"อิน สาริน" เปิดเรื่องน่ารู้สมัยเรียนพระเอกหน้าใหม่ สุดยอด Cute Boy ของประเทศไทย

ถ้าพูดถึงหนุ่ม Cute Boy ของประเทศไทย ก็คงจะไม่นึกถึง อิน-สาริน รณเกียรติ หนุ่มหล่ออารมณ์ดีจากรั้วจุฬาคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นยุคนักเรียน หรือยุคนักศึกษา ก็คงจะต้องคุ้นชื่อ อินพิทา หรือ อิน-สาริน รณเกียรติ กันอย่างแน่นอน ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้เข้าวงการเป็นพระเอกของทางช่อง 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทาง Sanook! Campus เราก็ได้มีโอกาสที่ได้พูดคุยกับหนุ่ม อิน-สาริน ตำนาน Cute Boy ของประเทศไทยกันที่ คณะสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะที่หนุ่มหล่อคนนี้เขาได้สำเร็จการศึกษามา เรามาทำความรู้จักอีกมุมหนึ่งของ อิน-สาริน ในสมัยที่ยังเป็นนิสิต จุฬาฯ กันหน่อยดีกว่า ว่าในสมัยนั้นหนุ่มหล่อคนนี้เขาเป็นอย่างไรกันบ้าง?

อัปเดตชีวิตกันหน่อย ตอนนี้อินทำอะไรอยู่

"สำหรับงานของผมตอนนี้ก็มีละครสองเรื่องครับ คือเรื่อง 'ทองเอกหมอยาท่าโฉลง' กับเรื่อง 'ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ภูผา' ซึ่งเรื่องที่สองนี้ผมได้มีโอกาสแสดงนำด้วย (ยิ้ม)"

เราคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา ?

"เอ่อ...รอยยิ้มมั้งครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจต้องถามคนดูเองละกัน"

เรื่องการเรียน ทำไมเราถึงเลือกที่จะเรียนคณะสถาปัตยกรรม ?

"ผมชอบงานด้านสถาปัตย์มาตั้งแต่เด็กแล้วครับ แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกนะว่าสถาปัตย์คืออะไร รู้แค่ว่าผมชอบงานอาร์ตชอบการวาดรูป แต่พอเริ่มโตขึ้นผมก็เริ่มสนใจเรื่องการออกแบบบ้าน รวมถึงงานดีไซน์ต่างๆ จึงทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเราเองอยากเรียนสถาปัตย์"

ปกติแล้วถ้าพูดถึงหนุ่มสถาปัตย์มักจะนึกถึงหนุ่มลุคเซอร์ แต่ตัวเราเองกลับดูเนี๊ยบแตกต่างจากภาพที่หลายคนคิดไว้ ?

"ไม่จริงนะครับ จริงๆ หนุ่มสถาปัตย์เซอร์ๆ มันตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อนแล้วนะครับ เพราะตอนที่อินเรียนจบสถาปัตย์อินเตอร์กับเพื่อน ในจำนวน 80 คน ก็มีหนุ่มเซอร์แค่ 2 คนเอง ส่วนคนที่เหลือก็ลุคปกติแบบอินนี่แหละครับ"

ถ้าถามถึงมุมโปรดในขณะที่เราชอบไปบ่อยๆ คือมุมไหน ?

"แน่นอนครับว่าต้องเป็นมุมสตูดิโอ เพราะเป็นเพราะมุมกิน มุมทำงาน มุมนอน ทำทุกอย่างในสตูดิโอหมดเลย (ยิ้ม)"

แล้วถ้าให้เลือกสถานที่ที่มีความหมายสำหรับเรา เราจะเลือกที่ไหนบ้าง ?

"แน่นอนครับว่าอันดับแรกก็คือสตูดิโอ ส่วนอันดับที่สองก็คือโรงอาหาร และอีกที่ก็คือช้อป เพราะที่ช้อปมีทุกอย่างขายครับ"

เราเคยมีวีรกรรมสุดแสบตอนที่อยู่ในคณะไหม ?

"เอ่อ...คิดไม่ออกเลยอ่ะ ไม่มีนะ ไม่มี ผมเป็นเด็กเรียบร้อยตั้งใจเรียน (หัวเราะ)"

แล้วถ้าถามถึงเหตุการณ์น่าอายล่ะเราเคยมีบ้างหรือเปล่า ?

"เหตุการณ์น่าอายไม่มีนะครับ แต่จะมีเหตุการณ์น่าตกใจมากกว่า เพราะเด็กสถาปัตย์จะต้องเคยทำคัตเตอร์กรีดนิ้วตัวเองแล้วเลือดไหลทุกคน ซึ่งอินก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนใบมีสีดำตัดเข้าที่นิ้ว ตอนนั้นจำได้ว่าเลือดออกเยอะมากครับ ต้องพาไปโรงพยาบาลเลยทีเดียว"

วงการบันเทิงกับงานสถาปัตย์มันดูต่างกันมาก ทำไมเราถึงเข้ามาอยู่ในสายนี้ได้ ?

"เอ่อ...เป็นช่วงตอนที่อินกำลังจะเรียนจบปี 4 ครับ คือจริงๆ แล้วช่วงที่ผ่านมาก็จะมีผู้ใหญ่มาชวนให้อินไปแคสงานอยู่ตลอด และอย่างที่บอกครับพอมันเป็นช่วงที่อินใกล้เรียนจบ อินก็เลยคิดว่าเราน่าจะลองดูสักครั้งก่อนที่จะกลับไปทำงานเป็นสถาปนิกเต็มตัว เพราะถ้าหากกลับไปตรงนั้นแล้วมันก็จะไม่มีเวลามาทำงานในวงการบันเทิงได้อีก อินก็ตัดสินใจมาแคสงานที่ช่อง 3 เป็นที่แรก และก็ได้รับบทแสดงนำในซีรีส์ลูกผู้ชายตอนภูผาครับ"

เราปรับตัวยังไงเพราะงานทั้งสองด้านมันดูแตกต่างกันมากจริงๆ ?

"ถึงแม้งานทั้งสองสายนี้จะเป็นงานคนละสายกัน แต่อินก็จะพยายามหาความเหมือนของมันให้ได้ ซึ่งสิ่งที่อินหาได้ก็คือความเป็นศิลปิน ความคิดสร้างสรรค์ที่เราตั้งใจจะออกแบบผลงานของเรา อินเชื่อว่าถ้าหากเราเทียบความเหมือนให้เจอมันก็จะสามารถนำมาใช้ได้ครับ และทำให้เราทำงานทั้งสองอย่างง่ายขึ้นด้วย"

วิธีจีบสาวสไตล์ของเราเป็นแบบไหน มีเทคนิคอะไรบ้าง ?

"อินจะทำเป็น innocent ครับเพราะว่าหน้าอินได้ (หัวเราะ) คือเราจะต้องทำหน้าแบบไม่รู้เรื่องก่อน และเข้าไปในลักษณะของการเป็นน้อง จากนั้นจึงค่อยให้เขาเข้าหาเราเอง ซึ่งมันจะทำให้เราดูใสมากๆ"

จากประโยคที่บอกว่า "ขอสักครั้งจะตั้งใจเรียน" ตัวเราเองเคยมีอะไรไหมที่อยากได้ และถ้าได้ก็จะตั้งใจเรียนอย่างที่ประโยคนั้นกล่าว ?

"ถ้าเป็นช่วงมหาวิทยาลัยผมได้ทุกอย่างครับ (ยิ้ม) แต่ถ้าถามว่าอยากได้อะไรจริงๆ เอ่อ...ก็คงอยากจะได้ A ตั้งแต่ขึ้นปี 1 ครับ เพราะตอนปี 1 ผมได้เกรดเฉลี่ยแค่ 2.7 กว่าจะได้เกียรตินิยมมาครองมันทุลักทุเลมาก"

สิ่งที่ดีที่สุดของการเป็นอินคืออะไร ?

"ผมเป็นคนโชคดีครับ เป็นคนโชคดีกับทุกๆ อย่าง เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ก็จะมีคนคอยสนับสนุนอยู่ตลอด มันจึงทำให้เวลาที่ผมทำอะไรมันก็จะไม่เหนื่อยมากจนเกินไป มันเหมือนกับว่าทุกๆ คนพร้อมที่จะก้าวไปกับผมตลอดเวลา"

หากจะให้นิยามตัวตนเราเป็นคำพูดสามคำ เราอยากจะนิยามตัวตนของเราว่าอะไร ?

"ก็คือผมเป็นคน 'ทรหดอดทน' ครับ เหมือนกับ 'ภูผา' ตัวละครที่ผมแสดง เพราะชีวิตผมเจอมาเยอะ แต่ว่าจะเหมือนยังไงนั้นต้องไปดูในละครกันเองนะ"

ความฝันที่เราอยากจะทำให้สำเร็จในตอนนี้คือเรื่องอะไร ?

"ผมอยากจะเปิด Boutique Hotel เป็นของตัวเองครับ เพราะผมชอบมาตั้งแต่สมัยที่ผมยังเรียนอยู่ มันเป็นเหมือนโปรเจคที่อยู่ในหัวมาตลอด แถมที่บ้านของอินก็ทำงานด้านนี้กันอยู่แล้วด้วย อินก็เลยอยากจะนำมาต่อยอด อยากจะนำเสนอดีไซน์ของเราให้คนได้เห็นกัน"

หากเราสามารถเลือกเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้หนึ่งตัว เราอยากจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ตัวไหน ?

"ไม่เลือกได้ไหมครับเพราะผมไม่ได้อยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ผมอยากเป็นแค่ตัวของตัวเอง ผมรู้สึกว่าผมโชคดีกว่าซูเปอร์ฮีโร่อีกนะ (ยิ้ม)"

สุดท้ายแล้วอยากให้เราฝากผลงานให้กับแฟนๆ ที่เราติดตามเราอยู่ ?

"ก็ต้องขอฝากละครของอินทั้งสองเรื่องด้วยนะครับ กำลังเดือดเลยสำหรับซีรีส์ลูกผู้ชายตอนภูผา และเรื่องที่สองคือละครแนวตลกที่รับประกันความฮาน้ำตาไหล สำหรับเรื่องทองเอกหมอยาท่าโฉลง ดูแล้วสนุกสนานกันแน่นอนครับ"