"สาเหตุไฟป่าแอมะซอน" และผลกระทบที่จะเกิดกับคนทั่วโลกถ้าป่าถูกทำลาย

"สาเหตุไฟป่าแอมะซอน" และผลกระทบที่จะเกิดกับคนทั่วโลกถ้าป่าถูกทำลาย

"สาเหตุไฟป่าแอมะซอน" และผลกระทบที่จะเกิดกับคนทั่วโลกถ้าป่าถูกทำลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ป่าดิบชื้นแอมะซอน เป็นป่าใบกว้างชื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอ่งแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ แอ่งนี้กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งป่าดิบชื้นแอมะซอนกินพื้นที่ไป 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้รวมดินแดนที่เป็นของ 9 ประเทศ พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ราวร้อยละ 60 อยู่ในประเทศบราซิล รองลงมา คือ เปรู ร้อยละ 13 และโคลอมเบีย ร้อยละ 10 และมีปริมาณเล็กน้อยในเวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาม และเฟรนช์เกียนา ป่าแอมะซอนเป็นเนื้อที่กว่าครึ่งของป่าดิบชื้นที่ยังเหลืออยู่บนโลก และเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก มีต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

ป่าดิบชื้นแอมะซอน ได้รับการบำรุงส่วนใหญ่ด้วยฝุ่นที่พัดมาจากทะเลทรายซาฮาร่า โดยฝุ่นที่พัดมามีส่วนประกอบของฟอสฟอรัสจำนวนมาก ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ทุกชนิด ซึ่งในทุกๆ ปีทะเลทรายซาฮาร่าจะเก็บสะสมฟอสฟอรัสจำนวนมาก และในท้ายที่สุดพวกฝุ่นเหล่านี้จะถูกพัดพามาถึงป่าแอมะซอน โดยคิดเป็นราวๆ 56% ของปริมาณฝุ่นปุ๋ยที่ได้รับทั้งหมด

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

ด้วยความเจริญสมบูรณ์ของป่าดงดิบแห่งนี้ ทำให้พวกมันเป็นแหล่งที่น่าสนใจของมนุษย์ในการดำรงชีพ พื้นที่ป่าบางส่วนถูกทำลายลง เพื่อนำไปสร้างอาณานิคม หรือหมู่บ้านต่างๆ จนกระทั่งก่อนช่วงต้นทศวรรษ 1960 พื้นที่ป่าส่วนในถูกกำหนดให้เป็นเขตหวงห้าม จึงไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปทำลายป่าทำให้บริเวณส่วนใหญ่ของป่าแอมะซอนยังคงสมบูรณ์

สาเหตุของการเกิดไฟป่าแอมะซอน

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

สถานการณ์ไฟป่าที่กำลังเกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากอัตราการบุกรุกพื้นที่และตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะหลัง โดยการเติบโตของอาณานิคมทำให้ต้องมีการทำเกษตรมากขึ้น รวมไปถึง รัฐบาลประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู มีนโยบายให้น้ำหนักในการพัฒนาเศรษฐกิจมากกว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งยังส่งเสริมให้เปิดป่าเพื่อขยายพื้นที่การเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ทั้งๆ ที่รัฐบาลหลายชุดก่อนหน้านี้ ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่ามาได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการมีส่วนร่วมกับชุมชน และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

ไฟป่าในบราซิลมักจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้ง ปีไหนแล้งจัดก็มีโอกาสเกิดไฟป่าได้มาก แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่จุดไฟเผาป่าให้หญ้าระบัดใบเพื่อนำปศุสัตว์มาเลี้ยง และสำหรับปีนี้เป็นปีที่มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ไฟป่าที่เกิดขึ้นจึงน่าจะเป็นผลโดยตรงของการบุกรุกทำลายป่าที่เพิ่มมากขึ้น โดยระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค. 2562 ตรวจพบการเกิดไฟป่าในป่าแอมะซอนมากถึง 72,000 จุด ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ระหว่างวันที่ 15-21 ส.ค. เกิดไฟป่ามากถึง 9,500 ครั้ง

ถ้าป่าดิบชื้นแอมะซอนถูกทำลายจะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

ป่าดิบชื้นแอมะซอน มีบทบาทสำคัญต่อชั้นบรรยากาศโลก เพราะเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของที่หมุนเวียนอยู่ทั่วโลก รวมไปถึงน้ำที่หมุนเวียนอยู่ในลุ่มแม่น้ำแอมะซอนคิดเป็นร้อยละ 15-16 ของน้ำจืดทั่วโลก การไหลของมันช่วยพัดพาตะกอนดินและแร่ธาตุไปเติมความอุดมสมบูรณ์ ให้แก่พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำ ดินดอนปากแม่น้ำ และระบบนิเวศชายฝั่งมากถึง 1.2 ล้านตันต่อปี ถ้าแหล่งผลิตออกซิเจนถูกทำลายไปมนุษย์ก็จะขาดอากาศบริสุทธิ์ทั่วโลก

ป่าดิบชื้นแอมะซอนป่าดิบชื้นแอมะซอน

และถ้าเรายึดตัวเลขการคาดประมาณที่ว่า โลกใบนี้มีสิ่งมีชีวิต 12.5 ล้านชนิดพันธุ์ ป่าแอมะซอนก็เป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับ 1 ใน 10 ของสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่พบทั่วโลก โดยยอดรวมการค้นพบสิ่งมีชีวิตในป่าแอมะซอนที่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามี พืช 40,000 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 427 ชนิด นก 1,300 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 378 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำมากกว่า 400 ชนิด ปลาน้ำจืดอีกมากกว่า 3,000 ชนิด และแมลงราว 2.5 ล้านสายพันธุ์ โดยถ้าระบบนิเวศล้มไป แน่นอนว่ามันก็จะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook