"เจน-รมิดา" นางเอกหน้าใส กับมุมมอง Social Bullying ของสังคมในยุคนี้

เจน-รมิดา นอกจากจะสวยแล้ว ยังฉลาดและเก่งมากอีกด้วย เรามาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกันอีกนิดผ่านมุมมองของเธอกันดีกว่า

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันนี้โลกโซเชียลถือว่ามีบทบาทกับวัยรุ่นอย่างเต็มตัว และด้วยความที่เข้าถึงได้ง่ายผู้คนจึงอาจจะนำโซเชียลมาใช้ในทางที่ผิดจนกลายเป็นปัญหา Cyber Bullying คุกคามทางออนไลน์ได้ ซึ่ง เจน-รมิดา จีรนรภัทร นางเอกสาวหน้าสวยคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เคยเจอกับปัญหานี้มา ซึ่งทาง Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสที่ได้นั่งคุยและพูดคุยกับเธอ เราจึงอยากนำเสนอมุมมองของเธอเกี่ยวกับ ปัญหาและการรับมือ Cyber Bullying ในวิธีของเธอมาให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน

ประวัติ เจน-รมิดา

• ชื่อ : รมิดา จีรนรภัทร (ลูกครึ่งไทย - ไต้หวัน)
• ชื่อเล่น : เจน
• วันเกิด : 19 มิถุนายน พ.ศ. 2543
• ฉายา : ต่างด้าว เพราะพูดไม่ค่อยชัด เนื่องจากเป็นลูกครึ่งไต้หวัน เพื่อนๆ จึงพากันแซวว่าเป็นต่างด้าว
• การศึกษา : โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์

แนะนำตัวกันหน่อย

"สวัสดีค่ะ ชื่อ เจน รมิดา ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ชั้นปี 3 ค่ะ อายุ 19 ปี (ยิ้ม) ถามว่าเร็วไหมที่อายุ 19 ปี แต่ว่าอยู่ ปี 3 ก็...อาจจะใช่ เนื่องจากเจนใช้วิธีสอบเทียบ และก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเลย มันเลยค่อนข้างเร็วค่ะ"

ส่วนตัวเจน เจนคิดว่าระหว่างพรสวรรค์กับพรแสวงสิ่งไหนพาเราไปสู่จุดสูงสุดได้เร็วกว่ากัน?

"เจนมองว่าคนที่เขามีพรสวรรค์ ความสำเร็จของเขาอาจจะง่ายกว่าคนอื่น แต่ถ้าหากเป็นคนที่ไม่ได้มีพรสวรรค์แบบเจน เราก็อาจจะต้องใช้ความตั้งใจมากขึ้นไปอีกระดับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยเรื่องการแสดง คือด้วยความที่เจนไม่ได้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงมาก แต่ด้วยความชอบ เจนจึงต้องพยายามฝึกฝน เมื่อก่อนเจนเคยพูดไม่ชัด เจนก็ค่อยๆ ฝึกฝนตัวเอง ทำให้ตัวเองดีขึ้น คือยังไงเราก็ต้องฝึกฝนตัวเองตลอด เพื่อที่มันจะได้มาถึงตรงนี้"

เห็นเราเคยบอกว่าเรามีปัญหาเรื่องการพูดไม่ชัด จนถึงขั้นโดนเพื่อนๆ ล้อว่าเป็น ต่างด้าว?

"ใช่ค่ะ ด้วยความที่เจนเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เด็กๆ และก็พูดภาษาจีนเยอะมาก มันจึงทำให้การพูดหรือการใช้ภาษาไทยสำหรับเจนมีปัญหา คือพูดไทยไม่ชัด เขียนไทยไม่ได้จนถึง ม.4 แต่ถามว่าการที่เจนถูกเพื่อนล้อมันทำให้เจนกดดันตัวเองไหม จริงๆ ตอนนั้นเจนก็ชินนะ (หัวเราะ) เหมือนเจนเพิ่งจะมาซีเรียสเอาจริงจังก็ตอนที่ได้มีโอกาสแสดงซีรีส์เรื่องแรกนี่แหละค่ะ อารมณ์แบบพอได้มาฟังเสียงตัวเองผ่านจอทีวีถึงได้รู้สึกว่าการพูดของเรามีปัญหา พูดไม่ชัดจริงๆ และจากนั้นมาเจนก็พยายามฝึกฝนตัวเองตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพูดให้ช้าลง หรือฟังคนอื่นให้เยอะขึ้น"

เจนคิดว่าสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ของเจนคืออะไร?

"เจนค่อนข้างเป็นคนที่เรียนรู้อะไรเร็ว คือถ้าหากมีคนตั้งใจสอนอะไรเจนสักอย่าง เจนก็จะซึมซับเร็ว หรือถ้าหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เจนชอบอยู่แล้วด้วย เจนก็จะยิ่งเรียนรู้เร็วยิ่งเข้าไปอีก"

ถ้าให้ระบุ 3 สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเรา มีอะไรบ้าง?

"อย่างแรกเลย คนภายนอกเวลามองเจน อาจจะคิดว่าเจนเป็นคนเรียบร้อย แต่ว่าจริงๆ แล้ว เจนก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งนี่แหละ อย่างที่สองก็คือค่อนข้างรักสวยรักงาม และอย่างสุดท้ายคือไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ออกจะบื้อๆ ด้วยซ้ำ อย่างเช่นเวลาคนอื่นเขาเล่นมุขอะไรมา หรือพูดอะไรสักอย่างมา เจนก็อาจจะงงก่อน (หัวเราะ)"

แล้วสิ่งของ 3 สิ่ง ที่เราจะต้องพกติดตัวตลอดเวลาล่ะ คืออะไร?

"ลิปสติก ที่ดัดขนตา และก็แป้งค่ะ"

วิชาไหนบ้างที่เราชอบ และไม่ชอบที่สุดตอนเรียน?

"เจนชอบวิชาภาษาอังกฤษค่ะ เพราะเป็นวิชาที่เจนถนัด แต่วิชาที่เจนไม่ชอบเอามากๆ เลยก็คือวิชาเลข เพราะเจนไม่ชอบคิดอะไรซ้ำซ้อน ยิ่งคิดเยอะยิ่งรู้สึกเหนื่อย ปวดสมอง (หัวเราะ)"

วีรกรรมสุดโก๊ะสมัยเรียนของเราคืออะไรพอจะบอกได้ไหม?

"เอ่อ...นึกไม่ค่อยออกเลยอ่ะ เพราะจริงๆ เวลาเจนเรียน เจนเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยมีวีรกรรมโก๊ะๆ สักเท่าไหร่ จะมีก็แค่วีรกรรมที่ถูกเพื่อนแกล้งมากกว่า หรือเวลาเพื่อนแกล้งคนอื่นเจนก็จะยืนมอง จนคนคิดว่าเจนนี่แหละคือหัวโจก จริงๆ แล้วไม่ใช่ เจนแค่นิ่งๆ (หัวเราะ)"

ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบบ้างไหม เพราะเราเองก็สะดุดตามาก?

"ก็มีบ้าง (หัวเราะ) คืออย่างบางทีเวลานั่งอยู่คนเดียวก็จะมีคนเข้ามาขอเบอร์ หรือขอแชท ซึ่งเจนก็ไม่เคยให้ เหมือนเจนค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ มากกว่า"

เคยมีบางกรณีไหมที่เรารู้สึกว่าประทับใจมุขจีบ หรือวิธีการจีบแปลกๆ ของหนุ่มๆ?

"ไม่เคยมีเลยนะ เหมือนอย่างที่เจนบอกเลยค่ะ เจนจะรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ดีๆ ก็มีใครไม่รู้เดินเข้ามาขอเบอร์ แต่ถ้าหากเป็นการที่เรารู้จักผ่านเพื่อน หรือเป็นเพื่อนกันมาก่อน อันนี้อาจจะโอเค เหมือนเจนไม่ชอบแบบให้มาขอตรงๆ"

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทกับสังคมมากขึ้น ตัวเราเองคิดยังไงกับเรื่องของ Cyber Bullying?

"เจนรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก เพราะเจนเคยโดนมากับตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องของการคอมเมนต์ ซึ่งคนที่คอมเมนต์เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรตอนที่เขาเขียนมา แต่ว่าสำหรับคนอ่านเจนบอกได้เลยว่ามันเจ็บมากจริงๆ ดังนั้นถ้าถามว่าเจนรู้สึกยังไง ก็เอ่อ...ไม่ชอบเลยค่ะ เหมือนการที่เราไปด่าคนอื่นโดยที่ไม่รู้ว่ารายละเอียดของเรื่องราวนั้นๆ เป็นยังไง มันค่อนข้างไม่ยุติธรรม ยังไงเจนก็อยากจะฝากถึงทุกคนว่าอยากให้ไตร่ตรองให้ดีก่อน ก่อนที่เราจะพิมพ์อะไรออกไป หรือคิดจะต่อว่าใครสักคน เนื่องจากข้อความนั้นๆ มันส่งผลให้มีคนรู้สึกเจ็บปวดที่ได้อ่านจริงๆ ค่ะ"

แล้วถ้าหากคนที่เขาคอมเมนต์มา เขามองว่ามันคือความคิดเห็นส่วนตัวของเขาล่ะ เรามีอะไรอยากจะบอกไหม?

"ก็จริงๆ มันต้องนึกถึงใจเขาใจเรานะ เหมือนเราต้องคิดด้วยว่า ถ้าคนที่เราเขียนถึงเขาได้อ่าน เขาจะรู้สึกยังไง ซึ่งเจนเข้าใจนะคะถ้าจะบอกว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่ก็อยากให้ถนอมน้ำใจกันสักหน่อย สงสารอีกฝ่ายสักนิดหนึ่ง"

ถ้าจะให้แนะนำวิธีการรับมือกับ Social Bullying ตัวเราเองมีวิธีการยังไงบ้างกับเรื่องนี้?

"เจนก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะรับมือยังไง เพราะเอาตรงๆ จากประสบการณ์ที่เคยเจอมา ตอนแรกเจนก็คิดว่าเจนรับมือได้ แต่ปรากฏว่าพอเจนเข้าไปอ่านข้อความต่างๆ แล้ว น้ำตามันก็ไหลเอง (ยิ้ม) ซึ่งในตอนนั้นเจนก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลา ซึ่งก็มีแต่คนรอบข้างนี่แหละค่ะที่คอยให้กำลังใจ คอยบอกเจนว่าอย่าไปอ่าน หรือถ้าบังเอิญอ่านก็อย่าไปใส่ใจสนใจปล่อยให้เขาพิมพ์ไปเถอะ และตัวเราเองก็เอาเวลาตรงนั้นมาใส่ใจคนรอบข้างดีกว่า"

พอจะยกตัวอย่างได้ไหมว่ามีประโยคไหนบ้างที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่า เจ็บที่สุด?

"ก็คือเวลาที่คนมาพิมพ์หรือพูดในทำนองว่าเขารู้เรื่องราวในชีวิตส่วนตัวเรา ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้อะไรเลย และเขาก็ยังมาต่อว่าเรานู่นนี่นั่น ซึ่งถ้าหากเขาเป็นคนที่รู้จักเจนจริงๆ และมาต่อว่าเจน อันนี้เจนจะยังเข้าใจได้ แต่ถ้าหากเป็นคนที่ไม่สนิทกัน และก็มาพูดนั่นพูดนี่เหมือนรู้ อันนี้เจนไม่ชอบเลยค่ะ"

สุดท้ายแล้วฝากผลงานของตัวเองหน่อย มีอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามบ้าง?

"ก่อนอื่นเลย ก็ต้องขอฝากซีรีส์เรื่องใหม่ของเจน THE GIFTED นักเรียนพลังกิฟต์ และเร็วๆ นี้ก็กำลังจะมีผลงานเรื่อง อุบัติรัก ซึ่งใกล้จะเปิดกล้องแล้ว ยังไงก็ต้องขอฝากด้วยนะคะ"