้ เราก็อายเบาๆ ที่พูดผิดค่ะ
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ