ชู๊ต เชิดชนินทร์ น้องชาย เชียร์ ฑิฆัมพร เข้าวงการบันเทิงเพราะเคยช่วยให้กำลังใจครอบครัวคนเป็นมะเร็ง

ชู๊ต เชิดชนินทร์ น้องชาย เชียร์ ฑิฆัมพร เข้าวงการบันเทิงเพราะเคยช่วยให้กำลังใจครอบครัวคนเป็นมะเร็ง

ชู๊ต เชิดชนินทร์ น้องชาย เชียร์ ฑิฆัมพร เข้าวงการบันเทิงเพราะเคยช่วยให้กำลังใจครอบครัวคนเป็นมะเร็ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าจะกล่าวถึง ชู๊ต เชิดชนินทร์ ฤทธิ์ธาอภินันท์ น้องชายสุดหวงของ เชียร์ ฑิฆัมพร แล้วสิ่งแรกที่เราจะบรรยายคือ ความพูดมาก พูดเยอะ พูดไม่ยอมหยุดจริงๆ สำหรับหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ ที่ขณะที่เรานั่งสัมภาษณ์และคุยกับหนุ่มคนนี้เรารู้สึกได้เลยถึงพลังงานบวก ที่เขาส่งมาให้ในห้องสัมภาษณ์ได้อย่างหนักแน่น รอยยิ้มจริงใจกับคำพูดที่ฉะฉานของเขาทำให้การสัมภาษณ์ในครั้งนี้เป็นไปได้อย่างสนุกและเป็นกันเองอย่างมาก

ถ้าจะว่าไป สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนว่า ชู๊ต เหมือนกับพี่สาวตรงไหน ก็คงจะเป็นความจริงใจและบ้าๆ บอๆ ไม่ห่วงลุคตัวเองนี่แหละ ซึ่งทาง Sanook! Campus อยากจะให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสถึงมุมที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับเขาคนนี้กันมากนัก ชู๊ต เดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์อย่างยิ้มแย้ม พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะกล่าวแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

"สวัสดีครับผมชื่อว่าชู๊ตครับ สำหรับบทบาทของชู๊ตในซีรีส์เรื่องนี้ ชู๊ตรับบทเป็น แอลครับ ซึ่งตัวละครนี้จะมีลักษณะเป็นผู้ชายอารมณ์ดี แต่ก็จะมีความลึกลับบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ถามว่าตัวละครนี้กับตัวตนในชีวิตจริงของชู๊ตแตกต่างกันไหม เอ่อ... ถ้าหากเป็นในเรื่องความคิดหรือลักษณะนิสัยก็ไม่ค่อยต่างครับ เพราะเราเป็นคนอารมณ์ดีเหมือนกัน แต่อาจจะต่างกันตรงที่แอลเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ผิดกับชู๊ตที่เป็นคนพูดมาก (หัวเราะ)"

44618601_492926074535446_2643

ความสัมพันธ์ของเรากับ พี่เชียร์ ฑิฆัมพร สนิทสนมกันมากขนาดไหน ?

"สนิทกันครับ สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง"

เพราะอะไรเราถึงเพิ่งจะตัดสินใจเข้ามาทำงานในวงการ ทั้งๆ ที่เราน่าจะมีโอกาสเข้ามาได้ตั้งนานแล้ว ?

"อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมา ชู๊ตหนีมันมาตลอดด้วยมั้งครับ เพราะก่อนหน้านี้ชู๊ตรู้สึกว่าชุดไม่อยากทำ คือไม่อยากจะทำงานตรงนี้เลย เนื่องจากชู๊ตเห็นมาตลอดว่าการทำงานของพี่สาวเป็นอย่างไร ถึงแม้เบื้องหน้ามันอาจจะดูสวยงาม แต่เบื้องหลังมันก็มีความกดดันและความเหนื่อยค่อนข้างสูง ซึ่งมันต้องแลกกับอะไรหลายๆ อย่างด้วย"

"แต่เหตุผลที่ทำให้ชู๊ตเปลี่ยนความคิด ก็คือมีพี่คนหนึ่งที่เขาดูไลฟ์ของชู๊ตอยู่บ่อยๆ เขามาบอกกับชู๊ตว่า การที่ได้เห็นซู๊ตหรือฟังชู๊ตพูด มันเหมือนทำให้เขาได้พักผ่อน ซึ่งตอนแรกชู๊คก็งงว่าทำไมเขาไม่ไปนอนหรือทำอย่างอื่นแทน แต่พอสุดท้ายชู๊ตมาทราบว่า ช่วงนั้นแฟนของพี่เขาป่วยเป็นมะเร็ง และการที่เขาได้มาฟังชู๊ตพูดผ่านไลฟ์ มันเหมือนทำให้พี่เขาได้ลืมเรื่องเครียดๆ ไปบ้าง ชู๊ตก็เลยรู้สึกว่า มันก็ดีเหมือนกันนะที่การที่เราเป็นตัวเอง มันก็สามารถช่วยให้คนอื่นเขามีกำลังใจในการสู้อะไรต่อไปได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ชู๊ตเปลี่ยนใจ และอยากจะลองทำงานในวงการนี้ดู เผื่อว่าเราจะสามารถเป็นกำลังใจ หรือเป็นแรงผลักดันให้กับคนอื่นๆ ได้อีก"

22220694_516853608664790_3154

สำหรับการแสดงของเราในซีรีส์เรื่องนี้ เราถือว่าตัวเราเองได้เปรียบไหม เพราะเรามีพี่สาวที่เป็นนักแสดงคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว ?

"ไม่นะครับ ชู๊ตมองว่ามันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า ถึงแม้พี่สาวเราจะเก่ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถเก่งได้เท่าเขา เพราะชู๊ตเองก็ยังใหม่เหมือนกับทุกคน ชู๊ตจึงมองว่ามันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า"

แบบนี้ตัวเราเองจะมีความกดดันไหม เพราะคนอาจจะคาดหวังในตัวเราสูง ?

"ชู๊ตไม่กดดันเลยครับ คือพยายามจะไม่กดดันเรื่องความคาดหวังของคนอื่น หรือแม้กระทั่งเรื่องที่คนอื่นเอาชู๊ตไปเปรียบเทียบกับพี่เชียร์ เพราะว่าพี่เชียร์ก็คือพี่เชียร์ ชู๊ตก็คือชู๊ต เราคือคนละคนกัน ดังนั้นหากชู๊ตจะทำไม่ได้เท่าพี่เชียร์ มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ชู๊ตก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด"

44649026_352083515354419_5991

ชู๊ตคิดว่าสิ่งไหนในตัวชู๊ต ที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเรา ?

"น่าจะเป็นเรื่องการมองโลกในแง่ดีครับ และก็ทำให้ทุกคนรอบข้างมีความสุข เพราะชู๊ตไม่อยากเห็นคนรอบข้างเศร้า"

ฉายาประจำตัวของเราคืออะไร ?

"เรื่องฉายา จริงๆ มันไม่มีอะไรที่เป็นคำเฉพาะ หรือเป็นชิ้นเป็นอันเลยนะครับ เพราะเหมือนเพื่อนๆ เขาจะเรียกไปเรื่อย มากกว่าไม่เหมือนกันสักวัน (หัวเราะ)"

ความฝันที่ชู๊ตอยากจะทำให้เป็นจริงคือเรื่องอะไร ?

"ชู๊ตอยากไปดูแสงเหนือครับ และก็ไปเที่ยวรอบโลก ไปดูอะไรใหม่ๆ อยากไปเที่ยวชมตามแลนด์มาร์กในเมืองต่างๆ ไปในที่ที่คนไม่เคยไป น่าจะเป็นอะไรที่สนุกดีครับ"

นิยามความเป็นชู๊ตคืออะไร ถ้าทุกคนได้ยินแล้วจะต้องนึกถึงชู๊ตทันที ?

"พูดมากครับ (หัวเราะ) ไม่เอาดีกว่า เปลี่ยนๆ เอาเป็นว่า...เรื่องเสียงหัวเราะก็แล้วกัน เพราะชู๊ตชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น"

37565327_1834300703313169_422

ข้อมูลส่วนตัวไหนของชู๊ตบ้าง ที่เราคิดว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ ?

"น่าจะเป็นเรื่องการเล่นดนตรีไทยมั้งครับ เพราะตอนเด็กๆ ช่วงประถม ชู๊ตเคยเล่นซออู้กับเป่าขลุ่ย แต่พอไม่ได้จับนานๆ มันก็เริ่มลืมไปแล้วบ้างเหมือนกัน"

วิชาเรียนไหนบ้างที่ชู๊ตชอบ และวิชาไหนบ้างที่ชู๊ตไม่ชอบ เพราะอะไร ?

"ชู๊ตชอบวิชาภาษาอังกฤษที่สุด คือชอบแต่ว่าไม่เก่งนะครับ (หัวเราะ) วิชาที่ไม่ชอบเลยก็คือวิชาฟิสิกส์ เพราะเรียนไม่รู้เรื่องเลย ถึงแม้ชู๊ตจะเรียนวิทย์คณิต แต่วิชาฟิสิกส์ชู๊ตไม่เคยผ่านเลย ต้องใช้คำว่าโง่มาก (หัวเราะ) ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่า ทำไมตัวเองเรียนแล้วถึงไม่เข้าใจ แปลกมาก พยายามแล้วด้วยนะแต่มันทำไม่ได้จริงๆ"

ซ่าขนาดนี้ เคยมีวีรกรรมเด็ดๆ ในสมัยเรียนไหม ที่ยังจำไม่ลืม ?

"ถ้าทำแบบคนเดียวไม่มีนะครับ ปกติจะทำร่วมกับเพื่อนมากกว่า คือด้วยความที่ชู๊ตเรียนโรงเรียนชายล้วน เวลาแกล้งกันเราก็จะแกล้งกันแรงๆ ยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่ง ก็คือว่าในห้องเรียนชู๊ตจะมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าเทียน ชู๊ตกับเพื่อนๆ ก็เลยจับเทียนนั่งบนเก้าอี้แล้วมัดไว้ จากนั้นจึงยก เขาวนรอบโรงอาหาร แล้วก็ตะโกนบอกว่า แห่เทียน แห่เทียน (หัวเราะ) ก็น่าจะเป็นประมาณนี้แหละครับ แต่เทียนเขาก็ไม่ได้โกรธนะเขาก็หัวเราะด้วย เพราะเราเล่นกันแบบนี้อยู่แล้ว"

ชู๊ตคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตในวัยเรียนของเราคืออะไร ?

"ก็คงต้องเป็นเพื่อนครับ เพราะชู๊ตได้เจอแต่เพื่อนดีๆ เพื่อนที่ให้ความช่วยเหลือกันตลอด ชู๊ตจึงรู้สึกว่าชู๊ตโชคดีมากที่ได้เจอกับเพื่อนๆ แบบนี้"

44628823_182870372622132_7272

สิ่งไหนบ้างที่ทำให้ชู๊ตรู้สึกว่ามีความสุขมากที่สุดในช่วงนี้ ?

"ก็น่าจะเป็นการที่ชู๊ตเริ่มมีรายได้เข้ามา และชู๊ตสามารถพาคุณพ่อคุณแม่ไปทานข้าวได้ รวมถึงสามารถดูแลตัวเองได้ ซึ่งมันก็อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกเป็นห่วงเราน้อยลง และมั่นใจในตัวเรามากขึ้นว่าเราสามารถรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้"

3 สิ่งในชีวิต ที่ชู๊ตต้องพกติดตัวตลอดเวลาและห้ามขาดเด็ดขาด คืออะไร ?

"โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ แล้วก็กุญแจรถ"

ถ้าหากว่าพรุ่งนี้ได้สิทธิ์ไปเที่ยวต่างประเทศหนึ่งที่ เราจะไปที่ไหน ?

"ไปไอซ์แลนด์แน่นอนครับ ชู๊ตจะไปดูแสงเหนือ (หัวเราะ)"

42422313_249796519065309_7406

หากว่ามีโอกาสได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่สักหนึ่งตัวเราอยากจะเป็นใคร ?

"อยากเป็น Iron Man ครับ เพราะว่ารวยแล้วเดี๋ยวชุดจะบินไปดูแสงเหนือด้วย (หัวเราะ)"

สมมุติว่าทุกวันนี้เราไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง ชู๊ตคิดว่าตัวเองจะกำลังทำอะไรอยู่ ?

"คงจะเป็นสจ๊วตมั้งครับ ถามว่าเพราะอะไรถึงอยากเป็นสจ๊วต ก็คงเพราะจะได้ไปเที่ยวด้วยมั้งครับ อารมณ์แบบว่าเสร็จงานแล้วก็ไปเที่ยวต่อ (ยิ้ม)"

สุดท้ายแล้วอยากให้ชู๊ตฝากผลงานของเราหน่อย ตอนนี้มีอะไรบ้าง ?

"แน่นอนเลยครับ ตอนนี้ก็ต้องขอฝากซีรีส์เรื่องนี้ด้วย My Dream The Series นายในฝัน ซีรีส์ที่จะทำให้ฝันร้าย กลายเป็นฝันร้าย เจอกันแน่นอนครับผม"

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ ชู๊ต เชิดชนินทร์ น้องชาย เชียร์ ฑิฆัมพร เข้าวงการบันเทิงเพราะเคยช่วยให้กำลังใจครอบครัวคนเป็นมะเร็ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook