กลิ่นปากปัญหาใหญ่ จะบอกใครก็ลำบากใจเหลือเกิน

กลิ่นปากปัญหาใหญ่ จะบอกใครก็ลำบากใจเหลือเกิน

กลิ่นปากปัญหาใหญ่ จะบอกใครก็ลำบากใจเหลือเกิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากขณะที่คุณกำลังพูดคุยกับใครสักคน แล้วเขาเบือนหน้าหนี หรือถอยตัวออกห่าง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า เขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคุณ หรือไม่ชอบหน้าคุณ บางที เขาอาจแค่ไม่ชอบลมจากปากของคุณก็ได้

กลิ่นปากเป็นปัญหาที่บั่นทอนความมั่นใจและสัมพันธภาพ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ กลิ่นปากอาจเป็นสัญญาณบอกความผิดปกติของร่างกาย
รศ.ทพ.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงสาเหตุหลักๆ ของกลิ่นปากดังนี้

  • สาเหตุจากภายนอกช่องปาก เช่น การรับประทานอาหารบางชนิดที่มีกลิ่นแรง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้เกิดปัญหากลิ่นปากเพียงชั่วคราวเท่านั้น
  • สาเหตุจากภายในช่องปาก ช่องคอ ลำคอ มีผลทำให้เกิดกลิ่นปากได้ถึง 90 % เกิดจากแบคทีเรียที่ตกค้างอยู่บริเวณผิวขรุขระตรงโคนลิ้น เมื่อมีเศษอาหารตกค้างบริเวณนี้ ก็จะเกิดการย่อยสลายโปรตีน กลายเป็นกรดอะมิโน แล้วปล่อยสารที่มีกลิ่นคล้ายซัลเฟอร์ออกมา ทำให้มีกลิ่นปาก นอกจากนี้ การมีแผลในช่องปาก ฟันผุ โรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ และผู้ที่ใส่เครื่องมือต่างๆ ภายในปาก เช่น เครื่องมือจัดฟัน หรือฟันปลอม หากดูแลรักษาความสะอาดได้ไม่ดี ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้เหมือนกัน
  • สาเหตุจากโรคต่างๆ เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคทอนซิลอักเสบ โรคมะเร็งโพรงกระดูก กรดไหลย้อน โรคปอดเรื้อรัง วัณโรคปอด หรือมะเร็งปอด ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีการควบคุมน้ำตาลที่ไม่ดี และแม้แต่โรคที่เกิดขึ้นในระบบขับถ่าย ที่ทำให้การขับถ่ายผิดปกติ อย่างท้องผูก เหล่านี้ก็สามารถสร้างกลิ่นปากได้

ทดสอบกลิ่นปาก

  • หายใจเข้าเต็มปอด ใช้มือป้องปาก และจมูกเอาไว้ แล้วพ่นลมหายใจออกจากปาก สูดลมหายใจเข้าทางจมูก แล้วดูว่ามีกลิ่นเหม็นหรือไม่
  • ใช้ช้อนขุดตรงโคนลิ้นแล้วปล่อยให้แห้งทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วนำมาดมดู

ป้องกันปัญหากลิ่นปาก

  1. พบหมอฟันเป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อขูดหินปูน และตรวจดูว่ามีฟันผุหรือไม่
  2. แปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อย 3 นาทีขึ้นไป วันละ 2 ครั้ง
  3. แปรงฟังให้ถูกวิธี โดยต้องเอียงขนแปรง 45 องศา ให้ลงไปในร่องเหงือก แล้วค่อยขยับขนแปรงขึ้นลงไปมา ทำความสะอาดซอกฟันและเหงือก เพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ รวมถึงต้องแปรงบริเวณโคนลิ้นเพื่อขจัดแบคทีเรียที่ตกค้างจากเศษอาหารออก
  4. ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดวันละ 1 ครั้งก่อนนอน โดยต้องให้ไหมขัดฟันลงไปในร่องเหงือก 2 – 3 มิลลิเมตร
  5. ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ
  6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง
  7. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันไม่ให้ปากแห้ง
  8. ผู้ที่ใส่ฟันปลอม ต้องทำความสะอาดฟันปลอมโดยการแปรงที่ฐานฟันปลอมหลังรับประทานอาหาร และ ก่อนนอนควรแช่ด้วยน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม
    จะบอกอย่างไรว่า เธอมีกลิ่นปาก

เมื่อปัญหากลิ่นปากไม่ใช่จะบอกกันง่ายๆ รศ.ทพ.พรชัย แนะนำให้บอกคนใกล้ชิดที่มีกลิ่นปากอย่างสร้างสรรค์ อย่างเป็นต้นว่า “ ลองไปเช็คฟันดูหน่อยไหม ถึงเวลาคุณไปพบหมอฟันหรือยัง” “คุณมีฟันผุหรือเปล่า เหงือกอักเสบหรือเปล่า ไปพบหมอฟันหน่อยดีไหม ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจมีปัญหาลุกลามได้นะ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook