จะต้องฝันสักเท่าไร... เปิดความฝันและตัวตนจริงๆ ของ เค้ก-มายยู-แนทเธอรีน-วี BNK48

สำหรับสาวๆ วง BNK48 แล้วหลายๆ คนคงจะนึกถึงความสดใสความน่ารักที่พวกเธอส่งต่อมาให้กับแฟนๆ ผ่านผลงานของพวกเธอ แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความเป็นไอดอลที่อยู่เบื้องหน้านั้น พวกเธอก็เป็นแค่เด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่วิ่งไล่ตามความฝันของตัวเอง และอยากที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแค่นั้น

เราเชื่อว่าหลายๆ คนรวมไปถึงเหล่าโอตะอาจจะรู้จักและหลงรักพวกเธอมาจากมุมมองการเป็นไอดอล แต่ในครั้งนี้ Sanook! Campus เราจะเสนอมุมมองความเป็นตัวตนของสาวๆ BNK48 ทั้ง 4 คน ได้แก่ เค้ก-มายยู-แนทเธอรีน และ วี นั่นเอง เรามาลองมองมุมมองของทั้ง 4 คนนี้ ผ่านความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ มุมมองของ BNK48 ซะหน่อย เราเชื่อว่ามันจะทำให้เราหลงรักพวกเธอมากขึ้นกันอย่างแน่นอน

เราเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ซึ่งเหล่าน้องๆ นั่งรออยู่แล้ว พอเดินเข้าไป น้องๆ ก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พร้อมยกมือไหว้ทักทายเราอย่างพร้อมเพรียง "สวัสดีค่ะ พวกเรา BNK48 เค้กค่ะ มายยูค่ะ แนทเธอรีนค่ะ วีค่ะ" ตามสไตล์ไอดอลแบบสวยๆ เรานั่งลงคุยกับน้องๆ ทั้ง 4 สักครู่เพื่อละลายพฤติกรรมเพื่อจะได้คุยกันได้อย่างสนุก ก่อนที่เราจะเริ่มถามคำถามอย่างเป็นงานเป็นการ "พี่ขอคำตอบที่มาจากมุมมองตัวตนของเรานะ ไม่ใช่มุมมองจาก ตัวเราที่เป็น BNK48" น้องๆ หลังจากที่คุยกันสักครู่ก่อนหน้านี้ ก็เริ่มชินกับการคุยกับเราแล้วก็ตอบกันอย่างพร้อมเพรียง "ได้เลยค่ะ" ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมหยิบแก้วน้ำมาจิบเติมพลังหลังจากที่คุยกันอย่างออกรส "เอาล่ะเริ่มละนะ" เราพูด ขณะที่จะเริ่มเข้าเรื่อง

เราเชื่อว่า ทุกๆ คนมีความฝันเป็นของตัวเองซึ่งในคือการประสบความสำเร็จในฐานะไอดอล แต่ความสุขของการที่ได้เป็นตัวเองแต่ละคนมันคืออะไรกันหรอ?

เค้ก - ก็คือการที่เค้กได้เป็นเค้ก ไม่ได้ฝืนตัวเองเพื่อจะเป็นใครคนใดคนหนึ่ง เป็นเค้กที่มีความเป็นตัวเอง มีแค่คนเดียวในโลกที่มีนิสัยแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ เพราะเค้กเชื่อว่าหลายๆ คนก็น่าจะรักเค้กที่เป็นตัวของเค้กเอง ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ตัวเองหรือปั้นตัวเองเพื่อให้ใครมาชอบ

มายยู - หนูรู้สึกว่าตั้งแต่หนูได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในจุดนี้ หนูก็เริ่มเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมากขึ้น และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปเรื่อยๆ หนูก็เลยรู้สึกว่าอยากที่จะเก็บข้อดีข้อนี้ของตัวเองเอาไว้ แต่ก็ไม่อยากจะกดดันตัวเองมากเกินไป จนทำให้มันกลายเป็นความเครียด และทำให้เรากลายเป็นคนที่ทำงานไม่มีความสุข ซึ่งก่อนที่หนูจะมาอยู่จุดนี้ หนูก็เคยคิดนะคะว่าการที่เรามาทำงานตรงนี้เราต้องเป็นคนที่น่ารัก แต่พอได้ลองทำดูจริงๆ แล้วหนูกลับรู้สึกว่าสิ่งที่หนูเคยคิด มันอาจจะเป็นสิ่งที่ฝืนตัวเองมากเกินไป หนูก็เลยคิดว่าการที่เราเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ มันน่าจะดีกว่าการที่เราฝืนเป็นคนอื่น เพื่อให้มีคนมาชอบเรา

แนทเธอรีน - หนูคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นตัวหนูน่าจะเป็นการตั้งเป้าและพุ่งชนค่ะ เพราะว่าหนูเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรเลย นอกจากสิ่งที่หนูต้องการ คือถ้าหากหนูมีความต้องการอะไรแล้ว หนูก็จะตั้งเป้าหมายไปที่สิ่งนั้นและพุ่งชนไปที่มันอย่างเดียว ต่อให้หนูพุ่งชนแล้วหนูต้องเจ็บ หรือหนูต้องล้มลงกลางทาง แต่หนูก็จะลุกขึ้นมาใหม่แล้ววิ่งพุ่งชนไปที่มันอีก ต่อให้ต้องชนเป็นพันครั้งหรือหมื่นครั้ง หนูก็จะชนจนกว่าหนูจะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งหนูคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดในตัวหนู

วี - แน่นอนเลยค่ะก็ต้องคือการเป็นตัวของตัวเอง หนูอยากจะเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งแฟนคลับหลายๆ คนก็ชมว่าการที่หนูเป็นตัวของตัวเองนั้นน่ารักอยู่แล้ว หนูก็เลยค่อนข้างประทับใจที่แฟนคลับชื่นชอบที่เราเป็นเรา ใช้ชีวิตแบบสบายๆ และเป็นตัวของตัวเองแค่นั้นก็พอ

แน่นอนว่าไอดอลที่ดี ต้องไม่ทิ้งการเรียน ตอนเรียนวิชาโปรดและไม่โปรดแต่ละคนคืออะไรกันบ้างนะ?

เค้ก - สำหรับวิชาที่เคยชอบเรียนนะคะก็คือวิชาพากย์ เนื่องจากอาจารย์เขาจะสอนวิธีการใช้น้ำเสียง อย่างเช่นการอ่านข่าวพระราชสำนักก็ใช้น้ำเสียงแบบหนึ่ง หรือการพากย์หนังพากย์การ์ตูนก็ใช้น้ำเสียงอีกแบบหนึ่ง ซึ่งหนูรู้สึกว่ามันเป็นการท้าทายตัวเองมากว่าเราจะสามารถทำมันได้หรือไม่ ส่วนวิชาที่หนูไม่ชอบก็คือวิชาภาษาอังกฤษ (หัวเราะ) เอ่อ...อาจจะเป็นเพราะเค้กมีความตั้งใจในการเรียนวิชาภาษาเวียดนามมากกว่า ก็เลยไม่ค่อยโฟกัสไปที่ภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่

มายยู - ด้วยความที่มายยูเรียนมาทางด้านทรัพยากรและการท่องเที่ยว วิชาที่มายยูชอบก็เลยจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ แต่ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัว มายยูชอบเรียนภาษาอังกฤษแบบเน้นไปที่การสื่อสารมากกว่าการเรียนแบบแกรมม่า เนื่องจากว่ามันสามารถต่อยอดให้กับเราและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนั้นแล้วมายยูก็ยังมีอีกหนึ่งวิชาที่ชอบ ก็คือวิชาจิตวิทยา เพราะมันทำให้เราเข้าใจคนอื่น และเข้าใจความคิดของมนุษย์มากขึ้น ส่วนวิชาที่ไม่ชอบเลยก็คือวิชาทรัพยากร เพราะว่ามันมีเนื้อหาเยอะ ซึ่งส่งผลมากเลยค่ะเวลาสอบเพราะเราต้องจำเยอะขึ้น (หัวเราะ)

แนทเธอรีน - หนูชอบเรียนทุกวิชาเลยนะคะ ยกเว้นวิชาศิลปะกับคหกรรม คืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่วิชาศิลปะหนูชอบหมด ไม่ว่าจะเป็นวิชาเกี่ยวกับภาษาหรือวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งถ้าหนูต้องมาทำอะไรเกี่ยวกับศิลปะหรือคหกรรมหนูจะทำพังหมดเลยค่ะ ไม่ถนัดจริงๆ และอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับกีฬา หนูไม่ชอบเลยค่ะ

วี - หนูชอบวิชาพละมากค่ะ ชอบเรียนว่ายน้ำ แต่พอย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่เขาไม่มีสระว่ายน้ำ หนูก็เลยต้องหยุดว่ายน้ำไป นอกจากนั้นแล้วหนูก็ยังชอบวิชาเกี่ยวกับภาษา แต่ชอบเหมือนมายยูนะคะคือชอบเรียนการสื่อสารมากกว่าเรียนแกรมม่า ส่วนวิชาที่ไม่ชอบเลยก็คือวิชาวิทยาศาสตร์ ไม่ชอบมากเลยจริงๆ (หัวเราะ)

เชื่อว่าวัยเด็กก็ต้องมากับความโก๊ะ ความฮา แล้วประสบการณ์ความโก๊ะสมัยเรียนแต่ละคนเป็นอย่างไรกันบ้าง?

วี - ถ้าเป็นเรื่องโก๊ะๆ ที่โรงเรียนก็เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งนะคะ คือตอนนั้นเป็นช่วงเลิกเรียนพอดี หนูก็เลยปีนต้นไม้เพื่อขึ้นไปนั่งดื่มน้ำอัดลม แล้วปรากฏว่ามันมีผึ้งตัวหนึ่ง บินเข้ามาตอมบริเวณปาก ซึ่งหนูตกใจมาก แต่ก็ต้องพยายามนั่งนิ่งๆ รอจนกระทั่งมันบินออกไป ยอมรับเลยค่ะว่าตอนนั้นกลัวจริงๆ กลัวมันจะต่อยปากเรา (หัวเราะ)

แนทเธอรีน - คือชีวิตของหนูช่วงที่ผ่านมา หนูค่อนข้างใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาล มันก็เลยไม่ค่อยมีวีรกรรมอะไรในโรงเรียนสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่พอจะนึกได้ก็คงมีเรื่องการที่หนูเป็นคนกลัวเข็มฉีดยามั้งคะ เพราะสมัยเด็กๆ หนูจะกลัวเข็มเอามากๆ แต่ด้วยความที่สุดท้ายแล้วชีวิตของหนูมันจำเป็นต้องฉีด หนูก็เลยกลายเป็นคนชินชากับการฉีดยาในที่สุด (หัวเราะ) เซียนมาก

มายยู - แนทเธอรีนเขาพูดถึงเรื่องฉีดยาใช่ไหมคะ ของหนูก็มีเหมือนกัน (หัวเราะ) คือช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนูอยู่ ป.3 ซึ่งมันจะมีวันหนึ่งที่คุณครูเขาบอกว่าให้นักเรียนทุกคนไปฉีดวัคซีน แต่หนูก็จะทำเป็นแกล้งป่วยและพอคุณแม่ถามว่าฉีดหรือยัง หนูก็จะบอกคุณแม่ว่าฉีดแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงหนูหนีฉีดยาทุกรอบเลย (หัวเราะ) คือหนูกลัวมากๆ จนกระทั่งล่าสุดพอได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ใน BNK48 มันต้องมีการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ ซึ่งตอนแรกหนูก็ตั้งใจว่าจะหนีนะคะ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะถูกเพื่อนๆ บังคับให้ไป จำได้เลยค่ะว่าตัวเองร้องไห้หนักมาก เนื่องจากว่ามันเจ็บมากจริงๆ (หัวเราะ) ใครที่บอกว่าไม่เจ็บฉีดยาแค่เหมือนมดกัด หนูยืนยันเลยค่ะว่าไม่จริง

เค้ก - วีรกรรมความโก๊ะของเค้กน่าจะเป็นช่วงวัยเด็กมากกว่าค่ะ เพราะเค้กเป็นเด็กที่ดื้อมาก ขัดคำสั่งแม่ทุกอย่าง ถึงขนาดมีแผลเป็นรูปสายฟ้าเหมือน Harry Potter กลางหัวเลยนะคะ (หัวเราะ) และไม่ใช่แค่ที่หัวนะคะเพราะที่ขาก็มีแผลเยอะมากเหมือนกัน คือผ่านประสบการณ์มาโชกโชนไม่ว่าจะเป็นวิ่งหกล้มหรือถูกรถชน ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เค้กถูกรถชนก็คือเราไปวิ่งตัดหน้ารถค่ะ เป็นเด็กที่ซนมากดื้อมากจริงๆ

เด็กสาวทุกคนก็ต้องโตมากับการ์ตูน หากเราทั้ง 4 คน สามารถเลือกเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ได้หนึ่งองค์เราอยากจะเป็นใครกันบ้าง

วี - ด้วยความที่หนูเป็นคนชอบว่ายน้ำหนูก็อยากจะเป็นแอเรียลค่ะ หนูอินกับการเป็นนางเงือกมากเลย ดังนั้นตัวละครนี้ล่ะค่ะที่เหมาะกับหนูที่สุด ชอบมากๆ

เค้ก - ส่วนหนูอยากเป็นราพันเซลเจ้าหญิงผมยาวค่ะ เพราะเขาจะมีความโก๊ะ มีความลุย ซึ่งหนูรู้สึกว่าคาแรกเตอร์ของหนูคล้ายกับเขา แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็คือเราแค่อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีความสุข

แนทเธอรีน - จริงๆ มีหลายคนนะคะที่บอกว่าหนูหน้าเหมือนกับมู่หลาน คล้ายฝาแฝดมู่หลาน แต่หนูไม่ได้ชอบมู่หลานนะคะ (หัวเราะ) หนูชอบซินเดอเรลล่า เพราะหนูรู้สึกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวเขาหล่อมาก แต่ถ้าหากขี่ม้าสีน้ำตาลก็ไม่หล่อแล้วนะ ต้องมาสีขาวเท่านั้น (หัวเราะ)

มายยู - เจ้าหญิงที่มายยูอยากจะเป็นก็คือเจ้าหญิงนิทรา เพราะมายยูชอบหลับ (หัวเราะ)

ถ้าเปรียบเทียบตัวเองเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ได้ สัตว์ชนิดไหนที่เรียกว่าแสดงถึงความเป็นตัวตนของเราได้มากที่สุด

มายยู - เมมเบอร์หลายๆ คนในวงบอกว่ามายยูเหมือนกับลูกเจี๊ยบ แถมยังสงสัยว่าทำไมมายยูต้องทำหน้าเหมือนกับลูกเจี๊ยบด้วย หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปถึงพี่ๆ สต๊าฟ BNK 48 และแฟนคลับ จนทำให้หนูมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งก็คือชื่อว่าเจี๊ยบ

แนทเธอรีน - หนูขอเป็นเป็ดละกันค่ะ เพราะคนที่บ้านชอบคิดว่าหนูหน้าเหมือนแซลลี่ รวมถึงเพื่อนๆ ที่โรงเรียนด้วย แต่แฟนคลับก็ไม่เรียกนะคะ เพราะแฟนคลับคิดว่าหนูเป็นคนสวย (หัวเราะ)

เค้ก - สำหรับสัตว์ที่เค้กอยากจะเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ และก็ยังอยากเป็นอยู่ก็คือนกค่ะ เพราะนกเขาสามารถบินไปที่ไหนก็ได้ เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไม่ต้องมีใครมาบังคับ ซึ่งเค้กเองก็รู้สึกแบบนั้น เค้กรู้สึกว่าตัวเค้กเองก็โตพอแล้วที่จะรู้ว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด แล้วก็เลือกทางเดินที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้

วี - หนูขอเลิกเป็นตัวอัลปาก้าแล้วกันค่ะ เพราะว่าหน้าหนูเหมือนตัวอัลปาก้า ไม่มีเหตุผลใดอื่นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาหนูโมโหหนูก็จะโวยวายเหมือนตัวอัลปาก้า (หัวเราะ)

อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราทั้ง 4 คน มีความสุขที่สุดในการตื่นขึ้นมาตอนเช้า?

มายยู - การที่ได้ตื่นมาแล้วรู้ว่าเราจะได้มีโอกาสไปซ้อมการเป็น BNK48 ทุกวัน ความรู้สึกของหนูมันเหมือนกับที่เขียนไว้ในเนื้อเพลงวันแรกเลยค่ะ

แนทเธอรีน - จริงๆ ทุกวันนี้ที่หนูตื่นมาหนูรู้สึกดีใจกับทุกๆ วันของหนูนะคะ เพราะในที่สุดหนูก็มีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่มีความสุขจริงๆ นะคะ คำที่เขาบอกว่า การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ หนูสามารถพูดได้เลยค่ะว่ามันคือเรื่องจริง เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้หนูมีความสุขมากกับการที่ได้ตื่นขึ้นมาลืมตาในทุกๆ วัน หนูบอกกับตัวเองทุกวันว่า หนูจะทำให้มันเต็มที่ทำให้ดีที่สุดในทุกๆ วันที่หนูยังแข็งแรงอยู่

เค้ก - สำหรับเค้กก็คือ การที่ตื่นมาแล้วได้เจอว่าคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เพราะถ้านับดูตอนนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้วค่ะ ที่ตื่นมาแล้วไม่เจอคุณพ่อกับคุณแม่ เนื่องจากหนูต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพเพียงแค่คนเดียว มันก็เลยทำให้หนูนึกถึงตอนเด็กๆ ที่พอหนูตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็เจอคุณแม่ทำอาหารเช้าให้กิน ส่วนคุณพ่อก็ขับรถไปส่ง ซึ่งชีวิตตรงนี้มันหายไป 4 ปีแล้ว หนูก็อยากจะให้ตื่นมาแล้วได้เจอกับพวกเขาอีก

วี - จริงๆ ทุกวันนี้ที่หนูตื่นมาหนูก็มีความสุขทุกวันนะคะ หนูไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หรืออาจจะพอได้เล่นเกม (หัวเราะ) ไม่ใช่ ก็อย่างที่บอกค่ะหนูตื่นมาแล้วหนูก็มีความสุขทุกวัน ยกเว้นวันที่หนูป่วยนั่นแหละคือวันที่หนูไม่มีความสุข

ถึงแม้ว่ากำลังสนุกอยู่เลย คุยไปคุยมา เพลินๆ ก็ได้เวลาที่น้องๆ ต้องไปทำงานต่อที่อื่นแล้ว เราจึงลาน้องๆ ออกมาจากห้องสัมภาษณ์ ก่อนที่จะพาน้องๆ ออกมาส่งจากออฟฟิศ Sanook! ของเรา น้องๆ ยกมือไหว้แล้วกล่าวสวัสดีเราอีกครั้ง "ขอบคุณมากๆ สำหรับวันนี้นะคะ พวกหนูสนุกมากๆ เลยค่ะ" ทั้ง 4 กล่าว ก่อนที่จะโบกมือบ๊ายบายเราอย่างน่ารัก และกดลิฟต์ออกไป

เราเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะมองว่าไอดอล เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยาก แต่ความจริงแล้วเมื่อได้มีโอกาสที่ได้พูดคุยและทำความรู้จักกับพวกเธออย่างจริงจังแล้ว เราเชื่อว่ามันจะทำให้พวกคุณยิ่งหลงรักความเป็นตัวของตัวเองและความเป็นพวกเธอเหมือนกับที่เราก็ได้