สัมภาษณ์ “โคโนะ เก็นโตะ” ว่าที่หมอหนุ่มอัจฉริยะควบตำแหน่งทนายที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในขณะนี้

สัมภาษณ์ “โคโนะ เก็นโตะ” ว่าที่หมอหนุ่มอัจฉริยะควบตำแหน่งทนายที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในขณะนี้

สัมภาษณ์ “โคโนะ เก็นโตะ” ว่าที่หมอหนุ่มอัจฉริยะควบตำแหน่งทนายที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในขณะนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โคโนะ เก็นโตะ ว่าที่หมอหนุ่มอัจฉริยะควบตำแหน่งทนายที่กำลังฮ็อตสุดๆ ล้มแชมป์เก่ารายการ King of Brain ที่รวมอัจฉริยะทั่วญี่ปุ่นมาแข่งด้วยกันลงได้ในครั้งเดียว

700

คำว่า “อัจฉริยะ” ของเพื่อนๆ หมายถึงอะไรกันบ้าง? หมายถึงคนที่มีความเก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งสุดๆ เหมือนอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ เจ้าของสูตรอันเลื่องลือ E=mc² หรือว่าจะเป็น อลัน ทัวริง บิดาแห่งวิทยาการคอมพิวเตอร์

สำหรับ Sanook! Campus ในวันนี้เราขอนำเสนอ โคโนะ เก็นโตะ นักศึกษาแพทย์ปี 4 มหาวิทยาลัยโตเกียว ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในเรื่องความ “อัจฉริยะ” ของเขาไปทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่นในขณะนี้ เพราะนอกจากเขาจะเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ศึกษาเรื่องกฎหมายจนสามารถสอบผ่านเนติบัณฑิตได้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว (ศึกษาเรื่องกฏหมายเพิ่มเพราะอยากช่วยว่าความให้คนไข้ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดระหว่างเข้ารับการรักษา) ยังโค่นแชมป์ของรายการเฟ้นหาสุดยอดอัจฉริยะในญี่ปุ่นอย่างรายการ King of Brain (頭脳王) ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าแข่งขัน แถมยังเอาชนะไปได้อย่างขาดลอยสุดๆ อีกด้วย

dfrhy7suaaairkr

ตัวอย่างความอัจฉริยะของ โคโนะ เก็นโตะ ก็ไม่มีอะไรมาก สามารถคำนวณค่าลูกบาศก์ 300 กว่าลูกได้ภายในไม่กี่วินาที มองภาพก็ตอบได้ว่าธนบัตรผลิตขึ้นในปีอะไร เนื้อเยื่อไขมันที่เห็นเป็นของสัตว์ชนิดใด คนในภาพเล่นกีฬาชนิดใด คำนวณหาเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมดำ ตอบชื่อภาพ และจิตรกรจากภาพที่เห็น ตอบชื่อสัตว์เป็นภาษาวิทยาศาสตร์จากภาพฟอสซิลหาความหมายของคำจากอักษรมายา ตอบว่าพิษปลาปักเป้าจากการมองดูสูตรเคมี และสามารถตอบชื่อคนที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีได้มากถึง 70 ชื่อ

อ่านมาถึงตรงนี้ คงอยากจะรู้แล้วว่า โคโนะ เก็นโตะ เป็นคนอย่างไร ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้ มีเคล็ดลับในการเรียนอย่างไรถึงจะเก่งได้แบบเขา และเขาคิดอย่างไรกับสเปคของผู้หญิงที่ชอบ และแฟนคลับชาวไทยที่ไปติดตาม social media ของเขาอยู่ มาทำความรู้จักตัวตนของ โคโนะ เก็นโตะ กันให้มากขึ้นเลยดีกว่า

เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนฉลาดตั้งแต่เมื่อไร?

คงจะเป็นตอนที่สามารถสอบผ่านในสิ่งที่คนทั่วไปคิดว่ายาก เช่น สอบคณะแพทยศาสตร์ของมหา’ลัยโตเกียวหรือสอบกฎหมายผ่านล่ะมั้งครับ แต่ผมคิดว่าการเป็นคนเรียนดีกับการเป็นหัวดีมันเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้นผมจะไม่ทำตัวหยิ่งผยองและจะพยายามต่อไปครับ

คิดว่าตัวเองเรียนหนัก หรืออ่านหนังสือหนักกว่าคนอื่นที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันบ้างหรือเปล่า?

ผมไม่คิดว่าผมพยายามเรียนมากกว่าคนอื่นนะครับ ก็อาจจะเรียนมากจริง ๆ นั่นแหละ แต่เพราะสนุกกับการเรียนเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าใช้ความพยายามน่ะครับ เพราะงั้นถ้ามองจากสายตาคนอื่นเขาก็อาจจะคิดว่า “พยายามเรียนขนาดนี้ เก่งจังเลย” ก็ได้ครับ

อะไรคืออุปสรรค หรือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เคยประสบพบเจอมาระหว่างเรียน? ทำอย่างไรถึงก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้นมาได้?

ที่หนักสุด ๆ คงจะเป็นการต่อสู้กับปีศาจแห่งความง่วงนี่แหละครับ ซึ่งผมก็ใช้วิธีจัดการโดยถือคติว่าถ้าง่วงก็จงไปนอน เพราะต่อให้เรียนต่อไปในระหว่างที่ง่วง มันก็ไม่มีประสิทธิภาพน่ะครับ แล้วก็ถ้าก่อนนอนดื่มกาแฟสักเล็กน้อย ตอนตื่นจะตื่นเต็มตามากครับ

djvmvqsv4aag8be

ทราบได้อย่างไรว่าตัวเองเริ่มมีแฟนคลับชาวไทยคอยติดตามอยู่?

รู้จากคอมเมนท์ในทวิตเตอร์ครับ ขอบคุณทุกท่านที่คอมเมนท์กันเข้ามานะครับ! จากนี้ก็จะพยายามโพสในอินสตาแกรมเพื่อให้คนไทยทุกท่านได้เห็นด้วยครับ!

เคยมาเมืองไทยไหม? อยากจะมาหรือเปล่า?

น่าเสียดายที่ไม่เคยไปครับ จากนี้ก็อยากลองไปครับ แล้วก็ไม่แน่ว่าอาจจะได้ไปในเร็ววันนี้ก็ได้ครับ!

รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศไทยบ้างไหม?

ที่จริง เมื่อก่อนเคยเข้าเรียนการนวดแผนไทยในสัมมนาของมหาวิทยาลัยครับ อาจารย์ท่านนี้เคยไปฝึกฝนที่โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ แล้วตอนนี้ก็กลายมาเป็นอาจารย์ต่างชาติคนเดียวและคนแรกในประวัติศาสตร์ครับ ได้ฟังมาจากอาจารย์ท่านนั้นว่าไทยเป็นประเทศที่ดีมากครับ!

ที่ญี่ปุ่น เราต่างก็ทราบกันดีว่าเด็กๆ จะถูกสอนให้ทำตามกฎระเบียบต่างๆ อย่างเคร่งครัด ตอนเด็กๆ พ่อแม่เคยสอนอะไรที่พิเศษแตกต่างไปจากเด็กคนอื่นๆ บ้างไหม?

นี่เป็นแค่ทฤษฎีส่วนตัวของผม แต่ผมคิดว่าโอกาสในการเรียนรู้มีอยู่ทั่วไปครับ ไม่ใช่กับพ่อแม่ แต่มีอยู่ทั้งกับอาจารย์ เพื่อน หนังหรือหนังสือ ทั้งหมดมีอะไรให้เรียนรู้มากมายครับ แล้วทั้งหมดนี้จะให้พ่อแม่สอนให้ตั้งแต่หนึ่งมันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะงั้นผมว่าสิ่งที่ควรได้รับการสอนจากพ่อแม่คือ การเปิดรับและการรับรู้อารมณ์ เพื่อที่จะไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ ต่อไปครับ

ส่วนถ้าพูดถึงเรื่องการเรียน สิ่งสำคัญคือ “ความรู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องสนุก” ไม่ใช่เหรอครับ เป็นเพราะแม่มักจะคอยชมผมในสมัยเด็กที่กำลังแก้โจทย์ ทำให้ผมดีใจเลยอยากแก้โจทย์มากขึ้นไปอีก อีกทั้ง ตอนก่อนสอบพ่อจะไม่พูดว่า “พยายามเข้านะ” แต่จะพูดว่า “ขอให้สนุกนะ” แล้วก็ “เรียนเรื่องนี้แล้วเอาไปใช้ตรงนี้ได้” คอยยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดแบบนี้ครับ ก็ด้วยเพราะการสอนของพ่อแม่อย่างนี้ เลยทำให้ความอยากเรียนรู้และความอยากรู้อยากเห็นได้รับการขัดเกลามาล่ะมั้งครับ

icannotknow_22_8_2018_19_9_16

ช่วยเผยเคล็ดลับในการเรียนให้เป็นอัจฉริยะแบบคุณให้ชาว Sanook! Campus ได้ทราบกันหน่อย

บอกตามตรง ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็น “genius” เลยครับ คิดว่าแค่มีความสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้น่ะครับ ที่สามารถสอบผ่านกฎหมายได้ในระหว่างที่เรียนอยู่คณะแพทย์ ก็เป็นผลลัพท์จากการคำนวณย้อนกลับจากเป้าหมาย กำหนดสิ่งที่ควรทำให้ชัดเจนอยู่เสมอ แล้ววิ่งมุ่งหน้าไปเท่านั้นเองครับ พอทำการ “ตั้งเป้าหมายที่ตัวเองอยากทำให้สำเร็จให้ได้ แล้วคำนวณย้อนกลับมา แล้วก็พยายามมุ่งหน้าเข้าไปหา” แล้วทำซ้ำไปเรื่อย ๆ พอรู้สึกตัวก็คงจะเติบโตขึ้นมากแล้วล่ะครับ ผมคิดว่าความจำเป็นคือสิ่งที่ทำให้คนเราเติบโตครับ แล้วก็ สิ่งสำคัญคือการรู้สึกสนุกไปกับกระบวนการ (เช่นการเรียน) ของความพยายามนั้นครับ

รู้สึกอย่างไรเมื่อได้ทราบข่าวว่าอาหารที่คุณทานอย่างปลาซาบะกระป๋อง ถูกกวาดซื้อเกลี้ยงหมดทั่วทุกร้านในญี่ปุ่น? รู้หรือเปล่าว่าปลาซาบะกระป๋องนี้ผลิตที่ประเทศไทยด้วยนะ

เป็นเรื่องน่าดีใจที่ได้เห็นคนอื่นมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่ตัวเองชอบครับ ประเทศไทยที่ผลิตปลาซาบะกระป๋องมาให้ผม ขอบคุณไม่หวาดไม่ไหวเลยครับ!

คิดว่าความรู้ทางด้านการแพทย์ช่วยในการเรียนกฎหมายบ้างไหม? ในทางกลับกันความรู้ทางด้านกฎหมายช่วยเรื่องการเรียนแพทย์บ้างหรือเปล่า?

ในเรื่องของตัวความรู้นั้น ณ ตอนนี้ระหว่างแพทยศาสตร์กับนิติศาสตร์ยังไม่มีความเกี่ยวข้องกันครับ (ถ้าเริ่มเรียนเรื่องการฟ้องร้องเรื่องการรักษาก็อาจจะเริ่มมีความเกี่ยวข้องกันก็ได้ครับ)

แต่ในด้านมุมมองของวิธีการเรียน เช่น ความสำคัญของความสามารถในการคำนวณย้อนกลับจากเป้าหมาย (โกล) หรือการได้เอาท์พุทผ่านการแก้ปัญหา ก็เกี่ยวข้องกันหลายจุดอยู่นะครับ เพราะงั้นในความหมายนั้นก็มีประโยชน์อยู่นะครับ

คิดว่าความฉลาดขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ หรือพรแสวง?

ผมว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะพรสวรรค์หรือพรแสวงก็สำคัญเหมือนกันทั้งนั้น แล้วก็ถึงจะบอกว่าพยายาม แต่แค่พยายามอย่างหนัก หรือทำให้ได้จำนวนมากๆ มันก็ไม่ใช่นะครับ สิ่งสำคัญคือจำนวนและคุณภาพต้องไปด้วยกันครับ คนที่กำลังเศร้าว่า “อุตส่าห์พยายามไปตั้งขนาดนั้นทำไมถึงไม่เห็นผล” ผมว่าลองมาทบทวนถึงคุณภาพของการเรียนนั้นใหม่ดูก็น่าจะดีนะครับ

gengen_36_22_8_2018_19_8_42_3

การเป็นอัจฉริยะ หรือเป็นนักเรียนเรียนดีมีความหมายอย่างไรกับคุณบ้าง?

ผมคิดว่าการคิดพิจารณาในเรื่องต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งคือความหมายของความฉลาดล่ะมั้งครับ เรื่องนั้นอาจจะเป็นความรู้สึกตอนที่ดูหนัง หรือจะเป็นวิธีคิดให้บรรลุเป้าหมายในเรื่องที่อยากทำ เป็นต้น ความฉลาดแฝงอยู่ในเรื่องราวต่างๆ รอบตัวอย่างนี้แหละครับ

แฟนคลับชาวไทยบอกว่าคุณหน้าตา “น่ารัก” คุณคิดว่าตัวเองหน้าตาดีไหม?

โดยส่วนตัวผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ คิดว่าอยู่ประมาณ “ถ้ามองผ่านแว่นสีที่ชื่อว่านักศึกษาโทได” ก็คงดีกว่ามาตรฐานนิดนึงล่ะมั้งครับ แต่การได้รับคำชมอย่างนั้นผมก็ดีใจมากนะครับ ขอบคุณจริงๆ ครับ

c8fl0vpvqaajjqn

ผู้หญิงในสเปคของ โคโนะ เก็นโตะ เป็นอย่างไรบ้าง? จำเป็นต้องฉลาดด้วยหรือเปล่า?

ถ้าให้พูดถึง “อุดมคติ”

  • ถ้าน่ารักได้ก็อยากได้คนน่ารักมาก
  • ถ้านิสัยดีก็อยากได้นิสัยดีมากๆ
  • ถ้าฉลาดก็อยากได้ฉลาดมากๆ

แต่ถ้าบอกอย่างนั้นมันก็ไม่ดูไม่ค่อยอยู่กับ “ความเป็นจริง” สักเท่าไหร่ เพราะงั้นปัจจัย 3 ข้อด้านบนนั้น

  • ถ้าผมคิดว่าน่ารักก็โอเค
  • ถึงจะมีนิสัยที่ไม่ดีบ้าง แต่ถ้ามีความว่านอนสอนง่ายที่จะยอมแก้ไขหากถูกตักเตือน ก็โอเค หรือก็คือ ผมคิดว่าไม่ต้องคบกับคนที่ดีที่สุดก็ได้ แค่ทำคนที่เราคบอยู่ให้เป็นคนที่ดีที่สุดก็พอ
  • ขอให้มีสติปัญญาพอที่จะพิจารณาเรื่องราวด้วยหลักตรรกะ ไม่เอาแต่อารมณ์ในสถานการณ์ตอนทะเลาะกันอะไรแบบนี้ แล้วก็ อยากให้พอจะเรียนเก่งในระดับที่ไม่โดนเด็กดูถูก (อย่างคำนวณเศษส่วนไม่เป็น อ่านภาษาอังกฤษระดับ ม.ต้นไม่ออก เป็นต้น เรื่องพวกนี้มันอาจส่งผลกระทบต่อลูกด้วย เพราะงั้นไม่เอาครับ)

ในอนาคตอยากเป็นอะไรอีก? นอกจากการเป็นหมอ หรือทนาย

ที่ผมคิดอยากเป็นทนายความที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็เพราะ “ตัวเองรู้สึกสนุก และสามารถใช้จุดแข็งของตัวเองเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นได้” ครับ หรือก็คือ อะไรที่สามารถเติมเต็มเหตุผลนี้ได้ก็อยากทำสิ่งนั้นครับ ถ้าพูดให้ละเอียดก็คือ อุตส่าห์ได้อยู่ในจุดที่นักเรียนเตรียมสอบหลายคนมองผมอยู่ ก็อยากทำอะไรที่สามารถเป็นกำลังให้นักเรียนเตรียมสอบเหล่านั้นได้ครับ! แล้วก็ สำหรับในเรื่องนี้ ผมได้มีโอกาสออกหนังสือเรียนด้วยครับ! ใส่ความรู้ Know-how ที่เกี่ยวกับการเรียนของผมเข้าไปเต็มเลยครับ! ต้องขอโทษด้วยที่ ณ ตอนนี้ยังมีแค่ฉบับภาษาญี่ปุ่น แต่สำหรับท่านที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออกก็ลองหาอ่านดูนะครับ!

konogento

คลิกเพื่อสั่งซื้อหนังสือของ โคโนะ เก็นโตะ ผ่านเว็บไซต์ Amazon Japan

อัลบั้มภาพ 34 ภาพ

อัลบั้มภาพ 34 ภาพ ของ สัมภาษณ์ “โคโนะ เก็นโตะ” ว่าที่หมอหนุ่มอัจฉริยะควบตำแหน่งทนายที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในขณะนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook