"ก็อต อิทธิพัทธ์" กับ เรื่องสุดแสบ ในสมัยเรียน ที่แม้แต่คุณพ่อก็ยังไม่รู้

ถ้าพูดถึง ก็อต-อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์ หลายคนคงนึกถึงหนุ่มหล่อสไตล์โอปป้ากันอย่างแน่นอน แต่สำหรับ Sanook! Campus แล้ว หนุ่มคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องหน้าตา เพราะตัวตนของเขามีอะไรที่น่าสนใจและน่าค้นหามากกว่าความหล่อนั่นเอง

โดยเราได้มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับ ก็อต-อิทธิพัทธ์ หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งกันอย่างพิเศษแบบเป็นกันเองจึงไม่พลาดที่จะ เจาะลึกและเข้าถึงตัวตนของหนุ่มคนนี้ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักอีกมุมในวัยเรียนของเขาให้มากขึ้นนั่นเอง

อัปเดตชีวิตของเราตอนนี้มีโปรเจคต์อะไรที่รับผิดชอบอยู่ และกำลังมีผลงานอะไรอยู่บ้าง ?

"สำหรับผลงานของผมตอนนี้ก็มีละครอยู่ 2 เรื่องครับ เรื่องแรกก็คือเรื่อง 'ลิขิตรักข้ามดวงดาว' ซึ่งปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่สองก็คือเรื่อง 'ซ่อนเงารัก' ซึ่งเรื่องนี้กำลังถ่ายทำอยู่ครับ นอกจากนั้นแล้วผมก็ยังมีโปรเจคต์เกี่ยวกับ Photobook ซึ่งเป็นโปรเจคต์ที่ผมอยากจะนำเสนอมากๆ เพราะเป็นโปรเจคต์ที่ผมทำด้วยตัวเองลงทุนเองหมดเลยใช้เวลาในการทำงานนานเป็นปี เพราะเราเริ่มถ่ายภาพกันตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งความพิเศษของ Photobook เล่นนี้มันอยู่ตรงที่เราไปถ่ายภาพกันถึง 4 ประเทศ คือเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินโดนีเซีย แถมในแต่ละประเทศนั้นๆ เสื้อผ้าหน้าผมของเราก็แตกต่างกันหมดเลยด้วย นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งมุมพิเศษตรงที่แฟนคลับทุกคนจะได้เห็นหลายๆ มุมของผม ไม่ว่าจะเป็นมุมน่ารัก มุมเท่ หรือมุมเซ็กซี่ เรียกได้ว่ามาครบเลยครับสำหรับโฟโต้บุ๊คเล่มนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนได้รอติดตามกันครับผม"

"นอกจากนั้นแล้วจุดประสงค์ในการขายโฟโต้บุ๊กเล่มนี้ เราก็ไม่ได้มองที่รายได้อย่างเดียว เพราะว่ารายได้ส่วนหนึ่งที่เราได้มาหลังหักค่าใช้จ่ายเราก็จะนำไปใช้ทำบุญด้วยครับ ซึ่งเราจะนำเงินตรงนี้ไปทำบุญกับมูลนิธิไหน อันนี้ก็คือยังอยู่ในช่วงของการพิจารณาครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นมูลนิธิคนตาบอด"

แอบได้ยินมาว่าสมัยเด็กๆ เราเคยมีความฝันอยากจะเป็นนักบินอวกาศ พอจะเล่าถึงที่มาที่ไปได้ไหมว่าทำไมถึงอยากเป็น ?

"มันคือความฝันในวัยเด็กมากๆ ครับ เด็กมากจริงๆ แต่พอโตมาผมถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่ความฝันที่สามารถทำได้ง่ายๆ ผมก็เลยเก็บเงินเอาไว้เป็นความฝันในวัยเด็กดีกว่า (หัวเราะ) แต่ถามว่าเพราะอะไรผมถึงอยากเป็นนักบินอวกาศ เอ่อ...คงเป็นเพราะผมได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เกี่ยวกับอวกาศมั้งครับ ซึ่งผมจำเรื่องไม่ได้หรอกนะว่าชื่อเรื่องอะไร และยิ่งพอได้มาเล่นเกมที่เกี่ยวกับอวกาศอีก มันก็ยิ่งรู้สึกว่าการเป็นนักบินอวกาศมันเท่ และก็ทำให้อยากจะเป็นนักบินอวกาศครับ"

พูดถึงทักษะของเราบ้างตัวเราเองเป็นคนวาดรูปสวยมาก เคยคิดจะพัฒนาทักษะตรงนี้ให้มันไปอีกระดับหนึ่งไหม ?

"อ๋อ...ที่คนเห็นว่าผมวาดรูปสวยเป็นเพราะผมเคยเรียนมาทางด้านนี้ครับ เคยศึกษาด้านนี้มาก่อนในช่วงที่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ ซึ่งมันก็มีอยู่ช่วงหนึ่งเลยนะที่ผมอินกับงานศิลปะมากๆ เป็นช่วงก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ถึงขนาดซื้อหนังสืออาร์ตมาศึกษาเพิ่มเติม มีศิลปินไทยหลายๆ คนเป็นศิลปินในดวงใจ แต่ทว่าพอถึงจุดจุดหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสเรียนไปเรื่อยๆ ความคิดมันก็เริ่มเปลี่ยน คือผมไม่ได้จะบอกว่าการเป็นศิลปินหรือการทำงานศิลปะมันไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่าพอผมโตขึ้นแนวผมก็เปลี่ยนเท่านั้นเอง มันเลยทำให้ผมไม่ได้มีโอกาสเข้าไปข้องเกี่ยวกับงานศิลปะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากในอนาคตมีโอกาสได้กลับไปทำอีก ผมก็อยากจะทำครับ เพราะเมื่อก่อนจากใจผมเลยนะผมอยากจะจัดนิทรรศการเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ดังนั้นเอาไว้รอให้ถึงจุดๆ หนึ่ง จุดที่เรามีเวลามากพอและเราเป็นที่รู้จักแล้ว เราค่อยทำดีกว่าครับ"

ถ้าหากย้อนกลับไปในวัยที่เราเป็นนักเรียนเราคิดว่าเราเป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มไหนหรือประเภทไหนของห้อง ?

"ผมเป็นเด็กหลังห้องครับ (หัวเราะ) แต่ที่ผมเป็นเด็กหลังห้องเพราะว่าผมเป็นเด็กขี้อายนะ ผมมีความขี้อายมาตั้งแต่เด็กๆ เป็นมาตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมัธยมปลายเลย"

ในช่วงวัยเรียนหลายๆ คนก็จะมีกิจกรรมหลายอย่างที่ได้ทำเป็นครั้งแรก ตัวเราเองมีกิจกรรมไหนบ้างที่ทำแล้วรู้สึกประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้ ?

"น่าจะเป็นเรื่องของการวาดรูปครับ เพราะกว่าผมจะเข้าใจการวาดรูปหรืองานศิลปะมันก็ค่อนข้างยากนะครับ เนื่องจากผมเข้ามาแบบคนที่ไม่มีความรู้เลย แค่รู้สึกว่าผมอยากจะวาดรูปนั้นรูปนี้ให้ได้ แต่เมื่อผมได้ฝึกฝนตัวเองมากขึ้น จากแก้วใบหนึ่งที่ผมวาดมันไม่เคยได้ สุดท้ายผมก็สามารถวาดมันออกมาได้ครับ ทั้งหมดเป็นเพราะการฝึกฝนจริงๆ ผมฝึกทุกวันผมวาดทุกวัน มันจึงเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ผมยังจำได้ว่า ในที่สุดผมก็สามารถทำสิ่งที่ผมตั้งใจได้ครับ"

พูดถึงการทำงานในต่างประเทศของเราบ้างเรามีวิธีการฝึกภาษาอย่างไร ?

"จริงๆ ผมเองก็อยากจะเรียนภาษาจีนเพิ่มเหมือนกันนะครับ แต่ด้วยความที่ตอนนี้ผมยังไม่มีเวลาผมจึงใช้วิธีสื่อสารภาษาอังกฤษแทนไปก่อน ส่วนภาษาจีนถามว่าผมเข้าใจไหม เอ่อ... ผมก็พอเข้าใจบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับทั้งหมด ถือว่าเป็นอุปสรรคที่อยากจะพัฒนาให้ดีขึ้นเหมือนกันครับสำหรับเรื่องภาษา"

อยากให้เราพูดถึงสิ่งที่คนไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรา พอจะบอกได้ไหมว่าคือเรื่องอะไร ?

"คนมักจะมองว่าผมเป็นคนตลกเฮฮาหรือดูชิวๆ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่คิดเยอะนะครับ และก็ค่อนข้างที่จะกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ได้เป็นคนที่สนุกสนานหรือมีความสุขตลอดเวลา มันจะมีมุมเครียดๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด เพียงแค่ผมไม่ได้แสดงมันออกมาให้ทุกคนเห็นก็เท่านั้นเอง"

ช่วงที่เราเรียนมัธยมเราเคยทำเรื่องแสบๆ เอาไว้บ้างไหม ?

"หูย เรื่องนี้ขนาดพ่อผมยังไม่รู้เลยนะครับ คือผมเคยโดดเรียนครับ โดดเรียนเพื่อที่จะไปหลบในห้องน้ำและผมก็หลบอยู่ในนั้นทั้งวันเลยนะ ซึ่งสาเหตุที่ผมทำแบบนั้นก็คือผมรู้สึกว่าผมไม่อยากเรียนแล้ว แต่ว่าห้องน้ำสะอาดนะครับ (หัวเราะ) แต่สุดท้ายคุณครูก็จับได้ และก็โทรไปหาที่บ้านบอกว่าผมไม่มาเรียน ก็งงตัวเองเหมือนกันครับว่าทำไปได้ยังไง นอนหลับอยู่ในห้องน้ำทั้งวัน แต่ทางบ้านผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะเหมือนเขาคงเอือมระอาผมแล้วด้วย และที่บ้านก็ยังไม่รู้ด้วยว่าผมไปแอบในห้องน้ำทั้งวัน ไม่ใช่โดดเดียนไปนอกโรงเรียน(หัวเราะ)"

ถ้าหากตอนนี้เราไม่ได้ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงเราคิดว่าเราจะกำลังทำอะไรอยู่ ?

"ผมก็คงจะเรียนให้จบและก็ทำเหมือนกับคนอื่นๆ คือเรียนจบ หางานทำ แต่งงาน มีลูก และเก็บเงิน เท่านั้นเลยครับ คือผมไม่เคยวาดฝันว่าชีวิตจะต้องเป็นแบบนั้นหรือต้องเป็นแบบนี้ เอาจริงๆ นะถ้าหากผมไม่ได้มาทำงานตรงนี้ ผมก็คงยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผมอยากจะเป็นอะไร ทุกวันนี้ผมก็ยังหาคำตอบจากตัวเองอยู่ ก็อย่างที่ผมบอกครับผมเป็นคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานเลย เพราะผมเป็นคนที่อะไรก็ได้ ผมแฮปปี้กับตัวเองมากๆ ไม่จำเป็นจะต้องมีใครมาทำให้เรามีความสุข เพราะแค่ผมมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองอยากทำก็พอแล้ว"

อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆ เช้า ?

"ความคิดแรกในทุกเช้าที่ผมตื่นขึ้นมาก็คือ ผมจะทำอย่างไรให้ผมหาเงินได้เยอะๆ หรือวันนี้จะทำอะไรดี เหมือนชีวิตของผมตอนนี้มันทำให้ผมอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ผมเลยกลายเป็นคนที่มองหาโปรเจคต์หรือหาโอกาสต่างๆ ให้กับตัวเองตลอด เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป้าหมายต่อจากนี้ไปของเราคืออะไร เส้นทางของเราเป็นเส้นทางแบบไหน ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่สนุกดีครับ"

สุดท้ายแล้วอยากให้ก็อตฝากผลงานของเราให้เป็นแฟนๆ ได้ติดตามกันอีกครั้งหนึ่ง ?

"แน่นอนเลยครับ ก็คือฝากละครของก็อตด้วยทั้ง 2 เรื่อง เรื่องแรกก็คือ ลิขิตรักข้ามดวงดาว เรื่องนี้ผมอยากให้ทุกคนได้ติดตามกันจริงๆ เพราะเวอร์ชั่นเกาหลีเขาทำมาดีแค่ไหน เวอร์ชั่นไทยก็ทำได้ดีได้ไม่แพ้กันครับ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีละครอีกเรื่องคือเรื่อง ซ่อนเงารัก ซึ่งเรื่องนี้ผมได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวด้วยกับทางช่อง 3 แสดงคู่กับ ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส เป็นละครธีมเกาหลีเลยเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มมากๆ และผลงานอีกชิ้นก็คือโฟโต้บุ๊กครับ เป็นโฟโต้บุ๊กเล่มแรกในชีวิตของผม ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตจะได้มีโอกาสทำอีกไหม ดังนั้นก็อยากจะให้ทุกคนได้รอติดตามกันนะครับ เราไปถ่ายกันถึง 4 ประเทศ เสื้อผ้าจัดเต็ม มีหลากหลายอารมณ์มากเลย แถมถ้าอุดหนุนแล้วทุกคนก็จะได้ทำบุญด้วย มาเจอกันเยอะๆ นะครับ"