"รําลึกความหลัง" กันหน่อย คนช่วงอายุ 20 ในปีนี้ ต้องโตมากับสังคมแบบไหน
เวลาที่มีผู้ใหญ่สักคนพูดคำว่า “เด็กสมัยนี้” อาจต้องทำให้หลายคนนึกถึงเพียงแต่ด้านที่ไม่ดีของหนุ่มสาวในปัจจุบัน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ต้องมองกลับไปที่ตัวผู้ใหญ่ด้วยว่า สร้างสังคมแบบไหนให้พวกเขาที่ต้องกลายเป็นหนุ่มสาว ที่ถูกตีตราว่า ไม่ได้คุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในวัย 20 ปีขึ้นไป และเกิดตั้งแต่ปี 2540 เป็นคนในยุคที่ต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และ การศึกษา และถ้าคุณยังนึกไม่ออกว่าหนุ่มสาว ในปัจจุบันเขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง เชิญตามอ่าน ไทม์ไลน์ด้านล่างนี้ได้เลย
2540 – 2545 ห้าขวบแรกกับวิกฤตการเงิน
ในปีเกิดของคนที่วันนี้อายุ 21 ปีขึ้นไป พวกเขาเกิดมาพร้อมกับ ช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่มีชื่อว่า “ต้มยำกุ้ง” ความย่อยยับของสถาบันการเงินที่ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน หลังจาก จอร์จ โซรอส เข้าโจมตีค่าเงินบาทและทำให้ฟองสบู่เศรษฐกิจ อันเกิดจากการกู้เงินต่างประเทศมาลงทุน แตกดังโพละ ขณะที่รัฐบาลพล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลดค่าเงินบาท ทำให้ปีนั้นค่าเงินบาทไทย ดิ่งสู่ 56 บาทต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ (ก่อนหน้าลดค่าเงินบาทอยู่ที่ 25 บาทต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ)
คิดดูแล้วกันว่าเศรษฐกิจจะแย่ขนาดไหน เวลานั้นพ่อแม่ของหลายคนที่ทำงานสถาบันการเงิน อาจตกงาน กะทันหันและต้องเปลี่ยนอาชีพ ขณะที่เศรษฐกิจ อยู่ในขั้นติดลบระบบการศึกษาเวลานั้นก็เข้าสู่ความเปลี่ยนแปลง เมื่อมีความเห็นชอบให้เปลี่ยนระบบจากเอ็นทรานซ์ มาเป็นระบบแอดมิชชันในปี 2543
ส่วนสภาพสังคมเวลานั้น โลกกำลังเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลง หลังจากปี 2000 หรือปี 2543 ที่คนกลัวว่าระบบคอมพิวเตอร์จะมีปัญหาจากระบบตัวเลขที่ทำเอาแตกตื่นกันไปทั้งสังคม กับ Y2K ก่อนที่ทุกคนจะก้าวข้ามปี 2000 และเริ่มศตวรรษที่ 21 โดยไม่มีใครพูดถึง Y2K อีกแต่กลับมีเสียงเตือนเบาๆ ถึงการมาของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆในสังคมไทย พร้อมกับเข้าซื้อเว็บไซต์ไทยจากทุนต่างประเทศ หลายเว็บไซต์ จนทำให้อาชีพ เว็บมาสเตอร์ กลายเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน
2546-2551 สิบขวบได้สัมผัสรัฐประหารเป็นครั้งแรก
หลังจากการเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของทักษิณ ชินวัตร ทำให้หลายคนกลับมาฟื้นตัวได้หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ความเอื้อเฟื้อประโยชน์ต่อธุรกิจในเครือของครอบครัว รวมไปถึงการบริหารประเทศที่ใช้ระบบเดียวกับการบริหารบริษัท ทำให้เกิดวาทะกรรม “ระบอบทักษิณ” และความรู้สึกไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และ โทรทัศน์ดาวเทียม เอเอสทีวี ได้อ่านข้อความที่ถูกโพสต์ใน เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ที่มีหัวข้อว่า “ลูกแกะหลงทาง”
โดยมีการอ่านข้อความนี้สองครั้ง แต่ครั้งที่เกิดกระแสมากที่สุดคือ การอ่านในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกร่วมในการต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” และต่อมาเมื่อรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดออกจากผัง การชุมนุมที่สวมลุมพินี ก็เริ่มต้นขึ้น และพัฒนาขึ้นเป็นลำดับจนกลายเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทำให้สนธิ ลิ้มทองกุล กลายเป็นแกนนำ ที่มีผู้ให้ความสนับสนุนอย่างล้นหลาม
แต่เมื่อมีฝ่ายสนับสนุน ก็ต้องมีฝ่ายต้าน เวลานั้นคนที่เกิดในปี 2540 จะต้องอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของสีเสื้อ หรือความขัดแย้งของคนในครอบครัว กับปัญหาทางการเมือง และไม่นานเกินรอ พล.อ สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ได้ยึดอำนาจรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ในเดือนกันยายน ปี 2549
และในระหว่างที่ผู้คนในเมืองไทยกำลังหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้ทางการเมือง สตีฟ จ๊อบส์ ก็เปิดตัวไอโฟนเครื่องแรกในปี 2550 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร แต่ทว่าเวลานั้นสื่อในเมืองไทยยังไม่ใคร่จะรู้ตัวกันเท่าไรนักว่ากำลังจะเจอกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
2552-2557 รัฐประหารรอบสอง กับ โซเชียลมีเดีย
หลังจาก วิกฤตต้มยำกุ้ง การเปลี่ยนแปลงระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผ่านม็อบ และ การความไม่สงบจากการปะทะกันของม็อบ พีคสุดด้วยปฏิวัติปี 49 ถึงเวลานี้คนที่เกิดในปี 2540 มีความสุขอยู่กับการได้ครอบครอง ไอโฟน และ เริ่มใช้งาน เฟซบุ๊ค กันอย่างแพร่หลาย และทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ของวงการสื่อสารมวลชน ที่เรียกว่า Social Media หรือ สื่อสังคมออนไลน์
ส่วนเรื่องระบบการศึกษานั้นเรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในทุกเวลา 5 ปี จนทำให้หลายคนหมดหวังไปกับระบบการศึกษาไทย ที่ไม่สามารถพัฒนาคนเพื่อตอบสนองตลาดแรงงานได้ แต่ความสุดของคนที่เกิดปี 2540 ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะพวกเขาต้องเจอกับ การรัฐประหารอีกครั้งในปี 2557 ที่กลายมาเป็น คสช และ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ ประยุทธ จันทร์โอชา ในปัจจุบัน
2558 – ปัจจุบัน เข้าสู่สังคมดิจิตอล เต็มรูปแบบ
นับตั้งแต่ปีเกิด 2540 จนถึงปัจจุบัน คนในช่วงวัยนี้จะมีอายุได้ประมาณ 21 ปี หลายคนจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษากันแล้ว หลายคนกำลังเรียนอยู่ปีสุดท้าย หรืออีกหลายคนอาจเรียนสายอาชีพ หากสิ่งที่พวกเขาเห็นตั้งแต่เด็กจนโต คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งกับสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม ที่มีมาทุกระยะ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับ โซเชียลมีเดีย ทัวร์จีน ม็อบสีเสื้อ รัฐประหาร และ ระบบการศึกษาที่ ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ผู้ผลิตสื่อเข้าสู่สังคมดิจิตอล อย่างเต็มรูปแบบ
ดังนั้นการตั้งคำถามว่าเด็กเหล่านี้โตมาแบบไหน คงไม่ยุติธรรมกับพวกเขานัก เพราะช่วงเวลา 21 ปีที่ผ่านมาหนุ่มสาวเหล่านี้ต่างต้องเจอกับ ความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะที่คนในรุ่นเก่ายังคงยึดอยู่กับกรอบเดิม จนทำให้เกิดช่องว่างที่กลายเป็นการกล่าวหาและสงสัยในความสามารถของหนุ่มสาวในยุคนี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ใหญ่ต่างหากที่ต้องหันกลับไปมองตนเอง ว่าดูแลพวกเขามาอย่างไร