แต่งตัวแบบ เจมส์ ธีรดนย์ คือหยิบเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่...แล้วจะทำไมล่ะ?

ถ้าจะว่ากันด้วย นักแสดงวัยรุ่นที่แต่งตัวจัดจ้านมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองและไม่เหมือนใครก็คงต้องยกให้ เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ หนุ่มตี๋หน้าทะเล้นคนนี้กันไปเลย เพราะสไตล์ของเขาเรียกว่าจัดจ้านแจ่มว้าวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปซะแล้ว แต่ถ้าเราจะกะเทาะเปลือกเข้าไปถึงตัวตนของหนุ่ม เจมส์ ธีรดนย์ บอกเลยว่าข้างในผู้ชายที่แต่งตัวจัดแฟชั่นจ๋าขนาดนี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกสนใจเขามากขึ้นจริงๆ

ซึ่งในครั้งนี้ทาง Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสที่ได้เข้าไปพูดคุยกับ เจมส์ ธีรดนย์ หนุ่มตี๋หน้ากวนกันแบบเป็นการส่วนตัว และได้รู้จักกับอีกมุมมองหนึ่งของผู้ชายคนนี้ ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เรามาทำความรู้จักหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้นไปพร้อมๆ กันเลย

ถ้าจะให้อธิบายถึงสไตล์การแต่งตัวของ เจมส์ ธีรดนย์ สามารถระบุได้ไหมว่าเป็นแบบไหน?

"สไตล์ของผมก็คือ เอ่อ...แต่งตามใจตัวเองครับ แน่นอนมันก็ต้องมีแฟชั่นในเวลานั้นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ว่ามันจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่ผมจะตามใจตัวเองเป็นหลักมากกว่า ซึ่งการแต่งตัวตามใจตัวเองของผมในบางครั้ง มันก็มีบางคนที่เขาไม่เข้าใจเหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย อย่างเช่น ผมชอบหยิบของผู้หญิงมาใส่ หรือ ใส่เครื่องประดับที่เป็นของผู้หญิง อะไรทำนองนี้ครับ"

"ถามว่าทำไมผมถึงเลือกหยิบของผู้หญิงมาใส่ เหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ มันสวย และผู้ชายก็น่าจะใส่ได้เหมือนกัน ผมไม่เคยมองว่ามันแปลก เพราะเอาจริงๆ เครื่องประดับมันก็คือเครื่องประดับ และบางชิ้นมันก็คงไม่ได้ทำมาแค่ให้ผู้หญิงใส่อย่างเดียวหรอก มันอยู่ที่เรามากกว่าว่าเราจะหยิบมาใส่หรือเปล่า ซึ่งปกติแล้วของที่ผมหยิบมาใส่ก็จะมี สร้อย ต่างหู เสื้อ กางเกง และรองเท้า เอาจริงๆ นะบางทีผมใส่ไซส์ผู้หญิงสวยกว่าใส่ไซส์ผู้ชายอีก เพราะผมค่อนข้างที่จะตัวเล็ก"

เครื่องประดับชิ้นไหนบ้างที่เรารู้สึกว่าขาดไม่ได้ ต้องใส่ตลอด?

"ต่างหูครับ เพราะถ้าหากไม่ได้ใส่แล้วมันจะรู้สึกไม่ชินหน้าตัวเอง มันจะดูเหวอๆ ไปเลย ซึ่งเริ่มแรกผมก็ไม่ได้ใส่หรอกนะ แต่ว่าพอได้ใส่แล้วมันก็เริ่มติด ไม่ใส่ไม่ได้ ส่วนเรื่องสไตล์ของต่างหูจริงๆ ก็...แล้วแต่เลยครับ คือผมจะมองลักษณะของงานเป็นหลักมากกว่า หรือถ้าหากเป็นวันธรรมดาผมก็อาจจะใส่แบบเป็นห่วงๆ และเอาหลายๆ คู่มามิกซ์กัน"

"ถามว่าทางบ้านว่ายังไงบ้างเรื่องการเจาะหู จริงๆ เขาก็ไม่ได้อยากให้เจาะหรอกครับ แต่พอเราโตขึ้น เราก็มีทางของตัวเอง ก็เลยได้คุยกันอธิบายกันว่ามันเป็นทางที่เราชอบจริงๆ ซึ่งเร็วๆ นี้ผมก็มีแพลนด้วยว่าอยากจะเจาะเพิ่ม เจาะแบบ 2 ข้างไม่เหมือนกัน"

เห็นว่าเราเองก็สนิทกับ โทนี่ รากแก่น ด้วยเหมือนกัน คนนั้นเขาเป็นตัวพ่อเรื่องแฟชั่นเลย?

"ใช่ครับ เรามาสนิทตอนที่ได้ถ่ายละครด้วยกัน จำได้เลยว่าช่วงนั้นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แถมยังเคยมีข่าวว่าผมกับพี่เขาเป็นคู่เกย์กันอีก บ้ามาก (หัวเราะ) แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่จะทักแชทคุยกันมากกว่า ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องแฟชั่นของพี่โทนี่ คือต้องบอกเลยว่าพี่เขาสุดจริงๆ และตัวผมเองก็ได้สไตล์จากพี่เขามาบ้างเป็นบางอย่าง เพราะเอาตรงๆ สไตล์เราก็ไม่ได้เหมือนกันสักเท่าไหร่ และผมก็มีแนวที่ผมชอบอยู่แล้ว เป็นแนวเลื่อมๆ ปักเลื่อม หรือเสื้อผู้หญิงของชาแนล ใส่รองเท้าส้นสูงของผู้ชาย ซึ่งพี่โทนี่เขาก็จะไม่ค่อยได้แต่งแนวเดียวกับผมครับ"

แล้วแฟชั่นแบบไหนล่ะที่เราจะไม่มีวันแตะ หรือเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงให้ถึงที่สุด?

"มีครับ เป็นชุดที่ผมใส่เร็วๆ นี้แล้วรู้สึกเฟลมาก คือมันเป็นลุคที่ดูเนี๊ยบ เสื้อผ้า ทรงผม ทุกอย่างเนี๊ยบหมด แถมยังต้องถอดต่างหูอีก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ฝืนมาก ผมไม่ชอบเลย และก็คิดกับตัวเองว่าจะไม่แต่งแบบนั้นอีก เพราะผมไม่ค่อยชอบอะไรที่มันดูเป็นทางการ เนื่องจากผมเองก็ยังมีความซ่าในแบบของผม มีเครื่องประดับที่ผมชอบ แบบนั้นมันจะดูเป็นตัวผมเองมากกว่า"

ปกติแล้วเราซื้อเสื้อผ้าที่ไหน จำเป็นไหมว่าจะต้องขึ้นห้างตลอด?

"ไม่นะครับ ผมแล้วแต่ความชอบมากกว่า คือเห็นแล้วถูกใจก็ซื้อ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตามเว็บไซต์และก็ตามช้อปต่างๆ นี่แหละ ซึ่งแบรนด์ที่ผมชอบที่สุดก็คือชาแนล คือมันเริ่มต้นมาจากเครื่องสำอาง ผมชอบกลิ่นของบรอนเซอร์ จากนั้นผมก็ลองไปเรื่อยๆ ลองไปดมครีมของเขาก็หอมเหมือนกันอีก และกลายเป็นว่าใช้มาตลอด สุดท้ายมันก็ลามไปถึงเครื่องประดับและเสื้อผ้า (หัวเราะ) เจ็บไปเยอะอยู่เหมือนกันครับ อย่างเสื้อตัวที่แพงสุดที่ซื้อมา ก็คือราคา 200,000 บาท ใส่แล้วด้วยนะ ใส่ในวันแถลงข่าวละครเรื่อง เลือดข้นคนจาง ส่วนค่าสกินแคร์ก็ตกแล้วครั้งละ 30,000 บาท เป็นชาแนลทั้งหมดเลย"

เรามีคำแนะนำให้กับน้องๆ ที่เขาอยากจะเริ่มต้นแต่งตัว แต่ไม่รู้ว่าจะแต่งยังไงไหม?

"ผมมองว่าคำว่าแฟชั่นมันไม่จำเป็นต้องแพง เพราะผมก็ไม่ได้แต่งชาแนลตลอดเวลา คือเราตามแฟชั่นได้ครับ แต่มันก็ต้องถามความรู้สึกเราด้วยว่า เราแต่งแบบไหนแล้วเรารู้สึกมั่นใจ หรือเราแต่งแบบไหนแล้วรู้สึกสนุก แต่ถ้าหากเราอยากซื้อของแพงจริงๆ เราก็ต้องมั่นใจด้วยว่าเราไม่ได้เดือดร้อน เพราะแฟชั่นมันมิกซ์ได้"