ถือว่าอันดับใช้ได้ ประเทศไทยติดอันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย 19 แห่ง!

ถือว่าอันดับใช้ได้ ประเทศไทยติดอันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย 19 แห่ง!

ถือว่าอันดับใช้ได้ ประเทศไทยติดอันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย 19 แห่ง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทาง QS University Rankings ได้ประกาศผลม หาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2019 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในปีนี้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเราได้ติดอันดับถึง 19 แห่ง นำโดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดอันดับที่ 44, มหาวิทยาลัยมหิดล ติดดันดับ 52 ส่วน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ติดอันดับ 96

โดย 10 อันดับแรกของประเทศไทยได้แก่

screenshot_2018-10-29qsuniv

  1. อันดับ 44 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  2. อันดับ 52 มหาวิทยาลัยมหิดล
  3. อันดับ 96 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  4. อันดับ 108 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  5. อันดับ 130 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  6. อันดับ 148 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  7. อันดับ 153 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  8. อันดับ 156 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  9. อันดับ 251-260 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
  10. อันดับ 291-300 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ส่วนมหาวิทยาลัยที่ติดมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย 10 อันดับแรกได้แก่

screenshot_2018-10-29qsuniv_1

  1. National University of Singapore (NUS) (สิงคโปร์)
  2. The University of Hong Kong (ฮ่องกง)
  3. Nanyang Technological University, Singapore (NTU) (สิงคโปร์)
  4. Tsinghua University (จีน)
  5. Peking University (จีน)
  6. Fudan University LogoFudan University (จีน)
  7. The Hong Kong University of Science and Technology (ฮ่องกง)
  8. KAIST - Korea Advanced Institute of Science & Technology (เกาหลีใต้)
  9. The Chinese University of Hong Kong (CUHK) (ฮ่องกง)
  10. Seoul National University (เกาหลีใต้)

ตัวชี้วัดประกอบด้วย 1.Academic Reputation 30% 2.Employer Reputation 20% 3.Faculty Student 10% 4.Staff with PhD 5% 5.Papers per Faculty 5% 6.Citations per Paper 10% 7.International Faculty 2.5% 8.International Students 2.5% 9.Inbound Exchange 2.5% 10.Outbound Exchange 2.5% และ 11.International Research Network 10% จากคะแนนเต็ม 100% ซึ่งในปีนี้ QS Asia University Rankings ได้เพิ่มตัวชี้วัดอีก 1 ตัวชี้วัด คือ International Research Network โดยการใช้ข้อมูลจากการตีพิมพ์ร่วมกับนักวิจัยชาวต่างประเทศในฐานข้อมูล Scopus

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook