ถึงขั้นวิกฤต โดนหุ่นยนต์แย่งงาน แนวโน้มเด็กไทยรุ่นใหม่จบมาจะตกงานถึง 72%
ถ้าไม่ปรับตัว เปลี่ยนแปลง ระบบการศึกษาไทยอาจจะตายได้ในไม่ช้านี้ ถึงขั้นวิกฤต โดนหุ่นยนต์แย่งงาน แนวโน้มเด็กไทยรุ่นใหม่จบมาจะตกงานถึง 72%
จากการใช้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายประเทศไทย 4.0 นั้น ทำให้การศึกษาไทยทุกระดับต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทั้งกระบวนการความคิด การสอน เพราะถ้าสอนแบบเดิมๆ จะไม่ตอบโจทย์ข้างหน้า เพราะข้อมูลจากธนาคารโลกได้เผยว่า แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 นั้น เด็กไทยที่เรียนจบจะตกงานถึง 72% เลยทีเดียว
สาเหตุนั้นมาจากการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ซึ่งประเทศไทยเราถูกแทนที่ด้วย AI ประมาณ 50% ยุโรปอยู่ที่ 80% โดยต่อไปนี้ความรู้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะความรู้ล้าสมัยได้ สิ่งที่สำคัญคือการศึกษาและปรับตัวและเปลี่ยนแปลงให้ทัน เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้นมาเร็วและครอบคลุมมากๆ
ซึ่งความน่ากลัวของ AI นั้นจะเข้ามาแทนอาชีพบางอาชีพ อย่างอาชีพสถานประกอบการ ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เรียกว่าน่ากลัวที่เด็กสมัยใหม่ต้องเจอ เพราะไม่รู้ว่าเรียนจบไปแล้วจะไปทำงานอะไร เพราะว่าในตอนนี้บางบริษัทรับสมัครงานโดยไม่สนใบปริญญา และต้องมาเจอกับปัญหา AI ที่มาแย่งงานอีก ดังนั้นถ้าระบบการสอนไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเหมือนเดิมก็คงจะไม่มีงานทำมากกว่าเดิม
นอกจากนั้นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ไกลตัวอย่างที่คิดนั่นก็คือการปิดตัวของมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาที่ปิดตัวไปแล้วกว่า 500-600 แห่ง จาก 4,400 แห่ง และมีแนวโน้มว่า 10 ปีข้างหน้าจะปิดตัวลงถึง 50% เพราะเด็กหันมาเรียนทางออนไลน์กันหมด และในประเทศไทยเด็กปี 1 ทุกมหาวิทยาลัยก็ลดลงถึง 70% ยังมีแนวโน้มว่าบางคณะก็อาจจะถูกปิดถูกยุบเพราะมีนักศึกษาน้อยเช่นกัน
การปรับเปลี่ยนการศึกษาไทยนั้นต้องเปลี่ยนจากครูเป็นโค้ช การเรียนต้องเรียนจากการทำงาน เรียนจากประสบการณ์จริง ต้องดึงศักยภาพของเด็กออกมาให้ได้ อยากสอนแบบเหมารวมเพราะว่าเด็กแต่ละคนมีศักยภาพไม่เหมือนกันจะให้สอนแบบเดียวกันไม่ได้ รวมไปถึงต้องปฏิรูปการศึกษาให้ทันสมัยเรียนแบบคณะต้องหายไป ต้องเรียนร่วมให้มากขึ้น เพื่อสร้างเด็กที่มีคุณภาพตอบโจทย์ประเทศที่กำลังเปลี่ยนแปลงนั่นเอง