ความสามารถของ กูเกิ้ล ที่คุณอาจคิดไม่ถึง

คุณคิดว่าคุณสามารถใช้งาน กูเกิ้ล ในการค้นหาอะไรได้บ้าง หลายคนอาจคิดว่าแค่เอาไว้หาค้นหาข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้ว กูเกิ้ล เป็นซูเปอร์เสิร์ชเอนจิ้น ทำอะไรอีกหลายอย่างที่คุณนึกไม่ถึงได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันว่า เราใช้กูเกิ้ล ทำอะไรได้บ้าง ตามมาดูกันเลย

ใช้กูเกิ้ลเป็นนาฬิกาตั้งเวลาหรือจับเวลา

คุณสามารถใช้ กูเกิ้ลเป็น Timer (ตั้งกำหนดเวลา) และ ใช้เป็น Stopwatch (ตัวจับเวลาได้) เพียงแค่ใส่ข้อความในกูเกิ้ลว่า “ตั้งเวลา” หรือ จับเวลา กูเกิ้ลจะปรากฏนาฬิกาเพื่อให้คุณใช้งานได้เลย

ถามกูเกิ้ลได้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกเวลาไหน

คุณสามารถดูเวลาพระอาทิตย์ และ พระอาทิตย์ตกได้ โดยกูเกิ้ลจะประมวลผลจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่คุณใช้งาน กูเกิ้ล ณ เวลานั้น ถ้าอยากรู้ว่าดีแค่ไหนพิมพ์แค่ “พระอาทิตย์ขึ้น” หรือ “พระอาทิตย์ตก”

ถามกูเกิ้ลได้ว่าสภาพอากาศและพื้นที่จะเป็นอย่างไร

คุณสามารถถามสภาพอากาศได้จากกูเกิ้ล เพียงแค่ พิมพ์คำว่า สภาพอากาศ กับ เมืองที่คุณกำลังจะไปหรือเมืองที่คุณอยู่อาศัย ก็จะได้คำตอบเลยละ

ใช้กูเกิ้ลเป็นเครื่องคิดเลข

เมื่อกูเกิ้ลเป็นทุกอย่างให้คุณแล้วตั้งแต่เครื่องจับเวลา ตรวจสอบสภาพอากาศ พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ถึงตรงนี้คุณสามารถใช้กูเกิ้ลเป็นเครื่องคิดเลขได้ด้วย เพียงแค่พิมพ์คำว่า “เครื่องคิดเลข” ก็จะปรากฏเครื่องคิดเลขมาให้คุณใช้งานได้ทันที

ใช้กูเกิ้ลคำนวณอัตราแลกเปลี่ยน

คนที่เดินทางต่างประเทศน่าจะได้ใช้บ่อย กับความสามารถของกูเกิ้ลในการคำนวณค่าเงินในแต่ละประเทศ หรือ อัตราแลกเปลี่ยน เพียงแค่พิมพ์ ค่าเงินที่คุณต้องการคำนวณ ตัวอย่าง 30 บาท+สกุลเงินที่คุณต้องการแปลง ก็จะได้คำตอบทันที

ใช้คำว่า “ใกล้ฉัน” หรือ Near Me เพื่อหาร้านค้าหรือบริการที่อยู่ใกล้คุณ

ความอัจฉริยะของกูเกิ้ลนั้นทำให้ชีวิตคุณสะดวกยิ่งขึ้นในการค้นหาร้านอาหาร ร้านค้า หรือ บริการ ที่อยู่ใกล้เคียงกับคุณ โดยเพียงแค่พิมพ์ชื่อร้านค้าที่ต้องการ และ ต่อด้วยคำว่า “ใกล้ฉัน” คุณก็จะได้คำตอบที่นึกไม่ถึง

หารายชื่อหนังสือของนักเขียนคนโปรดได้จากกูเกิ้ล

ถ้าอยากรู้ว่านักเขียนที่คุณชื่นชอบ มีลิสต์รายชื่อหนังที่เขียนมาแล้วกี่เล่ม เพียงแค่พิมพ์ชื่อนักเขียน ลงไปลิสต์รายชื่อหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนคนโปรดของคุณก็จะปรากฏขึ้นมา

ถามกูเกิ้ลได้ว่ารากคำศัพท์นั้นมาจากภาษาใด

ต้องการรู้รากศัพท์ของคำศัพท์ว่ามาจากภาษาใด และ เป็นการผสมคำแบบไหน เพียงแค่พิมพ์คำว่า “Etymolog + คำศัพท์ที่คุณต้องการรู้รากศัพท์ เพียงเท่านี้ก็จะได้รู้แล้วว่าคำคำนั้นมีรากศัพท์ มาจากภาษาใด

ใช้ อัญประกาศ เพื่อหาคำตอบที่เฉพาะเจาะจง

ใช้อัญประกาศ หรือ Double Quotes ในการค้นหาประโยค หรือ เรื่องที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งการใช้ อัญประกาศจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่าการ เสิร์ชหาแบบปกติ

ใช้ OR ในการค้นหาสองเรื่องที่มีความแตกต่าง

ใช้ OR ในการหาคำสองเรื่องที่มีความแตกต่างกัน และ ต้องการหาภายในครั้งเดียว อาทิ Iphone OR Android

ใช้ AND เพื่อหาสองเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกัน

ใช้ AND เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของสองเรื่องที่เฉพาะเจาะจง และมีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ chatbot AND messenger

หาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้ง่ายได้ กับคำว่า related

ถ้าอยากหา เว็บไซต์ ที่มีเรื่องเกี่ยวข้องกับ เว็บไซต์หลักที่คุณกำลังค้นหาให้ใช้คำว่า related + ชื่อเว็บไซต์

ถ้าคุณเบื่อ กูเกิ้ล จะทำให้คุณสนุกด้วย Fun Facts

ไม่เพียงจะเป็น เสิร์ชเอนจิ้นอัจฉริยะ แต่ กูเกิ้ล ยังสามารถทำให้คุณหายเบื่อได้ด้วย เพียงแค่คุณพิมพ์คำว่า Fun Facts หรือ I’m feeling curious เพียงแค่นี้กูเกิ้ลจะแสดงผลเรื่องสนุกที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนให้ได้อ่าน หรือ ชมจาก ยูทูป เพื่อความบันเทิงได้เลยละ

ถ้าโฆษณาน่ารำคาญ คุณก็จัดการกับ Browser ด้วยตัวคุณเอง

จัดการโฆษณาบนหน้า Browser ของคุณได้จาก กูเกิ้ล เพียงเข้าไปที่ Setting จากนั้นก็สามารถหา ส่วนที่เป็น adjust ad เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดการกับโฆษณาที่คุณไม่ต้องการจะเห็นได้แล้ว

สามารถโหลดประวัติการค้นหามาเช็กข้อมูลได้

สามารถโหลดประวัติการค้นหาของคุณลงมาดูได้ ซึ่งจะช่วยได้มากเมื่อคุณต้องการเข้าเว็บไซต์ที่คุณไม่สามารถจำ URL ได้

กูเกิ้ล มีเนื้อหาหนังสือพิมพ์ย้อนหลังไปถึงปี 1798

ดูเนื้อหาบนหนังสือพิมพ์ย้อนหลัง ได้จากกูเกิ้ลโดยพิมพ์ Google Newspapaper Archieve ซึ่งสามารถหาข้อมูลข่าวได้ตั้งแต่ปี 1798 จนถึงปัจจุบันจากหนังสือพิมพ์ทั่วโลกเลยทีเดียว

อยากรู้ว่าตลอดทั้งปีไปไหนมาบ้าง ใช้ Timeline History

ถ้าคุณอยากรู้ว่าในรอบปีที่ผ่านมาคุณไปที่ไหนมาบ้าง ในวันที่เท่าไร ถึงวันที่เท่าไร คุณก็แค่หาในกูเกิ้ล กับ Timeline History ผ่านทาง อีเมล์ หรือ เบอร์โทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนเอาไว้

ไม่ตกเทรนด์โลกกับ Google Trends

ถ้าไม่อยากตกกระแส และอยากรู้ว่าเรื่องราวที่คนทั้งโลก หรือ ในเมืองไทยกำลังสนใจกันอยู่นั้นคือเรื่องอะไร เพียงแค่ใช้ Google Trends คุณจะรู้ได้ทันทีว่าเรื่องอะไรกำลังอยู่ในกระแสบ้าง